ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Self Love

ความรัก..อธิษฐานขอได้ ขอกับจักรวาล แล้วเชื่อให้มั่น ความรักจะเข้ามาหาเอง

ความรัก

เรามักแอบขอในใจเสมอ “ขอให้ฉันได้เจอคนที่ใช่เถอะ” แต่การอธิษฐานขอความรักของเราอาจไม่สตรองพอ วิธีที่จะเข้าใจพลังของจักรวาล แรงดึงดูดของโลกเขาเรียกกันว่า Manifest ก็คือต้องส่งความชัดออกไปจากใจเรา แผ่ไปให้กว้างออกไป เหมือนเราบอกโลกดังๆ นั่นล่ะว่า “อยากได้ความรักดีๆ อยากเจอคนดีๆ”

สิ่งแรกเลยที่ต้องทรงพลังให้ได้ก่อนก็คือ ใจเราต้องเปิดกว้างที่สุด เรียกว่าต้องไม่สงสัยอะไรในคำขอของตัวเอง และเชื่อในสิ่งที่จักรวาลจะให้เรากลับมา Manifest จะเวิร์คถ้าเราคิดอะไรเป็นบวก หรือใช้สร้างภาพที่เราอยากเห็น แมนิเฟสท์ยังสร้างความเชื่อ และเอาสิ่งที่เราคิดมาทำให้เกิดขึ้นจริงด้วย

เคยได้ยินไหม? คนบางคนตั้งใจประกาศบอกฟ้าออกไป แล้วเขาก็ได้ เคยมีเพื่อนสาวคนหนึ่ง เธอเคยให้คำสัญญากับตัวเองดังๆ ว่า “จะไม่ขอมีใครเด็ดขาด ถ้าไม่เจอคนที่ดีจริงๆ” เธอเรียกว่าเป็นดาวของรุ่นเลย และยอมโสดในขณะที่เพื่อนรอบตัวมีแฟนกันหมด เธอโสดไปเกือบ 10 ปี จนกระทั่งมาเจอกับเขา หนุ่มอเมริกันบอร์นไชนีส แล้วก็คบกันสักพักก็แต่งงานกัน เจอเพื่อนคนนี้อีกที ยังจำครั้งนั้นที่เธอเด็ดเดี่ยวอธิษฐานคำขอ เขาเป็นคนดี ไม่เคยทำให้เธอเสียใจ ทั้งสองมีครอบครัวที่มีความสุข และเธอสดใสไม่เคยเปลี่ยนเลย

ถ้าเราอยากแมนิเฟสท์ อธิษฐานขอความรัก ให้เห็นผล.. ลองทำตาม 5 ข้อนี้

1 ตั้งใจกับตัวเองว่า เราต้องการอะไร?

เราต้องรู้ให้ชัดว่าเราอยากมีความรักแบบไหน แค่คบกันเบาๆ รักกันยืนยาว มีกิ๊กให้ชุ่มชื่นใจ หรือคุยกันแก้เหงา เราจะแมนิเฟสท์สำเร็จก็ต่อเมื่อเราพร้อมจริงๆ ค่อยๆ คิดว่าเราอยากได้ความรักแบบไหน และคนรักแบบไหน ถามตัวเองด้วยว่าทำไมเราต้องแมนิเฟสท์ ถ้าเรารู้ชัด เราก็จะแมนิเฟสท์ได้แม่นยำขึ้น

เครื่องจะสั่นออกไป แล้วไปค้นหาแมทช์ที่ใช่ของเรา เคยา เมอร์ฟี่ โค้ชด้านความสัมพันธ์และนักจิตบำบัดแนวสะกดจิตบอกว่า กฎของแรงดึงดูดจะช่วยให้คุณค้นหาคนที่เหมือนๆ กับคุณ “คุณไม่สามารถได้สิ่งที่ต้องการ แต่คุณจะดึงดูดคนที่มีความเป็นคุณคล้ายๆ กันเข้ามา” เธอบอกด้วยว่า “ถ้าคุณเป็นคนหัวใจเต็มไปด้วยความรัก คุณก็จะได้คนแบบนั้น และก็จะมีความสัมพันธ์ที่เอนจอยไปด้วยกันได้”

