ต่อให้รักกันมากแค่ไหน ขอให้จำไว้ว่า
“พื้นที่ส่วนตัวสำคัญสำหรับหัวใจอย่างมาก”
เราเวิร์คฟอร์มโฮมมาหนึ่งปีกว่าแล้ว หรือจะเรียกว่าเป็นฟรีแลนซ์แบบเต็มรูปแบบก็ได้ ส่วนสามีก็เพิ่งจะผันตัวมาเป็นฟรีแลนซ์แบบหมาดๆ ช่วงเดือนแรกที่เราอยู่ด้วยกัน ‘ตลอดเวลา’ เป็นอะไรที่คาดเดาความรู้สึกได้ยาก และมันต่างจากที่จินตนาการเอาไว้นิดหน่อย
การได้อยู่กับคนที่รักตลอด 24 ชั่วโมง เป็นอะไรที่ช่วงคลั่งรักคงแฮปปี้แบบที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม แต่ในความเป็นจริง มันมีตัวเราที่อยากจะปลดปล่อยความเป็นเรา ตัวเขาที่อยากจะทำอะไรในแบบของเขา อะไรที่อยากทำด้วยตัวคนเดียว อย่างของเราคือคุยกับตัวเอง หรือเขาที่ต้องตั้งสมาธิมากๆ เวลาเขียนงานอะไรสักอย่าง
ในคอนโด 1 ห้องนั่งเล่นผสมกับห้องครัว 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และบวกระเบียงด้วยนิดหน่อย พื้นที่ไม่ใหญ่มันทำให้ไม่ว่าอีกคนทำอะไร อีกคนก็แทบจะรู้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แม้มีประตูกั้น เราไม่มีเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย ไม่มีที่ไหนให้ไป ไม่มีใครให้ไปเจอ
บางทีเราก็นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะตัวเดียวกัน ดูซีรี่ส์แล้วขำกันเสียงดัง ช่วยกันทำอาหารเก็บไว้กินหลายๆ มื้อด้วยกัน และอะไรต่างๆ นานาที่จะสามารถทำด้วยกันได้ แต่มันก็มีวันที่เราไม่รู้หรอกนะว่าเขารู้สึกอะไร ส่วนเรารู้สึกว่าเราเถียงกันซะเป็นส่วนใหญ่เหมือนเราจะมาคุยเรื่องงาน มันเลยพาลทำให้อยากจะแยกมุมกันไปคุยกับตัวเองสักพัก แต่จะให้แยกกันไปได้ไกลแค่ไหน สุดมุมหนึ่งของห้องนอนกับโซฟาในห้องนั่งเล่น ห่างกันไม่เกิน 20 ก้าว
กับเพื่อนร่วมงาน เราอาจมีไม่พอใจกันบ้าง เถียงกันบ้าง แต่ก็เลือกจะไม่กินข้าวด้วยกันได้ หรือไม่ต้องกลับบ้านไปเจอกัน ต่างกันกับคู่ชีวิต เชื่อเถอะว่าคู่ที่อยู่ด้วยกัน มันยากที่จะแยกจากกัน แต่มันก็ต้องมีเวลาที่ได้แยกจากกันระหว่างวันเช่นกัน มันเฮลธ์ตี้กว่าในความสัมพันธ์
การอยากมี ‘เวลาของฉัน’ มันไม่ได้หมายความว่าเราไม่อยากอยู่ด้วยกัน หรือเราไม่ได้รักกันมากเท่าเดิมอีกแล้ว ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ ‘เวลาของฉัน’ มันทำให้เราได้ shape ความรู้สึกของตัวเองเพื่อไปใช้เวลาร่วมกัน ซึ่งอาจเป็นเวลามากหรือน้อยมันไม่ได้สำคัญเท่ากับว่าเวลาเหล่านั้นมันมีคุณภาพมากกว่าปริมาณ
ความจริงแล้วเรายังไม่ได้มองว่านี่คือปัญหา แต่ว่าถ้าปล่อยไว้ในอนาคตมันจะเป็นเหมือนด้ายเส้นเล็กที่พันกันยุ่งจนเป็นปม ปมที่แกะไม่ไหว ตัดทิ้งไปเลยแล้วกัน และเราก็จะไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้น เราหาเวลานั่งคุยกับตัวเองจนได้ อาจจะตื่นเช้าหน่อยแล้วไปนั่งบนเก้าอี้ตัวโปรด มองออกไปที่นอกหน้าต่าง ถามสารทุกสุขดิบเธอเป็นยังไง สุขสบายดีไหม ถ้าไม่ ก็เปิด pinterest หา self-care challenge ทำเดี๋ยวนั้น
และปล่อยให้เขามีเวลาแบบนั้นเหมือนกัน แล้วอย่าลืมว่าเราต้องมีเวลาที่นั่งฟังกัน ปิดซีรี่ส์แล้ว deep talk สักหนึ่งครั้งใน 3-4 วัน โชคดีที่สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราสองคนชอบทำด้วยกันเป็นประจำ เพราะเชื่อว่าในทุกความสัมพันธ์ เปิดใจให้กันมันทำให้หัวใจเซฟกว่า เราจะรู้เลยว่าคนๆ นี้เราฝากใจเอาไว้ด้วยได้ไหม ถ้าไม่ก็อาจจะต้องป๋าพอที่จะปล่อยให้ต่างไปเติบโตในทางที่ต่างกัน
By Jindaporn