ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Love, Relationship, Sex

Tantric Sex เซ็กซ์แบบตันตระ ที่ต้องคอนเน็คท์กันจนถึงขั้นจิตวิญญาณ เยียวยาและลึกซึ้ง!

Tantric Sex ตันตระเซ็กซ์

เป็นความลึกซึ้งในการผสานกับทั้งกาย ใจและจิตวิญญาณ การมีเซ็กซ์แบบตันตระ หรือ Tantric Sex ศาสตร์แห่งฮินดูที่นำไปสู่การประสานกันของคนสองคนอย่างลึกซึ้งที่สุด

หนึ่งในความที่สุดในการเมคเลิฟสำหรับคู่รัก ใครที่ยังไม่เคยได้ยินคำว่า Tantric Sex ต้องเปิดใจ เปิดจิตวิญญาณพร้อมรับรู้สาส์นนี้กันได้เลยนะ เพราะนี่คือศาสตร์แห่งการเมคเลิฟที่ล้ำลึกที่สุด อธิบายง่ายๆ คือ การร่วมรักกับคนที่เรารัก ที่แนบแน่นกันไปจนถึงขั้นจิตวิญญาณ เป็นการร่วมรักที่เต็มไปด้วยความหมาย ลึกซึ้ง ท่วมท้น และช่วยเยียวยาความรู้สึกภายในของคู่รัก เป็นพลังงานที่ส่งต่อให้กันและกันได้สวยงามหมดจด คนที่ไปสู่หัวใจของตันตระเซ็กซ์ได้ จะนำพาไปสู่การหลอมรวมที่จริงแท้และยั่งยืน

Tantric Sex เริ่มมาจากที่ไหน?

ตันตระหรือที่เราจะเคยได้ยินบ่อยๆ ในชื่อคัมภีร์ตันตระ เป็นศาสตร์แห่งการรวมกันของศาสนาพุทธโบราณ และฮินดู มีบันทึกไว้ในภาษาสันสกฤ๖เมื่อศตวรรษที่ 6 เอาไว้ สำหรับคนที่บูชาองค์เทพฮินดูก็คือองค์พระศิวะและพระแม่อุมาเทวี ทั้งสองท่านคือสัญลักษณ์ของพลังอำนาจของผู้ชายและของผู้หญิง คำว่า “ตันตระ” ในภาษาสันสกฤตมีความหมายถึง “การถักทอ สานเข้าไว้ด้วยกัน” หรือ “weave” ก็เหมือนกับการผสานกันของร่างกายและจิตวิญญาณนั่นเอง

Tantric Sex01

5 สิ่งที่คุณอาจจะไม่รู้ว่าตันตระทำอะไรให้คุณได้บ้าง?

บอกเลยว่าคนที่ฝึกตันตระเซ็กซ์กับคู่รักของตัวเอง จะต้องได้รับพลังสัมผัสที่ผสานรวมกันอย่างลึกซึ้ง จะได้รับรสของพลังการร่วมรัก มีความตื่นรู้ มีการคอนเน็คท์กันในขั้นลึกคล้ายๆ กับการทำสมาธิเลยทีเดียว และนี่คือสิ่งที่คุณอาจจะไม่เคยรู้ว่าตันตระเซ็กซ์ทำอะไรให้คุณได้บ้าง

1. ตันตระเซ็กซ์เป็นมากกว่าความต้องการทางกาย

การร่วมรักในแบบตันตระคือความใกล้ชิดที่ตื่นรู้ เป็นความเอนจอยของการสัมผัสร่างกายของกันและกัน เมื่อเกิดการร่วมรักกัน ตันตระเซ็กซ์จะเหมือนเป็นสิ่งที่นำพาความรักของคนสองคนให้ส่องออกมาทางร่างกาย มากไปกว่าแค่การเสร็จสม

2. ตันตระเซ็กซ์ต้องใช้เวลา

ถ้าเซ็กซ์แบบตัณหาราคะ อาจใช้เวลาเพียงไม่นานเพื่อบรรลุถึงจุดสุดยอด แต่ตันตระเซ็กซ์คือการใช้เวลาในการร่วมรัก เพื่อสร้างความลึกซึ้ง สร้างการคอนเน็คท์ คู่รักจะเอนจอยดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างร่วมรักไปด้วยกัน การมองตาที่มีความหมาย สัมผัสจากความรัก ภาษารักของคนสองคน

3. บางคนเรียกตันตระเซ็กซ์ว่า “เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์”

เรียกว่าบางครั้งคนเราสามารถบรรลุทางจิตวิญญาณผ่านตันตระเซ็กซ์ได้เลย และตันตระเซ็กซ์สามารถทำให้คนๆ หนึ่ง หรือคนทั้งสองตกห้วงเข้าไปในสมาธิอันล้ำลึก ไปสู่การบรรลุที่ยิ่งใหญ่ และสามารถทิ้งโลกทั้งโลกไว้เบื้องหลังได้เลย

