แหวนแบรนด์เนม ดีไซน์แปลกตาจากหลุยส์ วิตตอง ใส่แล้วไม่ซ้ำใคร

ใครมองหาแหวนแบรนด์เนมที่มาพร้อมงานดีไซน์ และอยากจะมีไว้ครอบครอง เพื่อสวมใส่ไม่ซ้ำใครในแต่ละวัน ขอแนะนำกับแหวนรุ่นต่างๆ ที่ขนมาให้แล้วจากหลุยส์ วิตตอง มาพร้อมงานออกแบบที่ตอบโจทย์สายแฟชั่นโดยเฉพาะ แมทซ์กับเสื้อผ้าในชีวิตประจำวันได้ หรือจะสวมใส่ออกงานก็ไม่ขัดข้อง

“น้ำตบอารมณ์ดี” เซราไมด์นาโนจากญี่ปุ่น ปลุกผิวให้ฟีลกู๊ด+สดใสกับ ACSEINE Moistbalance Lotion

อีกขั้นตอนการบำรุงที่ผู้หญิงอย่างเราขาดไม่ได้ไปแล้วกับการตบๆๆ ด้วย “น้ำตบ” ที่ดีสักตัว ซึ่ง CLEO คัดมาแล้วว่าน้ำตบเตรียมผิวที่ดี เมื่อใช้แล้วต้องไม่รบกวนขั้นตอนอื่นๆ ตบแล้วซึมเข้าผิวจริงๆ ต้องชุ่มชื้นแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งความมันจนเกินไป หากเบาสบายเสมือนกลายเป็นผิวของเราเองยิ่งดี นี่เลยเป็นคุณสมบัติให้ ACSEINE Moistbalance Lotion คว้ารางวัลในครั้งนี้ไป ด้วยประสิทธิภาพของน้ำตบที่อุดมด้วย “เซราไมด์นาโน” โมเลกุลเล็กพิเศษ ที่ไม่ใช่แค่มอบความชุ่มชื้นล้ำลึกกว่าน้ำตบทั่วไป “ยังช่วยปรับสมดุล งัดผิวให้ดูอิ่มเด้ง เสริมปราการผิวแข็งแรง และหนุนการทำงานของสกินแคร์ในสเต็ปต่อไป” ด้วยเนื้อที่เบาเหมือนน้ำจึงใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนผิวขาดน้ำ ดูหมองไม่สดใส และยังช่วยคงความชุ่มชื้นได้นานถึง 12 ชั่วโมงแบบไร้ความมันด้วย! ขึ้นแท่นรางวัล Best Moisturizing & Balancing Lotionจาก CLEO Hall of Fame 2023 คลีโออยากแนะนำว่าถ้าคุณอยากได้มู้ดความสดใส ร่าเริงทุกเช้า หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว ให้ตามด้วยน้ำตบอารมณ์ดีขวดนี้ ACSEINE Moistbalance Lotion เซราไมด์นาโนปลุกผิวฉ่ำเด้ง เติมความสดชื่นให้ผิวด้วยนวัตกรรมที่คิดค้นด้วยความเชี่ยวชาญจากญี่ปุ่น ถือเป็นสเต็ปเตรียมผิวที่ช่วยดึงอารมณ์ดีๆ Happy Mood ทุกครั้งที่หยิบใช้ […]

เครียดนิดเดียว…ผมก็ร่วง แบรนด์เดียวที่นึกถึงคือ “BERGAMOT® THE ORIGINAL HAIR TONIC” ตลอด 40 ปี

ยังจำได้ว่าบนโต๊ะเครื่องแป้งของคุณพ่อคุณแม่จะมีขวดโทนิคบำรุงเส้นผมกับหนังศีรษะ เคล็ดลับการดูแลที่ลูกอย่างเรามีประสบการณ์ได้ลองหยิบมาใช้ ทำให้ได้รู้จักกับแบรนด์ “BERGAMOT®” มานานหลายสิบปี วันนี้เข้าใจแล้วว่าทำไม BERGAMOT® ถึงเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่พอปรึกษาปัญหาผมร่วงหรือผมบางกับคนเจเนอเรชั่นไหนก็ต้องนึกถึงทุกครั้ง

นี่ไงสกินแคร์ในตำนานจากฝรั่งเศส Embryolisse Lait-Crème Concentré หลอดนี้ที่สาวคลีโอยกให้เป็นลูกรักตลอดกาล

ถ้าถามว่าครีมมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ตัวไหนที่เราใช้มาตลอด ก็จะมีอยู่แบรนด์นึงที่ป็อปอัพขึ้นมาแบบเร็วๆ เลย นั่นก็คือ Embryolisse Lait-Creme Concentré สกินแคร์จากประเทศฝรั่งเศสที่เรียกว่าเอาอยู่ทุกปัญหาผิว ที่ชอบใช้มาตลอดก็คือแถมใช้งานได้หลากหลายสุดๆ ที่เรายกให้เป็น BEST MULTI-FUNCTIONS HYDRATING MOISTURIZER จาก CLEO Beauty Hall of Fame 2023  รุ่นนี้เรียกว่าเป็นตำนาน เป็นตัวแม่เลยก็ว่าได้นะ เพราะยอดขาย 1 หลอดในทุก 20 วินาที จนสาวๆ ฝรั่งเศสพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดีจริงๆ! ใครที่กำลังเล็งอยากจะช้อปมาทางนี้เลยค่ะ เดี๋ยวคลีโอจะเล่าให้ฟัง




