5 วัดปังในฮ่องกง ขออะไรเทพให้รัวๆ

“เก่งอย่างเดียวแต่ไม่เฮงก็ประสบความสำเร็จยาก” คำพูดนี้ดูจะไม่เกินความจริงไปสักเท่าไหร่นัก ในปัจจุบันเป็นยุคที่วัยรุ่นกำลังสร้างตัว หลายๆคนที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจบางคนบอกว่าเกิดจากความสามารถของตัวเอง แต่หลายๆคนเปิดเผยความลับว่าส่วนหนึ่งมาจากการมูในสถานที่ที่มีพลังงานประกอบกับพิธีกรรมที่ถูกต้องทำให้มีทั้งพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และกำลังใจในการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

“อกหัก” คือสิ่งยอดเยี่ยมที่เกิดกับฉัน ฉันเลิกโกหกตัวเองสักที

เราอย่าเพิ่งกลัวการอกหัก หรือการเลิกกับใครนะ เพราะเหตุการณ์จี๊ดในหัวใจนี้ จะนำพาคุณไปเจอตัวเอง เจอสิ่งใหม่ เจอโอกาสดีๆ ในชีวิตมากมาย เหมือนกับที่ เอมม่า กิบบ์ส นักเขียนและโปรดิวเซอร์รายการทีวีของออสเตรเลียเจอมา เธอเอาสิ่งนี้มาพูดในเท็ด ทอล์ค หมัดฮุคเลยคือเธอบอกว่า “อกหักไม่เพียงแต่จะทำให้เธอเห็นหัวใจตัวเอง ยังทำให้เธอเลิกโกหกตัวเอง และก็เลยเลิกโกหกทุกสิ่ง เรื่องดีๆ ในชีวิตเลยสาดเข้ามาเต็มๆ เลย” เอมม่าเล่าว่า…. ชีวิตฉันเหมือนจะดีนะ ฉันได้ทำงานที่ฝัน อยู่ในเมืองที่ดี “แต่ฉันกลับไม่มีความสุข ฉันโกหกตัวเองทุกวันว่า เดี๋ยวมันก็จะดีเองแหละ” ฉันใช้ชีวิตไป 3 ปีเต็มที่โกหกตัวเอง และบอกตัวเองว่าสิ่งนี้เป็นไปตามแพลนแล้วนะ ในขณะที่หัวใจฉันบอกว่า “เฮ้! เธอมีปัญหาแล้วล่ะ” ฉันใส่เสียงนี้เอาไว้ในตู้ และเอาความคิดควบคุมมันเอาไว้ ฉันคิดว่าถ้าฉันพยายามมากพอจะทำให้ทุกสิ่งเวิร์ค มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่สิ่งที่ฉันได้รับคือ ทั้งกาย อารมณ์ จิตวิญญาณของฉันมันเหือดแห้งมาก ฉันกลายมาเป็นคนที่ขึ้นอยู่กับแผนในชีวิต ฉันไม่ไปเจอเพื่อน ไม่ไปเที่ยวไหน ไม่เจอครอบครัว ไม่เจอใครใหม่ๆ และฉันไม่อยากทำงานกับแพชชั่นของตัวเอง ฉันมัวแต่หาทางซ่อมสิ่งที่ไม่ใช่ของชีวิตฉัน ความตลกก็คือในขณะที่คุณกำลังพยายามทำให้แผนชีวิตของคุณเวิร์ค แล้วคุณก็ต้องฝืดมากๆ นั่นน่ะ คุณเริ่มจะคิดแล้วว่า “แล้วทำไมฉันต้องมีแผนนั้นตั้งแต่แรกนะ” ฉันเริ่มลืมว่าทำไมฉันถึงอยากเป็นนักเขียน […]

