ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Self Love

19 ข้อกระตุกตัวเองว่าเราหลงตัวเอง หรืออีโก้เกินไปมั้ย?



เมื่อเรารู้สึกว่าโลกทำร้ายเรา ตัวเราคือศูนย์กลางของทุกสิ่ง ก็ไม่เป็นไรนะถ้าเราจะรู้สึกแบบนี้กับตัวเองบ้าง แต่ถ้ามันมากเกินไป เราอาจกลายร่างเป็น “คนหลงตัวเอง” ประเด็นคือเราจะมืดบอดขึ้น และเอาสิ่งที่ตัวเองเป็น และเชื่อมายึด และอาจตกหลุมรักตัวเอง หรือเอ็นดูตัวเองเกินไป ก็อาจบั่นทอนอะไรบางอย่างในระยะยาวได้นะ เช็คเลยว่าเราเป็นแบบนี้หรือเปล่า?

1. ชอบพูดแต่เรื่องตัวเอง

เราจะพูดสิ่งที่เราคิด เราเป็น ความสามารถ ความสำเร็จของตัวเอง และก็อาจเกินจริง ไม่จริงแท้ เราเหมือนเอาอะไรมาสวมตัวเราแล้วเชื่อแบบนั้น ข้อเสียคือเราจะละเลยความห่วงใยของคนอื่น และความคิดของคนอื่นจนเกินไป

2. มีแต่ความแฟนตาซีในหัว

ทั้งความสำเร็จ ความดัง ความเจ๋งอะไรต่างๆ ของเรา เราคิดว่าเรารอบรู้ มีประสบการณ์ และเรารู้สึกว่าคนอย่างเราควรได้สิ่งที่ดีที่สุด บ้าน รถ เสื้อผ้า สเตตัส ในทางตรงข้ามนั่นอาจสะท้อนความกลวงข้างในของเรา และความไม่ค่อยอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงเลยก็ได้นะ และถ้าเราไม่ได้รับสิ่งที่เราแฟนตาซีไว้ ก็อาจหงุดหงิด ไม่พอใจตามมาเลยล่ะ

3. เชื่อว่าเราเหนือกว่าคนอื่น

ก็คือเชื่อว่าคนพิเศษแบบเราเท่านั้น ถึงจะเข้าใจสิ่งที่เราเป็น เคยได้ยินประโยคคุ้นๆ มั้ยทำนองว่า “คนที่ไม่เคยผ่านมาแบบฉัน ไม่เข้าใจหรอก” อะไรแบบนี้ล่ะ และก็ใฝ่ฝันอยากมีผู้คนแบบนั้นอยู่รอบๆ ตัวด้วย และคนแบบนี้ก็มักจะมองแต่จุดด้อยของคนอื่น มากกว่าสิ่งที่เขาเป็นเขา

4. ต้องการคำชื่นชมเสมอๆ

ถึงคนแบบนี้จะบอกโลกว่าเขามั่นใจ เขาอยู่ได้เพียงใด แต่ลึกๆ เขาน่ะต้องการคนมาเยินยอสรรเสริญมาก ใครไม่เข้าพวก เขาจะไม่รับฟังเลย ต้องคนที่ชื่นชมเขาเท่านั้น เขาเลยกระตุกง่ายมาก ถ้ามีใครวิจารณ์อะไรเขา หรือถ้ามีเมนท์อะไรที่บอกถึงความกลัวของเขา ความไม่มั่นคงทางใจของเขา เขาจะโกรธและสั่นไหวอย่างแรงเลยแหละ

5. ต้องการได้รับการทรีทดีๆ

คนหลงตัวเองมักจะมีเซนส์ที่รู้สึกว่า “เขาควรได้รับการทรีทดีๆ” จากโลก จากสังคม เขาต้องการได้รับความพิเศษประหนึ่งว่าเขาเป็นผู้กอบกู้โลก และถ้าไม่ได้ เขาก็จะเหวี่ยงๆ อึดอัดๆ นั่นก็เพราะสิ่งที่เขาต้องการที่สุด คือทุกอย่างที่มาเติมความต้องการของตัวเขานั่นล่ะ และเขาก็ไม่ค่อยรู้หรอกว่า เขาเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลมากเกินไปแล้ว

