เปิดตัว 3 ไอเท็มเมคอัพสุดเริ่ดจาก IN2IT  ที่คลีโอรักมาก

ถ้าให้พูดถึงไอเท็มเมคอัพที่ใช้ยังไงก็ไม่เบื่อ หยิบมาใช้ตอนออกงานก็สวยแพง ใช้ในวันรีบ ๆ ก็สวยเป๊ะ ใช้ตอนไหนก็ได้ลุคสวยทุกครั้ง คลีโอขอยกให้แบรนด์ IN2IT เป็นแบรนด์ขึ้นหิ้งของเมคอัพราคาน่ารักแต่คุณภาพเกินต้าน ยิ่งตอนนี้เดินทางมาถึงเทศกาล CLEO Beauty Hall of Fame 2024 คลีโอก็ไม่พลาดมอบรางวัลให้ IN2IT ไปอีกปี รอบนี้คว้ามงไปจุก ๆ 3 ชิ้น บอกเลยว่าทุกชิ้นที่ให้รางวัล คลีโอรักมากกก และอยากแชร์ต่อจริง ๆ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย 

สนุกให้สุด ไม่หยุดเป็นตัวเอง เพิ่มความมั่นใจใต้วงแขนด้วยไอเท็มสุดเริ่ดจาก Ri en 

มีใครเป็นสายฟรีสปิริตแบบเราบ้าง จะทำอะไรก็ต้องทำให้สุด ไม่หยุดเป็นตัวเอง ลุย ๆ พร้อมทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะปาร์ตี้ ทำกิจกรรม หรือเที่ยวในแบบที่ต้องการ แต่มีอยู่หนึ่งสิ่งสำคัญที่สาว ๆ อย่างเราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ นั่นก็คือเรื่องผิวใต้วงแขนนั่นเอง เพราะถ้าหากผิวบริเวณนั้นดำคล้ำ หรือมีกลิ่น ไม่เนียนสวย ก็อาจทำให้ความมั่นใจหรืออินเนอร์ความกล้าของเรานั้นหายไปด้วยได้เช่นกัน แต่วันนี้ คลีโอมีไอเท็มดูแลผิวใต้วงแขนจากแบรนด์ลูกรักอย่าง Ri en มาฝาก แอบกระซิบว่าเป็นไอเท็มที่เราใช้มาตลอด และก็มอบรางวัล CLEO Beauty Hall of Fame 2024 ให้ด้วยนะ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังว่ามันเริ่ดยังไง




Love, Relationship

รักกันแค่ไหน พื้นที่ส่วนตัวก็สำคัญต่อหัวใจ



ต่อให้รักกันมากแค่ไหน ขอให้จำไว้ว่า

“พื้นที่ส่วนตัวสำคัญสำหรับหัวใจอย่างมาก”

เราเวิร์คฟอร์มโฮมมาหนึ่งปีกว่าแล้ว หรือจะเรียกว่าเป็นฟรีแลนซ์แบบเต็มรูปแบบก็ได้ ส่วนสามีก็เพิ่งจะผันตัวมาเป็นฟรีแลนซ์แบบหมาดๆ ช่วงเดือนแรกที่เราอยู่ด้วยกัน ‘ตลอดเวลา’ เป็นอะไรที่คาดเดาความรู้สึกได้ยาก และมันต่างจากที่จินตนาการเอาไว้นิดหน่อย

การได้อยู่กับคนที่รักตลอด 24 ชั่วโมง เป็นอะไรที่ช่วงคลั่งรักคงแฮปปี้แบบที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม แต่ในความเป็นจริง มันมีตัวเราที่อยากจะปลดปล่อยความเป็นเรา ตัวเขาที่อยากจะทำอะไรในแบบของเขา อะไรที่อยากทำด้วยตัวคนเดียว อย่างของเราคือคุยกับตัวเอง หรือเขาที่ต้องตั้งสมาธิมากๆ เวลาเขียนงานอะไรสักอย่าง