ความออฟของผู้ชาย 12 ราศี อะไรที่เขาขอไม่ทน คบเขาจะได้เดาทางกันถูก

เคยมั้ยคบใครไปสักพักแล้วถึงกับหลอน ตกลงเธอนิสัยแบบนี้จริงๆ หรือ? บอกเลยว่าคน 12 ราศีมีนิสัยและความชอบไม่เหมือนกัน มาดูกันว่าอะไรคือความออฟของหนุ่มแต่ละราศี การเข้าใจบุคลิก นิสัยใจคอของคนแต่ละราศี จะทำให้เรารู้จักธรรมชาติของเขา และรู้ว่าพอมีความสัมพันธ์กับพวกเขา เราจะเข้าใจเขาได้ยังไงบ้าง และความเป็นคนแต่ละราศีจะมีอิทธิพลต่อแพชชั่น ความต้องการของเขายังไง ทั้งหมดก็เพื่อจะให้เราได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง มีความหมายต่อกัน ดีงามต่อกันนั่นเอง มาดูกันเลยนะ “ความออฟของคน 12 ราศี” มีอะไรบ้าง ราศีเมษ (20 มีนาคม – 19 เมษายน) ชาวเมษมีธรรมชาติของคนทะเยอทะยาน พวกเขาพุ่งหาความท้าทายในชีวิต ถ้าเขาอยู่กับใครที่เฉื่อยๆ จะมีผลทำให้เขารู้สึกออฟได้ พวกเขาต้องการความตื่นเต้น ความสัมพันธ์ที่คาดเดาได้เกินไป จะทำให้พวกเขาเบื่อ ถ้ามีความสัมพันธ์กับชาวเมษ แล้ววิถีเดิมๆ โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง บอกเลยว่าอาจมีเมินกันเหมือนกันนะ ชาวเมษเขาต้องการคู่แมทช์ที่มีพลังงานค่อนข้างมีชีวิตชีวา สนใจค้นหาอะไรในชีวิตไปเรื่อยๆ ถ้าความสัมพันธ์นั้นชวนให้เขาเหมือนอยู่ในแอดเวนเจอร์ ก็จะดึงโฟกัสของเขาได้ได้ดีเลย ราศีพฤษภ (20 เมษายน – 20 พฤษภาคม) ความมั่นคง และความสม่ำเสมอคือสองสิ่งที่ชาวพฤษภถือเป็นคุณค่าของชีวิตเลยทีเดียว พวกาเขาไม่ไหวกับอะไรที่ไม่สม่ำเสมอมาก เขาจะรู้สึกไม่ปลอดภัย คู่ของเขาที่ชอบสร้างดราม่า หรือชอบเปลี่ยนแปลง […]

มั่นใจรับซัมเมอร์กับผิวสะอาดอ่อนโยน ไร้กลิ่นกายนาน 12 ชั่วโมง!

“ช่วงเวลาที่ได้อาบน้ำ” กลายเป็นโมเมนท์ดีๆ ของสาวทำงานทุกวันในการรีเฟรชตัวเองให้รู้สึกสะอาดเต็มที่  ไม่ต้องกังวลกับความสกปรกที่เราไปเจอมา ฤดูร้อนกำลังจะมาถึง อากาศร้อน เหงื่อไคล สิ่งสกปรกและมลภาวะต่างๆ เข้ามาปะทะทุกวัน ต้องเลือกครีมอาบน้ำที่เข้าใจผิวที่สุด เพื่อดูแลทำความสะอาดและปกป้องผิวจากแบคทีเรียอย่างเป็นธรรมชาติ อ่อนโยน และไม่ทำให้ผิวแห้ง วันนี้คลีโอได้เจอคู่แท้ที่ใช่กับ “ครีมอาบน้ำ Protex สูตรผสานแฟลกซ์ซีด ออยล์” ชาวคลีโอเลิฟจนต้องขอมอบมงให้เป็น Shower Cream Selected by CLEO เลยทีเดียว เพราะอาบแล้วผิวนุ่ม คงความชุ่มชื้นแบบผิวไม่แห้ง มีส่วนผสมจากธรรมชาติคอยดูแลให้สะอาด กลิ่นหอมติดผิว สดชื่นทั้งวัน เป็นกลิ่นที่ผู้หญิงหรือผู้ชายใช้ก็มีความสุขแน่นอน ถึงเวลา Refreshing Time อย่างแท้จริง!ไม่ว่าวันทำงานหรือออกไปเที่ยวสนุก สาวๆ ต้องเจอความเหนียวเหนอะหนะ ความไม่สบายตัวมากแค่ไหน ให้ครีมอาบน้ำ Protex ช่วยดูแลเถอะ เพราะนี่คือโฉมใหม่ที่มี 4 เหตุผลของการที่คลีโอยกให้เป็นเดอะเบสท์ของครีมอาบน้ำตอนนี้ที่ผิวต้องการ… 2. มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ Flaxseed Oil หรือน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ อยู่ในทุกสูตรของครีมอาบน้ำ Protex ซึ่ง Flaxseed Oil เป็นธัญพืชจากธรรมชาติ […]




Love

รักมากี่ครั้ง ก็จบด้วยน้ำตา แต่ครั้งนี้.. “ฉันจะไม่ยอม”

