ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Sex

30 แล้วยังแจ๋วอยู่รึเปล่า? เช็คคุณภาพ เซ็กส์ในวัยสามสิบ 

เซ็กส์ในวัยสามสิบ 

มีรุ่นพี่เคยกระซิบบอกเอาไว้ เซ็กส์ในวัยสามสิบ น่ะ มีดีซะยิ่งกว่าตอนวัยยี่สิบซะอีก หลายคนที่ยังไม่แตะเลข 3 ได้ยินประโยคนี้แล้วคงสงสัยเหมือนกันสินะว่า “จริงหรอ โม้รึเปล่า หรือปลอบใจตัวเองกันแน่” สงสัยไปก่อน รอเวลาผ่านไปเรียนรู้หลายๆ ด้าน แล้วค่อยมาตัดสินกันทีหลังว่าจริงไหม 

เซ็กส์ในวัยสามสิบ สมควรจะดีกว่าวัยยี่สิบ และเซ็กส์ในวัยสี่สิบก็สมควรจะดีกว่าในวัยสามสิบจริงๆ นะ เพราะว่าเวลาผ่านไปถ้าเราพบว่ามันแย่ลงหรือเราทำมันได้แย่ลงนั่นอาจจะเป็นปัญหาแล้วล่ะ ไม่ได้นับเรื่องของ performance อย่างเดียวนะ แต่ความสุขกับการมีหรือไม่มีมัน การได้ตามใจตัวเอง ค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบ ในวัยที่เพิ่มมากขึ้นน่ะ เป็นอะไรที่ควรจะเกิดขึ้นในชีวิต ว่าไหมล่ะ?

เพราะ…

เราไม่ได้มีเซ็กส์เพื่อพิสูจน์อะไรกับใครทั้งนั้น

ไม่ได้อยากมีเซ็กส์เพื่อรู้สึกว่าเราเซ็กซี่ หรือสร้างความผูกพันธ์กับใคร ไม่ได้อยากได้ยินว่าเราเก่งแค่ไหนบนเตียงหรือที่ระเบียงก็ตาม เรามีเซ็กส์เพื่ออยากมีเซ็กส์หรือถึงจุดสุดยอด และบางครั้งไม่ได้อยากมีก็ไม่มานั่งตั้งคำถามว่า นี่ฉันผิดปกติอยู่ไหม ความกดดันเรื่องเพศมันจะน้อยลงในวัยที่มากขึ้นเองล่ะ 

พบว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีเซ็กส์ที่เข้ากันได้กับเรา

หลายคนได้ลองมีเซ็กส์กับคนจำนวนเท่าที่เขาอยากจะลอง แล้วก็พบว่ามันไม่เลิศทุกคน ไม่ใช่เพราะพวกเขาหรือตัวเราไม่เก่งนะ แต่มันเข้ากันไม่ได้ ด้วยปัจจัยหลายล้านอย่าง หลักๆ เลยก็คือรสนิยมและจังหวะ ซึ่งการจะหาคนที่เซ็กส์เข้ากันก็ยากพอๆ กับคนที่จะชอบกินอะไรคล้ายๆ กันนั่นแหละ และมันอาจจะสำคัญหรือไม่สำคัญสำหรับใครเลยก็ได้ แต่พอเราเจอคนๆ นั้นและเรื่องอื่นๆ ในชีวิตดันเข้ากั๊นเข้ากันสุดๆ นี่เหมือนว่าเราถูกหวยเลยนะ

เซ็กส์ที่สื่อสารกันสำคัญมากๆ 

โลกนี้มีอะไรให้ค้นหาเสมอแหละ พอเรารู้สึกสบายใจ การลองอะไรใหม่ๆ มันจะเป็นไปด้วยทัศนคติที่ไม่มีความสงสัยลังเล ยิ่งกับคนที่รู้สึกไว้ใจด้วยแล้ว พอเราเปิดใจเราชอบอะไรบอกเขา เขาชอบอะไรบอกเรา อยากลองอะไรใหม่ๆ บอกกัน ถ้าลองแล้วไม่ชอบก็ยอมรับและผ่านมันไป เซ็กส์เป็นเรื่องที่ต้องพูดและสื่อสารให้ชัดเจนกับคนที่เราทำกิจกรรมนี้กับเขา ถ้ากระมิดกระเมี้ยนไม่บอกกันตรงๆ ก็ต้องเดาอยู่อย่างนั้น บางทีทั้งชีวิตก็เดาไม่ถูกก็มีนะ