เทคนิคสำคัญที่เมอร์ฟีย์บอกคือ “คุณต้องเขียนมันออกมา และใช้เวลากันมัน อาจใช้เวลาเป็นอาทิตย์ หรือสองสามวัน เพราะคนทุกคนมาพร้อมข้อดีและข้อเสีย รวมถึงตัวคุณด้วย คุณเองก็ต้องพร้อมจะมองข้ามไป และให้อภัยให้เป็นนะ”

2 สร้างภาพให้เกิดขึ้น และเชื่อในภาพนั้น

รอนนี่ ไรอัน โค้ชความรักและดวงดาวบอกว่า “แมนิเฟสท์จะเริ่มขึ้นได้ คุณต้องเชื่อว่าคนอย่างคุณจะหาความรักที่ต้องการเจอ และคุณก็เหมาะสมที่จะได้รับรักนั้น” เธอบอกด้วยว่าการค้นหาความรักนี้ อาจต้องผิดหวังก่อน “ตอนที่ฉันอยู่ในหนทางค้นหาความรัก ฉันเจอกับความผิดหวังเยอะนะ นั่นคือเรื่องของธรรมชาติ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันไปต่อได้ก็เพราะ ฉันรู้ว่าความรักคือสิ่งที่ฉันเฝ้ารอจริงๆ มันคือโชคชะตาของฉัน ยังไงทั้งชีวิตฉันก็ต้องค้นหามันให้ได้”

ฝันเอาไว้เลยถึงความรักที่คุณต้องการ คนที่ใช่ในฝัน ปล่อยให้ตัวเองเชื่อกับสิ่งนี้ และตื่นเต้นไปกับมัน และต้องเชื่อด้วยว่ามีคนแบบนี้อยู่จริง สร้างภาพเขาขึ้นมา พร้อมถามตัวเองว่า “เขาเป็นคนยังไง เขามีบุคลิกยังไง แววตา รอยยิ้ม สร้างเขาขึ้นมาเป็นภาพในใจคุณ”

3 ให้ภาพชัดในใจ และผสานไปกับความรัก

และคุณต้อง “ใช้ชีวิตออกมาจากความรักด้วย” มารีลีน ซุทเธอร์แลนด์ โค้ชด้านความรักบอกว่า “เมื่อเมนิเฟสท์ความรัก คุณต้องโอบมันเข้ามา ให้มันผสานเข้าไปกับการใช้ชีวิของคุณ ที่มีความรักเป็นตัวเดินเรื่องด้วย”

คุณต้องเอาชนะความเชื่อ ความสงสัย ว่า “เราจะดีพอหรือ เรามีคุณค่าพอหรือ” เพราะความกลัวในใจจะมาบล็อคการแมนิเฟสท์ของคุณได้ ความลื่นไหลในการส่งพลังงานความรักของคุณออกไปจะติดขัด มาริลีนบอกว่า “ความกลัวจะสร้างกำแพงบล็อคความรู้สึกจากหัวใจของคุณ ว่าคุณต้องการความรัก”

และต้องคอยเอาชนะตัวเองด้วยนะ ว่าฉันมีคุณค่าพอไหม เพราะคุณต้องมอบความรักนั้นให้ตัวเองก่อน ถึงจะส่งออกไปได้ดี “ฉันแฮปปี้กับตัวเอง และรู้สึกอยากส่งข้างในที่ฉันมีออกไป และได้รับสิ่งนี้กลับมา”

“พลังงานของความรักมาจากหัวใจที่เปิดกว้าง ที่มีทั้งความซาบซึ้ง ความอ่อนไหว ความเอนจอย ความรักจะอยู่ในความลื่นไหล ที่คุณส่งออกไปโดยไม่กลัว ปราศจากความคาดหวังว่าจะได้รับอะไรกลับมา คุณรู้ว่าคุณสมควรที่จะได้รับความรัก แต่ก็ไม่ต้องคาดหวังใดๆ”