6. เอาเปรียบคนอื่น

คนที่มีอาการหลงตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ เขามักคิดว่าตัวเขามีแรงดึงดูด มีออร่า มีคนรัก คนชื่นชมเขา และเขาทำอะไรก็ดูน่าตื่นเต้นสำหรับคนอื่นไปหมด เขาก็เลยมักไม่ค่อยกังวลว่าคนจะทำในสิ่งที่เขาต้องการไหม เพราะเขาคิดว่ายังไงก็ต้องได้รับสิ่งนั้น แต่ถ้าเกิดเขาไม่ได้ขึ้นมา เขาก็พร้อมจะเอาเปรียบคนอื่น หรือเทคกลับแบบเอาให้คุ้มกับความรู้สึกที่เสียไป เขาเลยไม่ค่อยมีเพื่อนแท้สักเท่าไหร่

7. อิจฉาคนอื่น

คืออาการปกติของคนหลงตัวเองเลยล่ะ เพราะว่าพวกเขามีความนับถือตัวเองต่ำ และอยากที่จะเหนือคนอื่น เวลาเขาเห็นคนอื่นมีอะไรที่เขาไม่มี ก็เลยจะอิจฉาในใจหนักมาก และเขาก็เชื่อว่าคนอื่นอิจฉาเขาด้วยเหมือนกัน

8. ยินดีที่จะเป็นศูนย์กลางความสนใจของคนอื่น

ก็เพราะเขามีความนับถือตัวเองต่ำ และอยากจะเหนือคนอื่น เขาก็เลยต้องการความสนใจจากคนอื่นตลอดเวลา เขารู้สึกว่าเขาต้องพูดแต่เรื่องของตัวเอง และก็แอบๆ อวดความสำเร็จของเขาอยู่นะ แซนเดอร์ แอน เดอร์ ลินเดน นักจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์บอกว่า “มีคนหลงตัวเองอยู่สองแบบคือ คนแนวชอบอวด กับคนแนวสั่นไหว คนที่ชอบอวดน่ะ ก็จะมาสายจองหอง ชอบพูด รักตัวเอง และต้องการให้คนชื่นชอบ”

9. ไม่ค่อยมีความเห็นใจ

ก็ไม่แปลกเพราะเขามักจะเห็นแต่ตัวเอง คนหลงตัวเองเลยไม่ค่อยเห็นใจคนอื่น เขาจะสอบตกในการจะเข้าใจความต้องการของคนอื่นไปเลย คอรี่ นิวแมน ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนียบอกว่า “คนแบบนี้เขาอาจจะบ่นเรื่องพ่อของตัวเอง ให้กับเพื่อนที่พ่อเพิ่งเสียฟังแบบไม่รู้สึกอะไรเลยก็ได้นะ” เลยเชียวล่ะ

10. เขาทะเยอทะยานแบบถึงขีดสุด

มีความทะเยอทะยานไม่ผิดเลยนะ แต่คนหลงตัวเองเขาจะมีมากเกินขีดจำกัดของคนอื่น นักบำบัด คีล แมคบริด์แห่ง Health.com บอกว่า “เขาจะฝันว่าถ้าเขามีอำนาจ มีความดังเหนือคนอื่นขึ้นไปๆ มันจะเป็นยังไงกันนะ เขาจะต้องรวยขึ้น ดังขึ้นๆ ให้ได้”

11. จริงๆ แล้วเขาไม่มั่นคงกับตัวเองมากๆ เลย

ฟังดูย้อนแย้งนะ แต่ความจริงคือคนหลงตัวเอง เขาจะรู้สึกไม่มั่นคงกับตัวเองนั่นแหละ เขาเลยคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น แซนเดอร์บอกว่า “เขามักจะรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่มั่นคงในตัวเองลึกๆ ตลอดเวลา เขาเลยต้องคอยหาแรงเชียร์จากคนอื่น และเขาต้องการแต่เสียงเชียร์แง่บวกเท่านั้นด้วยนะ” เพราะถ้าเขาโอเคกับตัวเองจริงๆ มีแก่นให้ตัวเองจริงๆ ใครคิดลบกับเขา เขาก็อาจเฉยๆ ไม่โต้ตอบ เรียกว่าไม่สนใจเลยดีกว่า

12. แน่นอนว่าเขาคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์ในสายตาคนดื่น

เขาจะแสดงความมั่นใจ รอยยิ้ม บุคลิก ท่าทีที่เขาคิดว่าคนอื่นต้องชอบเขาออกมา แต่ถ้าเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ เขาอาจจะกลายเป็นอีกคน อาจจะก้าวร้าว เอาแต่ใจตัวเองแบบหนังคนละม้วนเลยก็ได้นะ คนแบบนี้เขาจะชอบใช้เสน่ห์ของตัวเองควบคุมคนอื่นนั่นเอง เคยเห็นคนที่พยายามสาดออร่าของตัวเองใส่คนอื่นไหม นั่นล่ะแปลว่าเขากำลังเรียกร้องให้ทุกคนสนใจเขา และเขาอยากเป็นคนป๊อปปูล่าร์ท่ามกลางคนเหล่านั้นนั่นล่ะ