รู้จักร่างกายตัวเองมากขึ้น

ความชอบ ตัวตน และร่างกายของคนเราเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ในช่วงวัยที่ทุกอย่างยังใหม่ เราไม่รู้หรอกว่าเราต้องเรียนรู้ร่างกายตัวเอง ถ้าไม่มีใครบอกหรือไม่ได้ลองสังเกตเราแทบจะไม่รู้เลย แต่การได้ทำบางสิ่งไปเรื่อยๆ คนเราจะเรียนรู้ไปเอง อย่างเรื่องเพศ เราจะสังเกตตัวเองว่าชอบแบบไหน นั่นจะทำให้เราอยากสื่อสารไปมากขึ้น

ไม่ต้องบ่อยหรอก แต่จะทำได้ดี

ความถี่ที่ลดลง ไม่ได้หมายความว่าเราเบื่อ เกลียด กลัวการมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วหรือเปล่า แต่บางทีความเครียดในชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นก็ทำให้เรามีความต้องการที่ลดลง (แม้ว่าการมีเซ็กส์จะช่วยลดความเครียดได้เหมือนกันนะ) ก็ช่วยไม่ได้ แต่คุณภาพในความน้อยมันจะเพิ่มขึ้นเอง และในวันที่รู้สึกต้องการ แม้จะเหนื่อยหน่อย แต่เราจะจัดการมันได้ เชื่อสิ 

วัยสามสิบ เทสโทนเตอโรน(ฮอร์โมนเพศชาย)อาจจะค่อยๆ ต่ำลง ซึ่งอาจจะทำให้ความต้องการทางเพศลดลง และในช่วงวัยนี้คนหลายคนนึกถึงการสร้างตัวมากขึ้น ทำงานหนัก ไต่ตำแหน่ง เริ่มธุรกิจใหม่ๆ ไม่ว่าจะเพศไหน เซ็กส์กับนอน หลายคนเลือกอย่างหลังนะ และถ้ายิ่งมีลูกละก็เวลาไหนหลับได้ ฉวยเวลาไม่กี่นาทีนั้นทันทีเลยล่ะ ถ้าคู่รักได้สื่อสารกันตรงๆ ว่าเซ็กส์หรือความต้องการที่ลดลงนั้นมันมาจากสาเหตุอะไร และถ้ารู้สึกว่าไม่โอเค ปรับกันไปได้ ก็ไปกันรอดอยู่นะ 

เทคนิคจัดการความเครียดที่ทำให้ฮอร์โมนเพศยิ่งลดลงก็คือ คลายเครียดซะ! ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน อย่างออกกำลังกาย ทำสมาธิ อ่านนิยาย และจัดการงานซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความเครียดให้ได้ เช่น แบ่งเวลาให้ดีขึ้น 

เซ็กส์ที่ดีคือเซ็กส์ที่ใช้เวลานาน จริงไหม?

เป็นความเข้าใจที่แค่ฟังแล้วก็เหนื่อยแล้วนะ แค่ลองนึกว่าจะต้องมีเซ็กส์สักครั้งที่ยาวนานไปตลอดทั้งวัน ไม่กินไม่นอนเลย ก็ไม่ไหวนะ คงจะหลับไปสักจังหวะหนึ่งแน่ๆ แล้วมันควรจะนานแค่ไหนกัน

บางคนบอกว่า 15 นาที อาจจะเป็นเวลาที่กำลังดี คือไม่นานเกินไปไม่สั้นเกินไป ที่สำคัญคือไม่เหนื่อยเกินไป กำลังเอนจอยได้ด้วยกันทั้งคู่ เพราะถ้านานกว่านี้บางทีก็หมดมุกเหมือนกันนะ บางคนก็บอกอีกว่า ครึ่งชั่วโมงก็พอไหว ถ้ารวมการเล้าโลมหรือการเริ่มสวมบทบาทอะไรบางอย่าง บางทีมันตื่นเต้นกว่าตอนจบซะอีก ซึ่ง 30 นาทีน่ะถ้าไหวไม่เหนื่อยหอบจนเกินไปก็ถือว่าออกกำลังกายก็แล้วกัน แต่ก็มีหลายคนที่รู้สึกว่าไม่ต้องนานเลย แต่อยากมีบ่อยๆ ซึ่งก็อาจจะไม่ค่อยเกิดขึ้นกับ เซ็กส์ในวัยสามสิบ

