7 คุณสมบัติในเซรั่มผิวกาย ถ้าผลิตภัณฑ์ไหนมีแปลว่าใส่ใจจริง!!

ช้อปผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายมาเพียบ คราวนี้เลยขอใส่ใจทำเช็คลิสท์ออกมาว่า ผลิตภัณฑ์ไหนจริงใจและใส่ใจจริง ต้องมีคุณสมบัติตามนี้เลยนะ

ปลายปีนี้ไปทะเลดานัง พักโรงแรมหรูห้าดาวที่ราคาเราจ่ายได้แน่นอน!

โรงแรม Fusion Resort & Villas Da Nang เวียดนามกับห้องพักห้าดาวในราคาประหยัด อาหารสดใหม่ สปาขนาดใหญ่ และวิวทะเลที่โรแมนติก เหมาะสำหรับการพักผ่อน พร้อมกิจกรรมท่องเที่ยวใกล้เคียงอย่างสะพานมังกรและเมืองฮอยอาน ทำให้การเข้าพักน่าสนใจและไม่เบื่อเลย

เผยผิวใส สร้างปราการผิวให้แข็งแรง ด้วย Ultimate Skin Nutritive Aroma Cleanse Whip Cleanser

การล้างหน้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวหน้าที่แข็งแรงและกระจ่างใส Ultimate Skin Nutritive Aroma Cleanse Whip Cleanser โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน สามารถแก้ปัญหาผิวแห้งตึงและสิวอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยส่วนผสมบำรุงถึง 8 ชนิด ได้รับรางวัล Best Gentle Foam Cleanser จาก CLEO Beauty Hall of Fame 2024

ที่สุดของกันแดดลูกรักแห่งปี ต้อง Vie Cosmetics  Perfect Touch Hydrating Sun Cream SPF50+ PA++++  คุมมัน กันน้ำ ผิวเป๊ะ

ครีมกันแดด Perfect Touch Hydrating Sun Cream SPF50+ PA++++ จาก Vie Cosmetics ได้รับรางวัล Best Sunscreen for Hydrating Skin จาก CLEO Beauty Hall of Fame 2024 ด้วยคุณสมบัติที่ปกป้องผิวจากแสงแดดและบำรุงอย่างมีประสิทธิภาพ น้ำหนักเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทำลายเมคอัพและช่วยควบคุมความมัน พร้อมสารสกัดจากพฤกษชาติเพื่อให้ผิวชุ่มชื่นและกระจ่างใส




Self Love

9 แพทเทิร์นความคิดเครียดๆ เราจะปรับยังไงให้เลิกคิดแบบนี้?



เคยได้ยินมั้ยที่ว่า หรือเราคิดแบบนี้จนเป็นนิสัย? เราทำให้ตัวเองคิดให้เครียดเองจนกลายเป็นความเคยชินไปมั้ย? หรือคือแพทเทิร์น ความคิดเครียดๆ เองนี่ล่ะ ที่มาทำร้ายเรา

คลีโออ่านเจอบทความนี้เขียนโดย โทนี่ เบิร์นฮาร์ด เจ.ดี. เธอบอกไว้ว่า “แพทเทิร์นความคิดเครียดๆ เป็นตัวอย่างของการรับรู้อะไรที่บิดเบือนไป เป็นความเชื่อว่าบางสิ่งบางอย่างเป็นจริงแบบนั้น ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย ก็เลยไม่ต้องแปลกใจที่สิ่งนี้จะนำไปสู่อาการทรมานของจิตใจในภายหลังได้”

ลองดูว่า 9 ข้อวิธีคิดที่ย่อยมาแล้วจากโทนี่ เบิร์นฮาร์ด คุณจะมีแนวโน้มว่าเป็นบ้างมั้ยนะ

  1. คิดแบบไม่ให้สเปซให้รู้สึกดี
    เมื่อคุณรู้สึกว่าไม่เพอร์เฟ็คท์ คุณคิดว่าคุณล้มเหลว เช่น คุณตั้งใจอยากทำความสะอาดบ้าน แต่รู้สึกร่างกายเจ็บปวด ก็เลยไม่สามารถ คุณสรุปเลยว่า “ฉันไม่สามารถรักษาบ้านฉันให้ดูดีได้”” แต่ถ้าอยู่ในอีกสถานการณ์ คุณอาจสุขภาพโอเค แต่งานยุ่ง ก็อาจเอาความยุ่งมาเป็นตัวบอกว่า ไม่สามารถทำความสะอาดบ้านได้ด้วยเหมือนกัน

Solution: ทางแก้คือแทนที่จะสรุปหลังชนกำแพงแบบนั้น ให้เปลี่ยนเป็นคิดว่า “เจ็บปวดประมาณนี้ อย่างนั้นฉันก็ทำเท่าที่จะทำได้ แค่จัดเตียงได้ฉันก็รู้สึกดีแล้วล่ะ”

