คนเรานี้คิดให้ดีก็น่าขำ อยากจำกลับลืม อยากลืมกลับจำ เพลงที่เอามาฟังกี่รอบก็ยังตอกย้ำความเป็นคนได้เป็นอย่างดีว่าทำไมชอบจำแต่เรื่องเศร้าๆ มีแต่อะไรลบๆ ที่ฝังในสมองเรานานกว่าความสุข เราแทบจะจำโมเมนท์ตอนสวีทกับแฟนเก่าไม่ได้ แต่เราจำประดยคที่เขาบอกเลิกเราได้แบบเจ็บแสบ จำตอนเด็กๆ ที่แม่ตี แต่ตอนที่แม่กอดตั้งหลายครั้ง เราถึงรู้สึกเลือนราง
นักเธอราพิสต์ด้านจิตใจ มาเรล พอทเทอริ่ง ผู้เชี่ยวชาญในอาการเจ็บป่วยทางจิตบอกว่าคนไข้ของเธอเจอกับเหตุการณ์ที่ทำร้ายจิตใจมากมายจนทำให้อารมณ์ร้ายๆ กลับมาหลอนทำร้ายสุขภาพ คุณมาเรลสรุปได้จากการสังเกตว่าหลายคนจะรู้สึกถึงอารมณ์ด้านลบได้รุนแรงมากกว่าด้านบวก เพราะความเศร้าและความเจ็บปวดเข้ามาจู่โจมคนเรา แล้วเราก็พยายามหลีกหนีไปให้พ้น แต่ความสุขเป็นอารมณ์ที่ไม่ได้ทำอันตราย คนเราเลยไม่ต้องหาทางจัดการกับอารมณ์ที่ดีๆ
การก้าวข้ามผ่านอารมณ์เฮิร์ตๆ อย่างการอกหักต้องใช้เวลานาน แต่ในวันที่เรามีความสุข เราจะนอนหลับฝันดี ไม่ต้องมาครุ่นคิดอะไรทั้งคืน ถ้าเราฝึกยึดอารมณ์ด้านบวกเอาไว้ เราจะรับรู้ได้ถึงความสุขแบบชัดเจนขึ้น แต่ถ้าเราเอาแต่ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับอารมณ์แย่ๆ แล้วไม่จัดการกับมัน เราจะโดนครอบงำแล้วมีผลออกมาทางร่างกายไปจนถึงโรคทางใจต่างๆ
หลายครั้งที่คุณมาเรลเห็นคนไข้ที่ไม่จัดการกับอารมณ์ตัวเองให้ดี เกิดเป็นโรคหัวใจสลายหรือ broken heart syndrome ถ้าใครเป็นจะเจ็บหน้าอกกระทันหัน อาจเข้าใจว่ากำลังหัวใจล้มเหลวได้เลย ซึ่งเกิดมาจากความเครียดและความทุกข์ที่สะสม อารมณ์ที่เราไม่อยากเจอแต่ก็ต้องทำใจเจอ ให้เราคิดว่าเป็นเหมือนประตูรอเปิดเพื่อให้ชื่นชมกับความสวยงามของชีวิตในอีกหลายแง่มุมได้ดีขึ้น เพราะเจ็บเลยทำให้รู้ถึงคุณค่าความสุข อย่ากดความรู้สึกด้านลบไว้ เพราะสุดท้ายมันจะกลายเป็นความโกรธความแค้นต่อโลก
ทุกคนมีความทุกข์และความเศร้าในรูปแบบที่ต่างกัน อย่าเปรียบเทียบตัวเองหรือคิดว่าคนอื่นทำไมดูมีความสุขมากกว่าเรา ชีวิตเกิดขึ้นเพื่อผ่านปัญหาต่างๆ แค่มีสติ รับรู้ แล้วแก้ไข เวลาที่ความสุขมาหา เราจะรู้ถึงคุณค่าที่สมกับการรอคอย