13. การแข่งขันคือสิ่งที่เขาเลิฟมาก

“เขาต้องชนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม” โจเซฟ เบอร์โก นักจิตบำบัดแห่ง Health.com ได้บอกไว้ และที่เขาอยากชนะก็เพราะ เขาไม่สามารถจะยินดีกับชัยชนะของคนอื่นได้ ทุกคนเลยดูเหมือนเป็นคู่แข่งกับเขาไปหมด

14. มีความแค้นสุมเลยล่ะ

ถึงคนที่หลงตัวเองมักจะดูมั่นใจ แต่ในทางตรงข้าม ถ้าเขารู้สึกมีใครทำอะไรเขาหน่อย เขาจะแค้นขึ้นมาเลย และก็ต้องหาทางโต้กลับแน่นอน “ถ้าเขารู้สึกถูกทอดทิ้ง มีคนหยามเขา เขาจะไม่มีวันปล่อยไปได้”

15. เขารับมือกับคำวิจารณ์ได้ไม่ดี

โอเคนะไม่มีใครชอบเวลามีใครมาวิจารณ์เราหรอก แต่กับคนหลงตัวเองเขามักเป็นหนักกว่าคนอื่นๆ เขาแทบจะรับมือไม่ได้ ลืมไม่ได้เลยล่ะ และก็มักโต้กลับแบบผิดๆ ด้วย แซนเดอร์บอกว่า “คนที่หลงตัวเองเขามักมีกระบวนการป้องกันตัวเองสูงมาก ถ้าเขาเจอกับคำวิจารณ์ไม่ดีเรื่องตัวเขาเอง เขาจะโต้กลับแบบสาดความโกรธออกมาอย่างเห็นได้ชัด”

16. เพอร์เฟ็คชันนิสท์คืออีกสิ่งที่เขาเป็น

ถ้าเขานึกถึงแต่ตัวเองตลอด ก็แน่นอนที่เขาต้องอยากให้ตัวเองเพอร์เฟ็คท์ที่สุด คนแบบนี้เลยมักเป็นคนเป๊ะ ผลงานเขา สิ่งที่เขาทำต้องไม่มีใครติได้ เขาอยากเพอร์เฟ็คท์เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดี และให้คนอื่นชื่นชมเขาที่สุดเลยล่ะ

17. ดีเพรสกับตัวเองด้วยเหมือนกัน

อีกสิ่งที่คนหลงตัวเองอาจพัฒนาไปเป็นก็คือ อาการดีเพรส ก็เพราะเขาโฟกัสกับตัวเองมาก เขาก็เลยกดดันตัวเองมากโดยไม่รู้ตัว ทำให้เขาดีเพรสง่าย มักมาคู่กับคนหลงตัวเองที่อีโก้สูงๆ หรือเป็นคนจองหอง ถ้าเขาพบกับความผิดหวังเขา ก็อาจเข้าโหมดดีเพรสไปเลยได้

18. ยากที่จะเข้าใจอารมณ์ส่วนลึกของตัวเอง

เขาจะขาดการหยั่งรู้ถึงต้นเหตุแห่งทุกข์ของตัวเองนะ ความกลัว ความไม่พอใจ ความละอายใจของตัวเอง เขาอาจสาวไปไม่ถึงว่า มันมาจากอะไร เพราะเขามักไปใส่ใจเรื่องคำชม ความดัง ความสำเร็จ มากกว่าจะหันเข้าสู่ต้นเหตุของหัวใจที่ไม่มีความสุข และยอมรับมันได้นั่นเอง

19. อย่าให้ใครมาดูถูกเขานะ

เขาจะเดือดมาก และไม่มีทางยอมรับได้ ถ้าเขาเจอปั๊บ เขาก็จะมีกลไกมาป้องกันตัวเอง และแอบแค้นจนอยากเอาชนะคนนั้นขึ้นมาเลย และเขาก็จะหาทางชนะให้ได้ด้วย

ถามว่าถ้าเป็นแล้วจะยังไงดี ถ้ารู้สึกว่าเป็นเยอะ แนะนำให้ปรีกษานักจิตบำบัด หรือจิตแพทย์ แต่ถ้าแค่เริ่มๆ ก็อาจให้เพื่อนช่วยเป็นกระจกให้เรา เปิดใจมากๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าใจเราจะยอมรับ และอยากแก้จริงๆ มั้ยด้วยนั่นล่ะ

อ่านเรื่องอื่น ๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']