เปิดตัว 3 ไอเท็มเมคอัพสุดเริ่ดจาก IN2IT  ที่คลีโอรักมาก

ถ้าให้พูดถึงไอเท็มเมคอัพที่ใช้ยังไงก็ไม่เบื่อ หยิบมาใช้ตอนออกงานก็สวยแพง ใช้ในวันรีบ ๆ ก็สวยเป๊ะ ใช้ตอนไหนก็ได้ลุคสวยทุกครั้ง คลีโอขอยกให้แบรนด์ IN2IT เป็นแบรนด์ขึ้นหิ้งของเมคอัพราคาน่ารักแต่คุณภาพเกินต้าน ยิ่งตอนนี้เดินทางมาถึงเทศกาล CLEO Beauty Hall of Fame 2024 คลีโอก็ไม่พลาดมอบรางวัลให้ IN2IT ไปอีกปี รอบนี้คว้ามงไปจุก ๆ 3 ชิ้น บอกเลยว่าทุกชิ้นที่ให้รางวัล คลีโอรักมากกก และอยากแชร์ต่อจริง ๆ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย 

สนุกให้สุด ไม่หยุดเป็นตัวเอง เพิ่มความมั่นใจใต้วงแขนด้วยไอเท็มสุดเริ่ดจาก Ri en 

มีใครเป็นสายฟรีสปิริตแบบเราบ้าง จะทำอะไรก็ต้องทำให้สุด ไม่หยุดเป็นตัวเอง ลุย ๆ พร้อมทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะปาร์ตี้ ทำกิจกรรม หรือเที่ยวในแบบที่ต้องการ แต่มีอยู่หนึ่งสิ่งสำคัญที่สาว ๆ อย่างเราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ นั่นก็คือเรื่องผิวใต้วงแขนนั่นเอง เพราะถ้าหากผิวบริเวณนั้นดำคล้ำ หรือมีกลิ่น ไม่เนียนสวย ก็อาจทำให้ความมั่นใจหรืออินเนอร์ความกล้าของเรานั้นหายไปด้วยได้เช่นกัน แต่วันนี้ คลีโอมีไอเท็มดูแลผิวใต้วงแขนจากแบรนด์ลูกรักอย่าง Ri en มาฝาก แอบกระซิบว่าเป็นไอเท็มที่เราใช้มาตลอด และก็มอบรางวัล CLEO Beauty Hall of Fame 2024 ให้ด้วยนะ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังว่ามันเริ่ดยังไง




Love, Relationship

ความรักของ ‘ลีบูจิน’ เจ้าหญิงธุรกิจซัมซุง กับ บอดี้การ์ดของเธอ

ความรักของลีบูจิน

ชีวิตจริงยิ่งกว่าในซีรีย์ ของเธอคนนี้ ลีบูจิน ลูกสาวคนโตของ ลีก็อนฮี ( Lee Kun Hee ) ประธานแห่งซัมซุงกรุ๊ป ซึ่งลีก็อนฮีก็รักลูกสาวคนนี้มาก นอกจาก ลีบูจิน จะมีหน้าตาที่สะสวยแล้ว เธอยังฉลาด และเชื่อฟังคำของพ่อมาตลอด ไม่เคยทำให้พ่อผิดหวัง จนสื่อเกาหลีให้ฉายาเธอว่า “Little Lee Kun-hee ” เลยล่ะ

ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ลีก็อนฮี มีลูกทั้งหมด 4 คน คือ ลีแจยง ลีบูจิน ลีซโยฮุน และลียุนฮยุง โดย 2 ใน 4 คนนี้เลือกแต่งงานกับกลุ่มตระกูลร่ำรวยหรือที่เรียกว่า แชโบล แต่ ลีบูจิน เธอเลือกที่จะไล่ตามรักแท้


ประวัติโดยย่อของ ลีบูจิน

ลีบูจิน (Lee Boo-jin) เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1970 และจบปริญญาตรีจากสาขา Children’s Studies มหาวิทยาลัยยอนเซ  หลังจากนั้นก็เรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากสถาบันเทคโนโลยีแมสชาซูเซตส์ ปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งประธาน และ CEO เครือ Shilla ที่ดูแลทั้งโรงแรม และธุรกิจ Duty Free ซึ่งเป็นธุรกิจที่โดดเด่นในอาณาจักร Samsung ซึ่งเธอคนนี้ถือเป็นผู้หญิงที่สวย เก่ง ฉลาดครบเครื่อง เลยทีเดียว

ประวัติโดยย่อของ อินวูแจ

อินวูแจ เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1968 เขาเข้ามาสมัครทำงานในซัมซุงโดยเริ่มจากงานรักษาความปลอดภัย เขาเป็นคนที่รับผิดชอบในหน้าที่การงานมาก ลีก็อนฮีจึงให้เขาไปทำงานกับลูกสาวอย่าง ลีบูจิน