4 ให้แมนิเฟสท์กลมกลืนไปกับความเป็นจริง

คราวนี้ต่อให้แมนิเฟสท์ แต่ไม่เกิดการกระทำ ก็อาจจะไม่เจอความรักนะ เราต้องก้าวออกไปด้วย ไปเดท เปิดใจ ไม่ต้องกลัว และเมื่อไปเดทแล้ว ไม่ใช่ว่าเจอคนแรกจะใช่เลยนะ เราต้องมีอะไรบอกเราแบบไม่ใจอ่อนว่า คนนี้ยังไม่ใช่และต้องกล้าที่จะไม่ไปต่อกับเขาเลย ต้องจำไว้ว่า “เราต้องรอ” ที่จะเจอ และใจดีกับตัวเองไว้ ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องหงุดหงิด เปิดใจ เปิดโอกาสไว้เสมอ เราจะได้เจอคนที่ใช่แน่นอน

ไรอันบอกว่า “ฉันไปเดทมา 30 คนภายใน 15 เดือน ฉันแมนิเฟสท์ตลอด ตั้งใจส่งพลังอธิษฐานและสร้างภาพความรักที่ฉันอยากมีออกไป จนกระทั่งฉันก็ได้เจอผู้ชายที่ตรงกับคนที่ฉันอยากมี เราแต่งงานกันมา 20 ปีแล้ว”

“สำคัญคือเราต้องใช้ชีวิตผสานไปกับความรักด้วย ยิ่งเรามีความตั้งใจแรงแค่ไหน เราก็จะเหมือนอยู่ในความรักนั้นได้ดียิ่งขึ้น เพราะเราจะไม่ดึงดูดคนที่เป็นคนละพลังงานกับเราเลย” ซุทเธอร์แลนด์บอกเพิ่ม เช่น “ถ้าคุณไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในความกลัว คุณก็จะไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองเจอกับ คนที่พยายามใช้อำนาจบังคับให้คุณกลัวเด็ดขาด”

พูดง่ายๆ คือเราเป็นยังไง เราเชื่อยังไง ถ้าเราชัดกับสิ่งที่เราเป็นและเชื่อจริงๆ เราก็จะได้แบบนั้นล่ะ

5 ปล่อยให้ตัวเรา ยอมโดยศิโรราบกับความรัก

ถ้าคุณเกิดไปดึงดูดความรักต่างออกไป ที่ไม่ได้สร้างภาพนั้นเข้ามา ลองให้เวลาสักนิด อาจจะมีเซอร์ไพรส์อะไรก็ได้ เพราะบางครั้งสิ่งที่ต่างออกไป อาจมีการพัฒนา และคุณก็ได้ในสิ่งที่ต้องการในที่สุดได้ “สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องโรแมนซ์นะ การอยู่ในพลังงานของความรัก จะทรงพลังไปกระทบกับสไตล์ความสัมพันธ์ทุกสิ่งทุกอย่างด้วย” แปลว่าเช่น ถึงเขาจะไม่โรแมนติกหวือหวาตามคำขอของคุณ แต่เขาอาจทำอะไรโรแมนติกเงียบๆ ให้คุณในที่สุดได้ ถ้ามีความรักหล่อเลี้ยงอยู่

และถ้าเกิดเราเจอใครที่เขาดูโอเค อาจไม่เหมือนกับที่เราสร้างภาพไว้สักทีเดียว ลองให้ความรักนำพา ดูเขาไปอีกหน่อย เราแมนิเฟสท์มาแล้ว ลองเชื่อให้ความรักของคุณเพิ่มอีกหน่อยนะ เพราะเมื่อเรายอมโดยศิโรราบต่อความรัก เรากำลังปล่อยให้ความรักเข้ามาในชีวิตจริงๆ ความเป็นไปได้ที่ครีเอทีฟหน่อย ที่จักรวาลจัดมาให้ อาจเซอร์ไพรส์คุณเลย คนที่คาดไม่ถึง อาจเป็นคนที่ใช่เลยก็ได้นะ

อ่านเรื่องราวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']