Broken heart

คำอันศักดิ์สิทธิ์ที่เขาบอกว่า “ถ้าคุณลัคกี้ อิน เกม คุณจะไม่ลัคกี้ อิน เลิฟ” คุณอาจเป็นตัวท้อปเรื่องงานนะ แต่บอกเลยว่าเรื่องความรักแทบจะดิ่งลงเหว หรือการที่ถูกหมอดูจ้องหน้าแล้วพูดประโยคว่า “เธอเป็นคนเก่งนะ แต่ทำไมว้าเหว่อย่างนี้” ฟังแรกๆ ก็แอบยิ้มในใจ อะ อย่างน้อยเราเก่ง แต่พอผ่านไปสิบปี สิบห้าปี อายุเริ่มเข้าสามสิบปลาย ไปสี่สิบต้น ไม่สนุกละ หรือ

“เราไม่มีโชคเรื่องความรักจริงๆ”

จากมีแฟน มีความรักในวัยยี่สิบ วัยสามสิบ รักผู้ชายมาก็ไม่ได้เยอะมาก ไม่เกิน 3 คนนะ แต่พังหมดทุกคน เข้าใจเขาก็แล้ว ทำดีก็แล้ว ไม่ตาม ไม่เยอะ แต่สุดท้ายเขาก็บอกเลิกเฉยๆ บ้าง ทะเลาะกันจนต้องเลิกบ้าง หรือโทรศัพท์เด้งกลางดึก เขากำลังอยู่กับคนอื่น ถามว่าเป็นตราบาปในใจมั้ย เข็ดมั้ยกับความรัก ไม่เข็ดนะ แต่ก็ไม่เซลฟ์แล้ว

อายุน้อยๆ หัวใจยังมีความยืดหยุ่นสูง ยังพอรับมือได้นะ แต่พอแตะเลขสี่ปั๊บ ถ้ายังรักษาใจไม่ดี ใจยังหาทางเดินกลับเข้าไปไม่ได้เวลามีความรัก และลึกๆ ยังไขว่คว้าอยากมีใครอยู่ คราวนี้ถ้าดันมาเจอรักที่พังอีกครั้ง บอกเลยว่าน้อตทุกตัวในร่างมันค่อยๆ ร่วงต่ำลงดิน  หัวใจอ่อนยวบกว่าทุกครั้ง คิดมาก เวิ่นเว้อกับตัวเอง มองโลกแง่ร้าย และซึมเศร้าไปเลย

“หรือเราไม่ดีจริงๆ นะ”

“หรือเราแก่”

“หรือเราไม่สวยพอ”

แล้วการที่ไปจับได้ว่าแฟนเราไปอัพเดทโพรไฟล์ในเดทติ้ง แอพ ในขณะที่คบเราอยู่ ใครจะรับได้กันเหรอ? เห็นแต่ต้องทำเป็นนิ่ง ไม่นะ โลกสอนว่าอย่าเพิ่งโวยวาย เฉยไว้ก่อน แต่ใจเร่าๆ ไม่มีความสุขเลย ปากยิ้มให้เขา แต่ตาแข็งมาก เกิดเป็นความกลัวจี๊ดขึ้นมาทันที 

“แล้วเราจะหาคนที่รักเรา แล้วเรารักได้อีกมั้ย”

กลัวหาใครไม่ได้ ไม่อยากอยู่คนเดียว เพราะก็หลอกตัวเองไม่ได้อีกเหมือนกัน ว่าเราชอบมีความรัก อยากรักคนอื่น แต่ก็รู้ว่าตัวเราไม่ง่าย ไม่ได้ชอบคนง่ายๆ กว่าจะเจอคนนี้ก็ใช่ที ใช้เวลาเป็นปีๆ

พอรักคนยาก แล้วดันเจอ แล้วรู้สึกว่าเราอยู่กับคนนี้ไปได้เรื่อยๆ สำหรับเราเขาคือติ๊กถูกทุกข้อ เรามีภาพเขาในอนาคตอยู่ในหัว พอเลิกปุ๊บ ภาพมันถูกฉีก ใจนี่ขาดวิ่นไม่มีชิ้นดีเลย โลกพังทลาย ภาพฝันดับสิ้น  “ทำไมเราต้องเจออีก ทำไมต้องร้องไห้ ทำไมไม่ลงตัว” แล้วก็กลัวว่าจะไม่เจอคนที่ใช่แบบเขา  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เลิกกับแฟนนะ แต่เจ็บมาก แล้วก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องเสียใจมากขนาดนี้

เท่าที่วิเคราะห์กับตัวเอง คือมันเกี่ยวกับความมั่นคงในใจเรา ตกลงคือยังไง? เพราะเราแก่ขึ้น เราถึงกลัวหรือเปล่า? แต่ความแก่ขึ้น เราก็มีสติขึ้นนะ ดีขึ้นทุกเรื่องในชีวิต ยกเว้นอย่างเดียวคือเรื่อง ความรัก…..