4. กายและใจต้องรวมกันเท่านั้น

ร่างกายจะเป็นตัวนำทางเพื่อให้ผ่านเข้าไปสู่จิตใจ ตันตระเซ็กซ์คือการเชื่อมพลังงานสำคัญของกายและใจเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดการบรรลุและเรียนรู้ในเชิงลึกขึ้น

5. อาจต้องใช้ศาสตร์อื่นๆ เข้ามาช่วยด้วย

อย่างเรื่องของการนวด การทำสมาธิ การใช้สายตา หรือใช้มือบำบัดร่างกาย ทั้งหมดคือเซนส์ต่างๆ ที่จะช่วยให้ตันตระเซ็กซ์ล้ำค่ายิ่งขึ้น

ระหว่างมีตันตระเซ็กซ์…

ตันตระเซ็กซ์คือการรวมกิจกรรมอีโรติกทั้งหลายเข้าไว้ด้วยกัน แต่ละการมีเพศสัมพันธ์อาจไม่เหมือนกันเลย จะมีการกระตุ้นต่อมสยิวที่ไม่เหมือนกับที่คนส่วนใหญ่ร่วมรักกัน หลักๆ คือจะต้องมีการกอดกันนานๆ มีการสัมผัสอันอ่อนโยน มีการใช้ร่างกายให้แนบแน่นกัน ทุกสิ่งคือการโฟกัสที่พลังงานของร่างกายของอีกฝ่าย

บางครั้งตันตระเซ็กซ์ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวร่างกายเลย เหมือนเป็นการทำสมาธิที่มีการมอบความรู้สึกให้กันถ้าคุณผ่อนคลายจริง ตันตระจะเริ่มจากความเนิบช้า คุณสามารถร่วมรักกันได้หลายชั่วโมงและยังคงเอนจอยกันและกันอยู่ ตันตระคือการฝึกที่จะใกล้ถึงจุดสุดยอด และถอยออกมา ซึ่งจะทำให้สามารถร่วมรักกันได้นานๆ

พลังงานในการมีตันตระเซ็กซ์จะพ่วงความตื่นรู้เอาไว้ด้วย และมีทั้งความดิบ เข้มข้น มีความเป็นสัญชาติญาณที่ต้องรับส่งกันสดๆ ณ เวลานั้นเพื่อให้เกิดความพึงพอใจกันที่สุด

บางคนอาจใช้การหายใจ การเคลื่อนไว้ทั้งร่างกาย คือจะไม่ได้พอใจเพียงแค่ส่วนอวัยวะเพศ แต่ร่างกายจะสอดคล้องกันไปหมด

Tantric Sex02

เริ่มฝึกตันตระเซ็กซ์ได้ตามนี้…

1. สร้างบรรยากาศที่มีมนตร์ขลัง

ออกจากโลกภายนอกทั้งหมด เข้าสู่โลกภายใน ปิดมือถือ จุดเทียน จุดธูปหอม หรือเตรียมเบอร์รี่ ช็อคโกแลตไว้เพื่อเสริมเซนส์แห่งรสชาติ

ทำความสะอาดร่างกายให้สดชื่น เอากองเสื้อผ้า เอาสิ่งรกๆ ในห้องออกไป สร้างบรรยากาศให้อยู่กับปัจจุบันและเป็นสุขที่สุด

สร้างแอตติจูดแห่งความใกล้ชิดว่า “ความตั้งใจของฉันคือการใช้ร่างกายของฉัน บอกเธอว่าฉันรักเธอแค่ไหน” หรือ “ฉันอยากค้นหาและได้รับความรู้สึกอย่างลึกซึ้ง”

2. มองตา หรือ ใช้จิตวิญญาณสื่อถึงกันทางสายตา

การมองคนรักให้มีพลังด้วยสายตา จะไม่มีอะไรปิดซ่อนความรู้สึกได้ สายตาคือการฝึกที่จะเปิดเผยข้างในตัวตรของคุณ ว่าคุณรู้สึกอย่างไร

นั่งตัวตรงบนหมอนหรือเก้าอี้ มองหน้ากัน มองตากันไปที่ตาซ้าย แล้วค่อยๆ ย้ายไปตาขวาเบาๆ ระหว่างทำให้จับมือกันไปด้วย ให้ความรักในหัวใจฉายออกมาผ่านดวงตา ให้พลังงานที่หมดจดที่สุดสะท้อนออกมา ให้ความรู้สึกอันศักดิ์สิทธิ์เรียบง่าย อยู่ในโมเมนท์ของคนสองคน

มองตาสัก 2 นาที สังเกตอารมณ์และความรู้สึกที่เอล้นขึ้นมา ถ้ารู้สึกอยากมองไปทางอื่นก็ได้ นี่ไม่ใช่การแข่งขันจ้องตา คุณอาจจะเลือกหลับตาสักสองสามวินาที แล้วค่อยเปิดมามองกันอีกครั้งได้เลย