ในคอนโด 1 ห้องนั่งเล่นผสมกับห้องครัว 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และบวกระเบียงด้วยนิดหน่อย พื้นที่ไม่ใหญ่มันทำให้ไม่ว่าอีกคนทำอะไร อีกคนก็แทบจะรู้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แม้มีประตูกั้น เราไม่มีเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย ไม่มีที่ไหนให้ไป ไม่มีใครให้ไปเจอ

บางทีเราก็นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะตัวเดียวกัน ดูซีรี่ส์แล้วขำกันเสียงดัง ช่วยกันทำอาหารเก็บไว้กินหลายๆ มื้อด้วยกัน และอะไรต่างๆ นานาที่จะสามารถทำด้วยกันได้ แต่มันก็มีวันที่เราไม่รู้หรอกนะว่าเขารู้สึกอะไร ส่วนเรารู้สึกว่าเราเถียงกันซะเป็นส่วนใหญ่เหมือนเราจะมาคุยเรื่องงาน มันเลยพาลทำให้อยากจะแยกมุมกันไปคุยกับตัวเองสักพัก แต่จะให้แยกกันไปได้ไกลแค่ไหน สุดมุมหนึ่งของห้องนอนกับโซฟาในห้องนั่งเล่น ห่างกันไม่เกิน 20 ก้าว

กับเพื่อนร่วมงาน เราอาจมีไม่พอใจกันบ้าง เถียงกันบ้าง แต่ก็เลือกจะไม่กินข้าวด้วยกันได้ หรือไม่ต้องกลับบ้านไปเจอกัน ต่างกันกับคู่ชีวิต เชื่อเถอะว่าคู่ที่อยู่ด้วยกัน มันยากที่จะแยกจากกัน แต่มันก็ต้องมีเวลาที่ได้แยกจากกันระหว่างวันเช่นกัน มันเฮลธ์ตี้กว่าในความสัมพันธ์

การอยากมี ‘เวลาของฉัน’ มันไม่ได้หมายความว่าเราไม่อยากอยู่ด้วยกัน หรือเราไม่ได้รักกันมากเท่าเดิมอีกแล้ว ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ ‘เวลาของฉัน’ มันทำให้เราได้ shape ความรู้สึกของตัวเองเพื่อไปใช้เวลาร่วมกัน ซึ่งอาจเป็นเวลามากหรือน้อยมันไม่ได้สำคัญเท่ากับว่าเวลาเหล่านั้นมันมีคุณภาพมากกว่าปริมาณ

ความจริงแล้วเรายังไม่ได้มองว่านี่คือปัญหา แต่ว่าถ้าปล่อยไว้ในอนาคตมันจะเป็นเหมือนด้ายเส้นเล็กที่พันกันยุ่งจนเป็นปม ปมที่แกะไม่ไหว ตัดทิ้งไปเลยแล้วกัน และเราก็จะไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้น เราหาเวลานั่งคุยกับตัวเองจนได้ อาจจะตื่นเช้าหน่อยแล้วไปนั่งบนเก้าอี้ตัวโปรด มองออกไปที่นอกหน้าต่าง ถามสารทุกสุขดิบเธอเป็นยังไง สุขสบายดีไหม ถ้าไม่ ก็เปิด pinterest หา self-care challenge ทำเดี๋ยวนั้น

และปล่อยให้เขามีเวลาแบบนั้นเหมือนกัน แล้วอย่าลืมว่าเราต้องมีเวลาที่นั่งฟังกัน ปิดซีรี่ส์แล้ว deep talk สักหนึ่งครั้งใน 3-4 วัน โชคดีที่สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราสองคนชอบทำด้วยกันเป็นประจำ เพราะเชื่อว่าในทุกความสัมพันธ์ เปิดใจให้กันมันทำให้หัวใจเซฟกว่า เราจะรู้เลยว่าคนๆ นี้เราฝากใจเอาไว้ด้วยได้ไหม ถ้าไม่ก็อาจจะต้องป๋าพอที่จะปล่อยให้ต่างไปเติบโตในทางที่ต่างกัน

By Jindaporn

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']