ได้คุยกับนักจิตบำบัด เพื่อนที่เชี่ยวเรื่องนี้ อาจารย์สอนนั่งสมาธิ คุยกับพระก็คุย ปัญหาของเราคือ

“เราชอบเอาภาพฝันว่าต้องมีใครเข้ามาในตัวเรา”

และเราไม่ค่อยยอมรับความจริงว่า “อยู่คนเดียวก็มีความสุขได้” จะเถียงตลอดว่า “ไม่ได้” ฉันต้องมีให้พร้อมสิ พระอาจารย์บอกว่า “คนเราไม่ได้เกิดมา จะมีโชคทุกด้าน” เราก็ไม่ยอมรับ ทำไมล่ะ นี่เรื่องเบสิคเลยนะเรื่องมีคู่เนี่ย ก็ธรรมชาติของมนุษย์ไม่ใช่เหรอ? แล้วอีกอย่างที่ไม่เคยยอมรับก็คือ “ถ้าเขาและเราใช่ต่อกัน รักกันแล้ว ทำไมเราปรับกันไม่ได้ ทำไมต้องเลิก” เราไม่เคยเข้าใจคำว่า “อยู่ดีๆ ก็หมดเวลากันได้” ไม่เข้าใจเลย

ที่ซ้ำเติมตัวเองเข้าไปอีกคือ เราคิดว่าถ้าเรื่องความรักเราดีสักที ชีวิตจะดีหมด จะได้ไปทำอย่างอื่นแล้ว เราเหมือนรอให้เรื่องนี้ลงตัวก่อน เราลืมอะไรไปเยอะมากๆ แล้วพอมาได้ฝึกเรื่องการดึงใจของตัวเองกลับมา กับฝึกยอมรับความจริง ฝึกไม่ให้ดำดิ่ง ไม่ให้คิดฝันไปไกล ฝึกให้อยู่กับความจริงที่เรามี ไม่อยากเชื่อว่ามายด์เซ็ตทุกอย่างมันค่อยๆ เปลี่ยน

มันมีความรู้สึก “ยอม” เกิดขึ้นในใจทันที เด็กดื้อที่มัวแต่กระโดดอยากมีความรัก อยากมีคนดีๆ ในชีวิต ดูสงบลง แล้วเริ่มหันไปมองโลกทางอื่น เห็นแล้วล่ะว่าพลังใจของเรา ไม่จำเป็นต้องทุ่มแต่เรื่องความรัก แค่เปลี่ยนโฟกัสไปตั้งใจทำอย่างอื่นมากขึ้น

ยอมออกจากพื้นที่แห่งความฝันนี้ พอได้ก้าวออกมาเป็น เรากลับโล่ง และมีความสุขกับตัวเองได้

นึกถึงเรื่องความรักพังๆ ของตัวเอง น้ำตาไม่ไหลแล้ว เลิกโทษตัวเอง “ฉันนี่ล่ะสวย” “ฉันแซ่บด้วยนะ” กลายมาเป็นความเข้าใจตัวเราในมุมใหม่ เราไม่เคยรู้เลยว่า ในสายตาของเพื่อนๆ เราเป็นเพื่อนที่อยู่ในใจเขา

จากแต่ก่อนเวลารักพังๆ เรามักจะหนี ต้องเดินทาง ต้องไปที่ไกลๆ ไปล้างใจให้หมด หรือหนีไปกินเหล้ากับเพื่อนเกือบทุกวัน หนีจนไม่ทันมองว่า ไม่ต้องไปไหนก็ได้ เพราะทั้งหมดมันอยู่ในใจ แค่นั่งเฉยๆ แล้วปะทะกับความทุกข์ตรงๆ เจ็บก็คือรู้ว่าเจ็บ ไม่ได้ก็คือยอมรับว่าไม่ได้ ทำไมเราต้องไปลัลล้ากลบเกลื่อน เอาหอไอเฟล ทุ่งลาเวนเดอร์มาเยียวยาให้เปลืองเงินด้วย ถ้าจะไปก็ควรไปเพราะอยากดูโลกจริงๆ มากกว่าให้โลกเป็นส่วนประกอบ เพื่อให้ใจเหมือนมีเพื่อน