3. เอามือทาบไว้ที่หัวใจ

มือจะตามมาทันทีหลังสบตา ขณะที่คุณนั่งหันหน้าชนกัน มองตากันอย่างอ่อนโยนแล้ว ใช้มือทาบไว้ที่หัวใจ หายใจเข้าไปในหัวใจ รู้สึกถึงความรักในหัวใจที่ส่งไปให้คู่ของคุณไหม เมื่อรู้สึกก็ให้วางมือขวาเอาไว้ที่หัวใจของคนรักคุณ เชื่อมต่อกันด้วยการหายใจ หายใจช้าๆ ลึกๆ อยู่กับลมหายใจ

หายใจเข้าเพื่อรับความรักเข้ามาที่หัวใจ และเมื่อหายใจออก ให้ส่งความรักนั้นจากหัวใจไปที่แขน และไปที่หัวใจของคนรักคุณ หายใจเข้าออกแบบนี้ไปเรื่อยๆ ให้พลังงานไหลผ่านระหว่างคุณและเขา ทำสัก 10 ครั้ง

4. นวดตันตระ

เป็นวิธีที่ทรงพลังมาก ที่จะนำไปสู่การถึงจุดสุดยอดหลายๆ ครั้งได้เลย ในการนวดแบบตันตระ ให้ฝ่ายหนึ่งนอนหงายรอการรับ รอดูว่าคุณจะรู้สึกอยากรับพลังงานแห่งการร่วมรักผ่านร่างกายได้ขนาดไหน ในขณะที่อีกคนให้ใช้มือเคลื่อนช้าๆ เหมือนทำสมาธิไปด้วยไปตามร่างกาย และปล่อยให้เกิดความรู้สึกใหม่ขึ้นไปตามร่างกาย หรือจะลองนวดวนๆ ไปที่อวัยวะเพซ นวดไปตามหัวนมให้เกิดความสะท้านขึ้นมาด้วย

5. ท่าร่วมรักแบบ yab-yum

หรือท่าแบบนั่งสมาธิ เป็นท่าสุดคลาสสิคของตันตระที่เหมือนกับท่าขององค์พระศิวะและพระแม่อุมา เป็นท่าแห่งพลังงานของผู้ชาย และของผู้หญิง แต่ท่านี้ไม่จำเป็นต้องทำแต่กับผู้หญิงและผู้ชายนะ เพศเดียวกันก็ทำได้เช่นกัน วิธีการก็คือ “ฝ่ายชายนั่งขัดสมาธิบนหมอน และฝ่ายหญิง หันหน้าเข้าหาเกี่ยวรัดที่บริเวณเอว อาจนั่งบนหมอนหรือบนเก้าอี้ได้ แต่จะนั่งให้เต็มบนตักของอีกฝ่าย แขนของฝ่ายชายโอบไว้บริเวณเอวของฝ่ายหญิง ที่โอบรับไว้ตรงช่วงไหล่ของฝ่ายชาย ท่านี้จะทำให้ศีรษะของทั้งสองตรงกัน หน้าผากแตะถึงกัน พลังงานของการร่วมรักจะถ่ายทอดเข้าสู่ร่างกายของกันและกัน ไปตลอดทั่วกระดูกสันหลัง

และเมื่อจูนเข้าหากันเรียบร้อยแล้ว ให้หายใจช้าและลึก เพื่อให้เชื่อมโยงกัน และสามารถแอ่นตัวหรือสร้างจังหวะที่เร้าใจกันขึ้นได้ ท่านี้เป็นการมอบพลังงานให้กันและกัน

คอนเน็คท์ลมหายใจไปด้วยกันในจังหวะเดียวกัน เพื่อสร้างความซาบซ่านให้มากยิ่งขึ้นไปทั้งร่างกาย เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายจะถูกจุดขึ้น อาจจะแทบไม่ต้องเคลื่อนไหวมาก หรือเคลื่อนไหวเป็นจังหวะสม่ำเสมอ สังเกตพลังงานที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่กระดูกสันหลังขึ้นไปหว่างหน้าผาก ที่เป็นบริเวณตาที่สามของคุณทั้งสอง”

ท่านี้สามารถจะเปลือยเปล่า หรือใส่เสื้อผ้าได้ หรือจะถึงจุดสุดยอดโดยใช้ร่างกายแบบไม่ต้องสอดใส่ก็ได้เหมือนกัน แต่อาจต้องฝึกเยอะหน่อยนะ

เป็นที่ทดลองกันมาแล้วว่า Tantric Sex สามารถทำให้ถึงจุดสุดยอดกันได้หลายๆ ครั้ง และนำไปสู่ความรู้สึกหลุดเข้าไปในห้วงจักรวาลได้แบบเกินต้านทาน จะเกิดพลังงานไหลเวียน เยียวยากันและกัน และเป็นการค้นพบความลับของร่างกายซึ่งกันและกันมากขึ้นไปอีก และยังได้มีประสบการณ์ใหม่ของพลังงานของหัวใจ เพื่อเกิดพลังรีชาร์จพุ่งสู่หัวใจ ทำให้คู่รักเข้าใจกันขึ้น คอนเน็คท์กันขึ้น เป็นการแสดงความรักที่ลึกซึ้ง และท่วมทันใจได้

อ่านเรื่องอื่นๆ ต่อได้ที่ เมคเลิฟกัน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนยาวิเศษ

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']