ความจริงแล้วความยาวนานของเซ็กส์นั้นน่าจะไม่มีถูกมีผิดมากกว่า คือขึ้นอยู่กับว่าใครมีกับใคร และคนสองคน(หรือมากกว่านั้น)เอนจอยได้ยาวนานแค่ไหน ควรจะเป็นไปเท่าๆ กัน เพราะถ้ามีคนหนึ่งจอย แต่อีกคนไม่ไหวแล้ว มันก็เหมือนจะฝืนใจกันไปเปล่าๆ 

เซ็กส์ในวัยสามสิบ 

แต่คนวัย 30 น่ะ ก็ไม่ได้รู้ไปหมด หรือบรรลุในชีวิตเซ็กส์แล้วหรอกนะ

พวกเขายังมีความเฟลอยู่เหมือนกัน และมันเป็นเรื่องปกติธรรมดามากๆ อย่างเช่น ก็มีอารมณ์อยู่นะ แต่รู้สึกขี้เกียจเหมือนกัน อย่างนั้นก็ทำๆ ไปแบบขี้เกียจๆ นี่แหละ แบบรีบ แบบด่วน แบบทำๆ ให้เสร็จไปซึ่งมันทำให้ขาดความเร้าใจไปมากและอาจจะทำให้ครั้งต่อไปเริ่มไม่น่าดึงดูดอีกแล้ว 

แล้วก็มีหลายคนที่ถามตัวเองในใจว่า “นี่ฉันปกติรึเปล่าที่รู้สึกมีความต้องการน้อยลง คนอื่นเป็นไหม” และแน่นอนว่าไม่กล้าถามใครหรอก เพราะกลัวคนอื่นไม่เป็นเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าคุณแม่ทั้งหลาย หลายคนก็พูดออกมาตรงๆ เลย แต่หลายคนก็ยังไหวอยู่ และหลายคนก็พยายามจะทำตัวให้ไหว แต่ในใจคือไม่ไหวแล้ว

เริ่มเปรียบเทียบชีวิตเซ็กส์ของตัวเองกับเพื่อนสนิท เอากลับมานั่งเครียดอยู่ที่บ้านคนเดียวว่าทำไมเพื่อนอายุเท่ากันแล้ว ชีวิตรักยังร้อนแรงอยู่เลย ส่วนฉันแม้แต่ช่วยตัวเองก็เลิกไปนานแล้วค่ะ หมด’รมณ์! แล้วก็กลับมาแก้ปัญหาเรื่องเซ็กส์ด้วยความจริงจังที่มากเกินไป หมดสิ้นความสนุก ทำเพราะต้องทำ บังคับตัวเองและคู่รักให้ต้องทำเพราะไม่อยากรู้สึกว่าเรากำลังแก่แค่เพราะไม่มีเซ็กส์

ใบ้ให้ว่า เซ็กส์ในวัย 40 อาจจะเข้าใจยากขึ้นอีกก็ได้

ผู้หญิงหลายคนอาจจะเข้าสู่ช่วงวัยใกล้หมดประจำเดือนแล้วในช่วงเลข 4 ปลายๆ และช่วง 5-10 ปีก่อนหน้านั้น รังไข่จะค่อยๆ หยุดผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้ส่งผลกับแรงขับทางเพศ อารมณ์ ความรู้สึก ความหล่อลื่นตามธรรมชาติของอวัยวะเพศหญิงก็อาจจะลดลงด้วยทำให้รู้สึกเจ็บเมื่อมีเพศสัมพันธ์ และความรู้สึกนั้นก็อาจจะทำให้ไม่อยากมีเซ็กส์ไปด้วยเลย

แต่ข่าวดีคือ คนวัยนี้จะมีความมั่นใจแบบแท้จริง รู้สึกมีอิสระ อาชีพเริ่มมั่นคงแล้วไม่ห่วงอะไรตรงนั้นมาก อยากทำอะไรทำ ไม่แคร์เยอะ ทำให้ถ้าถูกกระตุ้นถูกจุดแล้วเซ็กส์ก็จะเป็นกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานแม้จะอยู่ในวัยหมดประจำเดือนก็ตาม!

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']