  1. คิดอะไรเกินความจริง
    ถ้าสิ่งหนึ่งผิดพลาด คุณก็จะสรุปไปเลยว่า ทุกอย่างคงจะผิดพลาดด้วยแล้วล่ะ ถ้ามีอะไรที่เรารู้สึกว่ามันเคยเกิดขึ้นแล้ว และเราไม่ค่อยโอเคกับสิ่งนั้น ก็จะสรุปไปเลยว่าอะไรแย่ๆ ยากๆ มันชอบเกิดขึ้นกับฉันซะจริง อย่างถ้ามีงานต้องทำตรงหน้า แล้วงานค่อนข้างยาก คุณจะคิดไปเลยว่างานยากขนาดนี้ ใครจะไปทำได้ คนอย่างฉันทำไม่ได้หรอก คิดโดยไม่เผื่อคุณค่า คิดเกินจริงไปมากเพราะคุณอาจเคยเจอมาก่อน แต่มันไม่จำเป็นว่าต้องเกิดขึ้นอีกนะ

Solution: จำไว้เลยว่าประสบการณ์หนึ่งครั้งที่เราเจอ ที่ไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวังของเรา มันไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นแบบนั้นเสมอไปนะ

  1. หาอะไรเนกาทีฟเข้ามาในความคิด
    คุณมักจะผลักความคิดบวกออกไป แล้วเอาความคิดลบมาใส่แทน นิสัยแบบนี้ทำให้คุณมองไม่เห็นความจริงที่แท้จริงได้ ความจริงก็คือชีวิตเราคือการเบลนด์กันทั้งความสุข ความทุกข์ ความผิดหวัง ความสนุก นี่คือความจริงนะ อย่างถ้าเกิดมีความรักแล้วต้องเลิกกับแฟนขึ้นมา แทนที่จะมองว่าสิ่งนี้คือสิ่งไม่แน่นอน เป็นเรื่องของใจคนที่วันหนึ่งย่อมเปลี่ยนไปได้ แล้วเรากลับโฟกัสแต่สิ่งลบๆ หรือตัวเราไม่ดีพอ ทำไมเขาเป็นคนอย่างนี้ซ้ำๆ ทุกสิ่งเอาแต่เรื่องไม่ดีเข้ามาในหัว คุณก็อาจเจ็บ เศร้า จมอยู่ในอารมณ์นั้นนานได้

Solution: โฟกัสไปที่สิ่งดีๆ ที่เจอไว้ ถ้ายังรู้สึกเศร้าก็บอกตัวเองว่าโอเคนะ เศร้าไปเถอะ ไม่ต้องทำร้ายตัวเองซ้ำด้วยการคิดไม่ดีกับตัวเองจะดีกว่า

ความคิดเครียดๆ
  1. คิดเพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ให้เนกาทีฟ
    นอกจากคุณสร้างความคิดที่เนกาทีฟมาแทนเหตุการณ์ที่ไม่พอใจแล้ว ยังไปขุดประสบการณ์ในอดีต และคิดแทนคนอื่นอีก หรือเดาความคิดคนอื่นไปเลย แล้วเปลี่ยนมันให้เนกาทีฟไปด้วยอีก ซึ่งมันไม่ยุติธรรมสำหรับตัวคุณเองเลยนะ อย่างเช่นมีเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน ส่งข้อความมาหาคุณ แทนที่จะรู้สึกดีกับมัน คุณกลับเปลี่ยนมันเป็นเรื่องลบแล้วคิดว่า “เธอคงอยากได้อะไรจากเรา มากกว่าคิดถึงเรา” เหมือนคุณได้ตัดสินมิตรภาพจากคนๆ นั้นไปเรียบร้อยแล้ว

Solution: ลองถามตัวเองก่อนคิดว่า “แน่ใจหรือ?” “มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ตามที่เราคิดหรือ?” หาทางแย้งกับตัวเองเอาไว้นะ

  1. ยังไม่ทันไรก็ตัดสินไปเลย
    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ที่ได้ยิน ได้เห็นต่อหน้าและลับหลัง คุณก็ด่วนสรุปไปแล้วว่า “เขาคงคิดไม่ดีเกี่ยวกับเรา” อะไรแบบนี้ แล้วความร้ายกาจของนิสัยแบบนื้คือ คิดแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันติดเป็นนิสัยจริงๆ นะ เหมือนเราตั้งป้อมคิดลบไว้ก่อนเลย

Solution: เรียกว่าต้องลากตัวเองออกมาจากความคิดแบบนี้ตลอดเวลาให้ได้ ต้องมีคำว่า “ไม่หรอกน่า เราคิดไปเอง” หรือ “อย่ามองคนอื่นแง่ลบแบบนั้นสิ” และที่สำคัญคือ “มันอาจไม่ได้เป็นแบบที่เราคิดก็ได้นะ”