“กลับมาที่ใจเรา” พอความคิดจะเตลิด ความเจ็บกำลังผุดขึ้นๆ ถ้าเราแค่ใส่เสียงเพิ่มเข้าไป “ไม่เป็นไร เจ็บก็รู้ไว้ เดี๋ยวก็หายนะ” อยู่กับมันไป สังเกตตัวเองด้วยว่า อ้าว! ก็อยู่ได้นี่ ไหนเคยตีอกชกหัวว่า ถ้าไม่มีใครเราต้องแย่แน่ๆ ไม่แย่นี่นา พลังใจ แรงฮึดก็จะค่อยๆ มา เหมือนเรากำลังสู้กับตัวเราเอง แล้วบางทีการสู้ ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้ยุ่ง ไม่ต้องสาดงาน ไม่ต้องปั่นจักรยานเอาชนะร่างกาย เราแค่อยู่กับความเจ็บไป แล้วทำชีวิตให้เหมือนเดิม

ไม่อยากเชื่อว่า.. แค่ไม่ต้องพยายามจะรอดให้เร็วน่ะ มันดีต่อใจมาก การไม่ฝืนคือไม่เหนื่อยเพิ่ม แล้วพอจัดการตบความคิดเวิ่นๆ ไร้ความจริงออกไปได้ ยอมอยู่แบบคนไม่ได้นี่ล่ะ มันกลับโอเคแฮะ ไม่เชื่อเลยว่าจากที่เรามีความตั้งใจ “ฉันต้องมีใครให้ได้” มันเปลี่ยนมาเป็น “ฉันอาจไม่มีโชคเรื่องความรักก็ได้” แทนทันที พอมันผ่อนคลายแล้วยอมรับ ก็เลยไม่คาดหวังอะไร เบาลงมาก แล้วอยากจะหัวเราะดังๆ กับตัวเอง โชคเรื่องอื่นเข้ามาเลย ได้งานดีๆ มีเพื่อนใหม่น่ารักๆ คุยกับใครก็ขำๆ ขึ้น สบายใจจัง แล้วเลิกคิดไปเลยว่าเราต้องมีใครก่อนจะแก่ เอ! เอาจริงๆ เราไม่ต้องนอนจับมือใครก็ได้นี่นา ไปเจอความสุขเล็กๆ น้อยๆ เยอะขึ้นอีก

เหมือนชีวิตเรียกว่าหักมุม

แต่ก็มีคนแนะนำว่า บางทีอาจต้องยอมให้ตัวเองพังกว่านี้ ถ้าเกิดยังนิ่งไม่ได้ ยังดิ้นรนกับตัวเองอยู่ คือบางทีเราจะไม่นิ่งเลย มันเป็นบางวันที่ขั้นตอนการเยียวยาตัวเองของเรา เหมือนมันหมุนไปข้างหน้า มันเหมือนคลื่น บางวันขึ้นสูง บางวันตก แต่ที่แน่ๆ เราจะไม่ถอยหลัง รู้เลยว่าต้องตามสติให้ทัน แล้วการยอมรับว่า “เขาไม่ได้รักเราแล้ว” มันดีมาก นี่คือความจริงนี่นา

พอเริ่มดึงตัวเองได้ ถึงจะมีร้องไห้บ้าง มันเปลี่ยนไปแล้ว เราไม่ร้องไห้เพราะคำถาม ทำไมๆๆๆ แต่ร้องเพราะเราต้องเอามันออกมาอีก ออกมาอีก ความเสียใจคือการปล่อยออกแทน แล้วเรามีแก่นของตัวเองใหม่ด้วยนะว่า เราอยากสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ ไม่อยากให้พังหนักๆ อีกแล้ว อยากให้ตัวเองพูดได้เต็มปากว่า ฉันอยู่คนเดียวได้แล้ว ก็เลยพยายามดูแลตัวเอง กินน้ำเยอะๆ กินอาหารดีๆ อ่านหนังสือ ตั้งใจทำงาน ให้เรามั่นคงกับตัวเอง และได้ทำสิ่งที่เคยฝัน คิดเลยว่าถ้าเรามีฝัน แล้วทำมันได้จริง นั่นก็ความหมายหนักๆ ให้ชีวิตเราแล้ว ไฟมาทันทีเลย

คำว่า “ฉันจะไม่ยอมพังอีก” และ “ฉันยอมรับความจริง” เหมือนขัดแย้งนะ แต่เราว่ามันเบลนด์ด้วยกันแหละ กอบกันขึ้นมาเป็นเราหัวใจใหม่ มั่นใจกับตัวเองเลยว่า ครั้งนี้เราเปลี่ยนไป เจ็บหนักต้องไม่มี

เหมือนเรามีหัวใจใหม่ และได้เข้าใจหัวใจนั้นแล้ว

#CleoLove

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']