ลีบูจิน และ อินวูแจ

เรื่องราวความรักของเขาทั้งสอง

เนื่องจาก ลีบูจิน ต้องไปออกงานบ่อยๆ ลีก็อนฮี ผู้เป็นพ่อจึงส่งบอดี้การ์ดไปดูแลลีบูจิน เขาคนนั้นมีชื่อว่า อินวูแจ ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้อาจทำให้คนเป็นพ่อต้องมารู้สึกเสียใจภายหลัง

ลีบูจิน เธอมีข้อจำกัดที่เธอไม่สามารถเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นได้ คือเธอไม่สามารถคบเพื่อนเยอะ โดยเฉพาะเพื่อนต่างเพศ จึงทำให้เมื่อข้างกายเธอจู่ๆ ก็มีบอดี้การ์ดที่ดูแข็งแรงปกป้องเธอได้อย่าง อินวูแจ มาคอยติดตาม เธอจึงเกิดความหวั่นไหวภายในใจขึ้น และนั่นคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง

พวกเขาทั้งสองต้องเผชิญกับการคัดค้านของคนในครอบครัวทั้งครอบครัวของ ลีบูจิน และ อินวูแจ โดยเหตุผลหลักๆ คือเรื่องฐานะ และการศึกษา ของทั้งสองที่ต่างกันมาก แต่ถึงอย่างนั้นอีบูจินก็สู้เพื่อความรักของเธอ เธอพยายามเข้าไปเกลี้ยกล่อมพ่ออยู่บ่อยๆ เพื่อให้เขายอมรับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ นอกจากนี้เธอยังไปช่วยงานพ่อแม่ของอินวูแจอยู่บ่อยครั้ง ใช้เวลาพิสูจน์รักนานกว่า 4 ปี จนทำให้ทั้ง 2 ครอบครัวยอมรับในความสัมพันธ์ของเขาทั้งคู่ ทำให้ต่อมาในปี ค.ศ. 1999 ทั้งสองได้แต่งงานกัน

รอยร้าว- จุดแตกหัก

อินวูแจ เขาใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาจนเคยชินและไม่ยอมพัฒนาความสามารถของตนเอง เขาถูกส่งไปเป็นรองประธานบริษัทซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ แต่เนื่องจากเขาไม่มีความสามารถจึงถูกตั้งข้อสงสัยในการทำงาน แต่เขาก็ยังไม่ปรับปรุงตัวเอง แตกต่างกับภรรยาของเขา ลีบูจิน อย่างสิ้นเชิง เธอได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของโรงแรมชิลลา ทำให้ผลประกอบการของโรงแรมเพิ่มเป็นเวลาหลายสิบปีติดต่อกัน จนทำให้ปี ค.ศ. 2010 เธอถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้รับผิดชอบกิจการโรงแรมชิลลา อย่างเป็นทางการ กลายเป็นประธานบริษัทหญิงคนแรกของบริษัทในเครือซัมซุงกรุ๊ป

ตัดภาพมาที่อินวูแจ ฐานะที่ร่ำรวยมากขึ้นทำให้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนที่มีนิสัยที่ดุร้าย จากการรายงานข่าวจากสื่อในเกาหลี กล่าวว่ามีหลายครั้งที่ อินวูแจดื่มจนเมาและใช้ความรุนแรงกับลีบูจิน และเขามีประวัติการใช้โทรศัพท์ติดต่อกับดาราสาวชาวเกาหลีมากกว่า 35 ครั้ง ซึ่งขณะนั้นในปี 2008 ลีบูจินที่กำลังตั้งครรภ์ เธอก็เริ่มหมดความอดทนกับอินวูแจ แต่ก็ยังให้โอกาสเขา จนถึงปี 2014 อีบูจินก็หมดความอดทนและประกาศขอหย่าอย่างเป็นทางการ

ในปี 2017 ศาลครอบครัวก็ประกาศให้ทั้ง 2 ยุติความสัมพันธ์สามี – ภรรยา โดยที่สิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตรเป็นของลีบูจิน ซึ่งอินวูแจจะได้รับทรัพย์สินเป็นจำนวน 8,600 ล้านวอน ซึ่งลีบูจินยอมรับคำตัดสิน แต่อินวูแจบอกว่าจะยื่นอุทธรณ์เพราะเขาต้องการทรัพย์สินครึ่งนึงของลีบูจิน จนมาถึงปี 2019 ศาลได้มีคำตัดสิน ให้ลีบูจินแบ่งทรัพย์สินกว่า 14,000 ล้านวอนแก่อินวูแจ

ปัจจุบัน

ลีบูจินกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ เวลาว่างก็ใช้เวลาอยู่กับลูก และเธอก็บริหารธุรกิจโรงแรม และ Duty Free ต่อ


สามารถอ่านบทความอื่นๆ ของ CLEO ที่:

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']