Self Love

3 ความคิดลบๆ ที่อาจจะทำชีวิตพัง และเปลี่ยนมันให้มาเป็นแรงผลักดันให้ได้



ความคิดลบๆ ที่ต่อให้มีแรงผลักดันแค่ไหน แต่ถ้าทิ้งหรือเปลี่ยนความคิดเหล่านั้นไปไม่ได้ล่ะก็ quote หรือคำแนะนำอะไรก็ไม่ช่วยให้เราไปจนสุดท้ายได้หรอก

หลายคนอาจจะเคยอ่านหรือไม่ยินคำพูดที่ว่า “ถ้าเราอยากได้อะไรบางอย่างมากพอ เราจะได้มันมา” ซึ่งไม่เถียงเลยว่าส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อเราคิดที่จะลงมือทำบางสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้หรือเลือกที่จะไม่ทำ มันต้องใช้พลังแห่งความปรารถนาไม่น้อยเลยล่ะ และมันไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะ นอกจากต้องอยากทำให้สำเร็จแทบตายแล้ว เราอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงความรู้สึกต่อความคิดบางอย่างของเราเองด้วย

ความคิดลบๆ ที่เราต้องทิ้งไป แต่เมื่อใช้คำว่า ‘ทิ้ง’ นั่นแหละว่าเราไม่ง่าย อาจะไม่ต้องทิ้งไปแค่เปลี่ยนมันให้ดีต่อชีวิตได้

สงสารตัวเอง

จริงๆ แล้วเป็นความคิดที่ไม่เลวเลยนะ แม้ว่าตอนแรกอาจฟังดูเหมือนความคิดลบ แต่มันมีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่เหมือนกันนะ ยกตัวอย่างเช่น ความจริงบอกกับเราว่าเรายังทำไม่หนักพอ ไม่ดีพอ แต่ความรู้สึกเห็นใจตัวเองบอกเราว่าเราแค่ทำหนักขนาดนั้นไม่ไหว หรืออาจมีอุปสรรคอะไรบางอย่างขวางทางเราอยู่ 

การโทษคนอื่นหรือสถานการณ์ของเราทำให้เรารู้สึกดีขึ้นหน่อยๆ ถ้าทุกคนและทุกอย่างกำลังพยายามที่จะทำลายเราอยู่ เราก็ควรจะได้รับคำชมที่ยังคงยืนหยัดอยู่ ถูกไหมล่ะ? ลองมองในมุมของเรา ‘สถานการณ์’ ของคนในปัจจุบันนี้มีอะไรขวางทางมากมายเต็มไปหมด แต่เรายังคงมีชีวิตอยู่ได้ แม้น้ำจะท่วม รถจะติด จ่ายภาษีแพง คุณภาพชีวิตต่ำ

มนุษย์น่ะ ชอบการได้พบว่าชีวิตมันน่าเศร้า และเมื่อเราได้ระบายกับคนที่เผชิญหน้ากับอะไรคล้ายๆ กันมันสร้างกลุ่มคนที่เข้าใจ ลองคิดดูว่าถ้าเราและกลุ่มเพื่อนกำลังพร่ำบ่นถึงความน่าเศร้าของชีวิตเราทุกคนกันอยู่ดีๆ แล้วมีเพื่อนคนหนึ่ง ลุกขึ้นมา พลิกบทสนทนาว่า “ฉันว่าเราก็แค่เห็นใจตัวเอง บางทีเราน่าจะหยุดบ่นแล้วเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างกันเถอะ” 

แล้วคนที่เหลือก็อาจจะกำลังคิด(หรืออาจจะมีคนพูดออกมาดังๆ) ว่า “เหอะ ละแกเป็นใครถึงจะมาบอกว่าฉันควรจะใช้ชีวิตยังไง” #ขอบคุณนะคะที่กล้าสอนหนู บางทีที่เราอาจไม่ได้เกลียดชีวิตตัวเองก็ได้ เราแค่ชอบที่จะได้พูดถึงมันในแบบนั้น

ความอิจฉา

ความรู้สึกที่เมื่อไหร่ใครบางคนได้ดี เราอยากจะได้ดีกว่า เรามองว่าความสำเร็จของพวกเขาก็แค่โชคดีอ่ะแหละ เราก็แค่โชคร้าย และการคิดอย่างนั้นมันก็ทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเอง ปัญหาคืออะไรรู้ไหม? สุดท้ายเราก็เป็นอย่างเขาไม่ได้อยู่ดี 

เราเกลียดคนรวย เพราะเราไม่รวย หรือเราเกลียดคนที่ประสบความสำเร็จและเรามองว่าเขาก็แค่โชคดี เรากำลังสร้างการต่อสู้กับตัวเองอยู่ชัดๆ เลย แต่ดูเหมือนว่าเรากำลังเสพติดมัน 

