เรื่องราวของผู้หญิงอัฟกานิสถาน ทำให้หัวใจเราสั่นสะเทือนมากเหลือเกินกับหนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้ The Breadwinner เล่าเรื่องการเป็นผู้หญิงอัฟกานิสถานได้อย่างเข้าใจในทันที เป็นแอนิแมชั่นที่จ้องตาไม่กระพริบ หัวใจเต้นรัว ขอร้องกับตัวเองว่าตอนจบอย่าหดหู่นะ
เปิดเรื่องมาแรกๆ แทบจะดูต่อไม่ได้ เมื่อหนังเปิดฉากด้วยปาร์วานา เด็กสาวอายุ 11 เธอนั่งขายของแบกะดินอยู่ข้างๆ พ่อที่เสียขาไปหนึ่งข้าง เรื่องมาเดือดขึ้นเมื่อพ่อของเธอเถียงกับตาลีบัน ที่เอาลูกสาวมานั่งขายของด้วย พอตาลีบันมองหน้าปาร์วานาดีๆ ก็จะอยากเอาเธอไปเป็นเมีย พ่อเธอไม่ยอม เถียงสู้ ตาลีบันเลยโกรธ แล้วตาลีบันรู้ว่าพ่อเธอเป็นครู ตาลีบันบุกมาบ้านเธอ เอาเรื่องที่ว่าพ่อมีหนังสือในบ้านมาอ้าง และจับตัวพ่อของเธอไป
เราจะเห็นสิ่งที่ผู้หญิงโดนกระทำได้ตั้งแต่ฉากแรก ผู้หญิงอัฟกานิสถานไม่สามารถออกจากบ้านได้ ถ้าไม่มีผู้ชายไปด้วย และเมื่อพ่อของเธอถูกจับตัว ปาร์วานา พี่สาว แม่ และน้องชายเบบี้ ก็ต้องซุกตัวอยู่แต่ในบ้าน และเมื่ออาหารหมด พวกเธอจะทำอย่างไรกัน กฏเหล็กของตาลีบันคือ “ห้ามผู้หญิงออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ถ้าไม่มีผู้ชายไปด้วย” มีฉากหนึ่งที่ปาร์วานาเห็นผู้หญิงในบ้านหลังอื่น เธอไม่มีผู้ชายในบ้าน และจะออกมาซื้อยา ก็ถูกตาลีบันไล่กลับเข้าไป เธอขอร้อง ก็โดนทำร้ายทันที ประโยคที่ว่า
“พวกผู้หญิงเข้าไปอยู่ในนั้นซะ”
มันบาดใจมาก นึกถึงเหตุการณ์จริงในอัฟกานิสถานที่เพิ่งอ่านข่าวเจอ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเพิ่งลงเรื่องนี้ไปเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา พาดหัวว่า “ตาลีบันมาเคาะประตูบ้านเธอ 3 ครั้ง และครั้งที่สี่ พวกเขาก็ฆ่าเธอ” มันกัดกินหัวใจมาก นาเจียอยู่ในบ้านกับลูกชาย ลูกสาว 4 คน มานิซ่าลูกสาววัย 25 รู้ว่าตาลีบันคงจะต้องมาที่บ้านเธอแน่ๆ มานิซ่าเล่าว่า “แม่ฉันบอกพวกเขาว่า เราจน เราจะทำอาหารให้พวกคุณได้ยังไง” ตาลีบันบอกแม่ของเธอให้ทำอาหารให้พวกเขา 15 คนกิน พอแม่ของเธอพูดแบบนั้น ตาลีบันก็ทุบตี ทำร้าย พวกเขาตีเธอด้วยปืน มานิซ่าตะโกนบอกให้พวกเขาหยุด ตาลีบันหยุดนิดหนึ่ง และโยนระเบิดมือเข้าไปอีกห้องในบ้านของเธอ ไฟลุกขึ้น แม่ของเธอเสียชีวิตลงจากการถูกทำร้าย
ใน The Breadwinner มีฉากที่แม่ของปาร์วาน่าโดนทำร้ายเหมือนในเรื่องจริงที่มานิซ่าเล่า แม่เธอออกไปตามหาพ่อที่ถูกตาลีบันจับในวันรุ่งขึ้นทันที เธอเอาไม้เท้าไปด้วย และรูปถ่ายของพ่อ พร้อมกับปาร์วานา และเธอก็ถูกตาลีบันทำร้ายด้วยไม้เท้าที่เธอถือไป สิ่งเดียวที่ปาร์วานาจะช่วยครอบครัวของเธอได้ คือเธอต้องปลอมตัวเป็นผู้ชาย เพื่อหาอาหารให้ครอบครัว และเธอจะตามหาพ่อให้ได้ ปาร์วานาเปลี่ยนชื่อเป็นโอเดช เธอบอกว่าชื่อเธอแปลว่าไฟ และใส่ชุดของสุไลมาน พี่ชายที่เสียชีวิตของเธอ ที่แม่ไม่เคยเล่าให้ฟังว่าเขาเสียชีวิตเพราะอะไรหนังเล่าความรู้สึกในใจของทุกคนผ่านเรื่องเล่า ผ่านปาร์วานา เธอกับพ่อเชื่อมโยงกันด้วยเรื่องเล่า พ่อมักให้เธอเล่าเรื่องให้ฟัง