  1. เติมเชื้อไฟให้กับความคิดตลอดเวลา
    คุณคิดอะไรออกมา จะไม่จบ แล้วเปลี่ยนไปคิดอย่างอื่นเอาง่ายๆ แต่จะเติมเชื้อไฟให้เอาไปคิดต่อยอดตลอดเวลา เรื่องจบแล้ว บางทีก็ยังไม่จบเลย ข้ามไปอีกวันสองวัน จนเป็นนิสัยชอบขยายสิ่งต่างๆ จนเกินไป

Solution: สิ่งนี้เป็นต้นตอของการคิดวนที่ไม่เฮลธ์ตี้เลยสำหรับคุณ ต้องจำกัดวงความคิดให้หยุดแค่นี้ อย่าไปต่อให้ได้ หากิจกรรมทำ คุยกับคนพลังงานดีๆ เล่าเรื่องดีๆ ให้กันฟังแทนนะ

  1. ใช้คำว่า “ควรจะ” มากเกินไป
    การที่เราพยายามบอกตัวเองว่า “ฉันควรจะ” มันเหมือนเราตั้งกรอบให้ตัวเองเครียดล่วงหน้า แล้วถ้าเราทำไม่ได้ เราก็จะโทษตัวเอง “ฉันควรจะออกกำลังกาย” “ฉันควรจะทำงานให้มากกว่านี้” และอีกมากมายของความควรจะ

Solution: อย่ายอมตั้งกรอบแบบนี้ให้ตัวเอง หาทางใหม่ในการทำอะไร อย่าทำเพราะควรจะทำ ถ้าจะทำอะไรก็ทำไปเลย ไม่ทำก็ผ่อนปรนกับตัวเอง “เดี๋ยวค่อยว่ากัน” บางทีก็เป็นประโยคที่ดีกว่านะ

ความคิดเครียดๆ
  1. บอกโลกว่าฉันเป็นคนแบบนี้
    คือบางทีเราก็ชอบแปะป้ายความเป็นตัวเรากับโลกไป “ฉันเป็นคนไม่ละเอียด” “ฉันเป็นคนใจร้อน” คุณกำลังสร้างความคิดที่เพี้ยนๆ และไม่ใช่ความจริงเสมอไปให้ตัวเองนะ คุณอาจไม่รอบคอบไปบ้าง แต่ไม่ต้องปักหลักว่า ฉันคือคนไม่ละเอียดก็ได้นะ ทุกอย่างฝึกกันได้ทั้งนั้น อย่าสร้างแพทเทิร์นแบบนี้ให้ตัวเองเลย

Solution: สังเกตเลยว่าเวลาเราพูดแบบนี้ เรารู้สึกแย่กับตัวเองมั้ย คนอื่นที่ได้ฟังเขาก็ไม่โอเคหรอกนะ เปลี่ยนมาคิดว่า “ฉันไม่ใช่คนไม่มีความสามารถ ฉันแค่ขอเวลาเรียนรู้สักหน่อย” แทนดีกว่าไหม

  1. คิดแทนว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไง
    เป็นความคิดที่เหมือนๆ คุณไม่มั่นใจในตัวเองลึกๆ ก็เลยชอบคิดแทนคนอื่น “ดูสิ เหมือนเขาไม่มีความสุขเลย ตอนทีเขาอยู่กับฉัน” เอาจริงๆ คือคุณไม่สามารถคิดแทนใครได้ และก็ไม่ต้องรับผิดชอบความรู้สึกใครด้วย ถ้ามัวแต่คิดแบบนี้เรื่อยๆ คุณนั่นล่ะจะเครียดกว่าใครทั้งนั้น

Solution: อย่าเอาทุกอย่างกลับมาข้างในตัวเอง ใจดีกับตัวเองไว้ ให้สเปซตัวเองด้วย ไม่ต้องตัดสินตัวเองจากคนอื่น ไม่ต้องนอยด์เกินจนไปคิดแทนใคร

สมอง และจิตใจทำร้ายเราได้นะ อย่ายอมคิดวน ความคิดเครียดๆ คิดอะไรแย่ๆ เข้าตัว ไม่ต้องรู้สึกไม่ดีกับคำพูด หรือความคิดคนอื่นมากนัก ยินดีกับความเป็นเรา แล้วค่อยๆ ปรับไปทีละนิด เอาแพทเทิร์นความคิดเครียดๆ แบบนี้ออกไปนะ เราจะได้ก้าวไปข้างหน้าได้สดใส เปิดเรื่องดีๆ ให้เข้ามาในชีวิตเราสวยๆ เลย

#CleoSelfLove

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']