เมื่อเรามองอารมณ์เหล่านี้ด้วยความรู้สึกพึงพอใจในมัน นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงแข็งแรงในจิตใจเหลือเกิน เรามองว่าความอิจฉาไม่ใช่ยาพิษ แต่เป็นเหมือนเหล้ามากกว่า ที่ดื่มแล้วสนุก แต่เมา ดื่มมากเกินไปอาจจะทำให้เราขาดสติและทำอะไรแย่ๆ ได้ 

ความขี้เกียจ เฉื่อยชา

ใครล่ะไม่ชอบที่จะได้ขี้เกียจบ้าง เราต่างก็ชอบนอนอืดอาดยืดยาดอยู่บนเตียงแทนที่จะรีบลุกไปทำอะไรต่างๆ ที่คิดว่าจะทำ หรือแม้แต่ดื่มกาแฟที่ชอบนักหนา ปล่อยให้ตัวเองได้ทำสิ่งที่รู้สึกว่าแบบนี้ง่ายกว่าเห็นๆ 

ความขี้เกียจไม่ได้หมายความว่าแค่นอนดูซีรี่ส์หรือตัดใจไม่ไปออกกำลังกายอะไรอย่างนั้นนะ นั่นน่ะเล็กน้อย ความขี้เกียจที่แท้จริงน่ะมันคือเมื่อเราเลี่ยงสถานการณ์ใหญ่ๆ หรือการเปลี่ยนแปลงในชีวิตครั้งใหญ่ เพราะรู้สึกว่ามันยากเกินไปต่างหาก 

ไม่ยอมให้ตัวเองได้ฝันนั่นน่ะคือความเกียจคร้าน และมันเป็นความเกียจคร้านสุดโปรดของเราเพราะเป็นการรวมอารมณ์ต่างๆ นั้นมาไว้ในมันทั้งหมด ความเกียจคร้านเฉื่อยชามันนำมาซึ่งเหตุผลอย่างไม่จบสิ้น ง่ายๆ คือ ‘ยากเกินไป’ ขนาดนี้ใครจะเถียงได้ ทำตามฝันหรอ ยากเกินไป ไม่ใช่แค่ข้ออ้างนะ แต่มันจะกลายเป็นหลักการที่สมเหตุสมผลสำหรับคนบางคนอีกด้วย 

สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับความเกียจคร้านคือเราหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองได้เปลี่ยนมันให้กลายเป็น ความพอใจในตัวเอง การรักตนเอง และการ ‘ติดดิน’

กลายเป็นคำลวงที่เราใช้ เพราะเราเข้าใจมันได้ อุ่นใจ แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงไหม? มีแต่เราที่ตอบได้  และถ้าหากเราพบว่าตัวเองชอบที่จะปฏิเสธมากแค่ไหน ก็เป็นหน้าที่ของเรานี่แหละที่จะหาทางเปลี่ยนความคิดเหล่านั้น

ความคิดลบๆ

เปลี่ยนความคิดลบให้กลายเป็นบวก

เราต้องรู้สถานการณ์ กำลังเกิดอะไรขึ้น บางทีเราอาจจะรู้สึกว่าไม่ชอบความรู้สึกเหล่านี้และอยากเปลี่ยนมัน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าอยากเปลี่ยนจริงไหม

ลองพิจารณาว่าการที่เราชอบบ่นไปเรื่อยๆ ดูถูกคนอื่น หรือพยายามน้อยเกินกว่าความสามารถของตัวเอง มันทำให้เรารู้สึกไม่แฮปปี้ที่จะทำรึเปล่า ซึ่งถ้าใช่ และตัดสินใจแล้วว่าอยากจะเปลี่ยนก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องแตกหักกับความคิดลบๆ เหมือนบอกเลิกกับผู้ชายแบดๆ!

การได้เปลี่ยนเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นน่ะ มันไม่มีวันจบสิ้นหรอก เราไม่มีวัน ‘ดีแล้ว 100%’ แต่ทุกครั้งที่เราพยายามจะอัพเดทเวอชั่นใหม่ๆ ที่ดีกว่าเดิม เพราะสแกนความคิดลบๆ ได้ ก็ดีแค่ไหนแล้ว ถ้ารู้สึกว่า เอ๊ะ แต่เราก็เอนจอยนะ ลองแยกมันออกมา แล้วมองดูว่าเราชอบมันจริงๆ ไหม ถ้าความคิดแบบนี้ไปอยู่ในคนอื่น 

เวลาที่คนรอบข้างกำลังเริ่มรู้สึกหาเหตุผลมาเห็นใจหรือสงสารตัวเอง เราอาจจะกลายเป็นคนนั้น คนที่พลิกบทสนทนาให้มันเป็นบวกขึ้นมาได้ แต่ละก้าวในทุกวันที่เราเริ่มเปลี่ยนแปลง ชีวิตเราจะเริ่มเปลี่ยนไป และนั่นก็คือวิธีเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นของคนนี่แหละ

credit : Yourtango

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand

More