หนังทำให้เห็นถึงความรัก และความผูกพันของพ่อกับเธออย่างลึกซึ้ง ตอนกลางคืนปาร์วานาถูกทั้งแม่ และพี่สาวขอให้เล่าเรื่องให้น้องคนเล็กฟัง และพวกเขาเองก็นอนคอยฟังเธอด้วย ตรงนี้ที่หนังทำให้สวยงามเหลือเกิน เรื่องเล่าในจินตนาการ ที่เหมือนเยียวยาคนทั้งครอบครัว เหมือนเป็นแสงสว่างเพียงสิ่งเดียวของทุกคน ทำให้เราคิดเลยว่า หรือคนอัฟกานิสถานเขาใช้เรื่องเล่าเช่นนี้หล่อเลี้ยงหัวใจพวกเขา
ภาพผู้หญิงอาฟกานิสถานในข่าวที่นั่งคลุมหน้ามิดชิดอยู่ในบ้าน เด็กตัวเล็กๆ นั่งกอดแม่
อะไรที่จะทำให้ลูกเขามีความสุขกันนะ ถ้าไม่ใช่เรื่องเล่าจากแม่ไม่ว่าแม่ของปาร์วานาจะเขียนจดหมายหาญาติให้พาพวกเขาไปอยู่ที่อื่น ขอให้ได้ไปอยู่บ้านที่มีผู้ชายเถอะแค่ไหนก็ตาม แต่ปาร์วานาก็ยืนยันว่าเธอจะต้องตามหาพ่อให้ได้
หนังแทรกเรื่องราวของความมีน้ำใจของมนุษย์ด้วยกันเอาไว้ ทั้งจากเพื่อนของเธอที่ปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชายเหมือนกัน เพื่อนที่พาเธอไปทำงานหาเงินเพื่อไปให้สินบนคนคุมพ่อ เพื่อนที่มีเพียงฝันเดียวคือขอให้ได้เห็นทะเล และจากชายแปลกหน้าชื่อราซิค ชายที่ถามปาร์วานาว่า “มีชื่อฮาลาเขียนไว้ตรงไหนในจดหมายนี้” เขาอ่านหนังสือไม่ออก และฮาลาคือเมียของเขาที่เพิ่งเสียชีวิตไป และพอปาร์วานาถามว่าฮาลาแปลว่าอะไรเหรอ เขาตอบเธอว่า “บางครั้งในคืนที่ฟ้ากระจ่าง มีแสงอยู่รอบๆ ดวงจันทร์ นั่นเรียกว่า “ฮาลา”” และเขาคนนี้เองที่เป็นคนช่วยพ่อของเธอออกมา
ในหนังยังทำให้เห็นหัวใจของผู้หญิงด้วยกัน หัวใจแม่ที่ไม่ยอมทิ้งลูก ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม The Breadwinner คลายปมในใจปาร์วานาเรื่องสุไลมานพี่ชายของเธอในตอนใกล้จบผ่านเรื่องเล่าของเธอ และในฉากที่เธอช่วยพ่อของเธอไว้ได้ คืนนั้นมีฮาลาเกิดขึ้นบนท้องฟ้า เธอเริ่มพูดบทกวีให้พ่อของเธอฟัง “เราคือดินแดนที่ประชาชนเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุด เราอยู่ตรงเส้นขอบของอาณาจักร ที่มีการรบราฆ่าฟัน เราคือดินแดนรกร้าง กลางแอ่งของเทือกเขาฮินดูกูซ ถูกทะเลทรายตอนเหนือส่งความร้อนแรงแผดเผา ผืนดินดำสนิทกระทบยอดน้ำแข็ง พวกเราคืออารีอานา ดินแดนของผู้สูงศักดิ์ พูดให้ดีขึ้น ไม่ใช่พูดให้ดังขึ้น” สั่นสะเทือนใจอย่างที่สุดแล้ว The Breadwinner คือแอนิเมชั่น ที่ดัดแปลงมาจากนิยายขายดีของ เดบาร่าห์ เอลลิส นักเขียนและนักเคลื่อนไหวชาวแคนาดา ที่เธอเขียนมาจากการที่ได้คุยกับผู้หญิงและเด็กสาวในค่ายผู้ลี้ยภัยในปากีสถานช่วงปลายยุค 90 และแองเจลิน่า โจลี่ ที่เธอเป็นทั้งนักแสดงและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน มาเป็นเอ็กซิคิวทีฟ โปรดิวเซอร์ด้วย
เรื่องนี้สร้างเมื่อปี 2017 และได้เข้าชิงออสการ์สาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมด้วย ถ้าใจไม่แข็งพอที่จะอ่านข่าวผู้หญิงในอัฟกานิสถาน ลองดู The Breadwinner นะ เราจะเข้าใจพวกเธอได้ดีเลย แต่เอามือกุมหัวใจ และเตรียมปาดน้ำตาไว้ด้วยนะ เพราะไม่น่าเชื่อว่าโลกนี้จะมีใครต้องเจอชีวิตเช่นนี้จริงๆ ชม The Breadwinner ได้ที่ Netflix