หัวหน้าเองก็มีความรู้สึกนะ แล้วบางทีเขาก็อยากให้เราไปบอกเขาก่อนเหมือนกัน นี่คือ 11 สิ่งสุดเซอร์ไพรส์ที่ถ้าเราไปคุยกับหัวหน้า เขาจะดีใจลึกๆ เลยล่ะ
1.อะไรที่คุณเอนจอยในการทำงานบ้าง?
หัวหน้าหลายๆ คนบอกความในใจมาว่า “อยากให้น้องๆ มาเล่าให้ฟังบ้างว่าเขาชอบทำอะไร สนุกกับอะไร น้องบางคนบ่นอย่างเดียว แล้วเขาบ่นต่อหน้าเรา บอกเลยว่ารู้สึกไม่ดีเลย อยากได้ยินอย่างอื่นบ้าง บางทีเราก็ต้องการกำลังใจเหมือนกัน และเผื่อว่าจะได้ช่วยให้เขาทำงานได้สนุกขึ้นด้วย”
2.แล้วมีอะไรที่รู้สึกว่าน่าเบื่อบ้างมั้ย?
“ถ้าเกิดพี่มีลูกน้องมาเล่าตรงๆ ว่างานมีอะไรน่าเบื่อบ้าง พี่จะหูผึ่งเลยนะ พี่เก็บทุกเม็ดแล้วจะเอาไปประชุมกับผู้บริหารแน่นอน เพราะไม่มีหัวหน้าคนไหนหรอกที่ไม่อยากให้ลูกน้องทำงานแบบมีความสุขน่ะ ก็ถ้ากล้าพอเดินมาเล่าเลยว่าสิ่งไหนน่าเบื่อบ้าง พร้อมเปลี่ยนค่ะ” – หัวหน้าด้านการตลาดท่านหนึ่ง
3.ไอเดียอะไรที่จะทำให้การทำงานไม่ต้องทำซ้ำๆ
ระบบงานที่ไม่เวิร์ค ฟังก์ชั่นงานที่ยืดเยื้อ หรืออะไรก็ได้ที่พนักงานคิดว่ามันคือการทำซ้ำ หัวหน้ายินดีรับฟัง แล้วถ้ามีทางแก้ปัญหาด้วย บอกไปเลยนะ บริษัทบางบริษัทเปลี่ยนระบบการทำงาน ก็เพราะเสียงจากพนักงานเพียงคนเดียวได้อยู่เหมือนกัน
4.อยากให้ช่วยอะไรเพิ่มเดินไปถึงจุดมุ่งหมายบ้าง?
พนักงานส่วนใหญ่จะทำงานไปเรื่อยๆ และไม่กล้าเดินไปบอกหัวหน้างานว่าอยากให้หัวหน้าช่วยอะไรบ้าง หรือถ้าต้องการให้หัวหน้าโทรศัพท์ไปคุยกับคนยากๆ ที่เราอาจจะบารมีไม่ถึง หัวหน้าแอบบอกมาว่ายินดีเลย เพราะบางทีหัวหน้าก็ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ และมีอะไรให้อยากช่วย ถ้างานนั้นมันต้อง “get it done” ด่วนๆ แล้วต้องการคนวิ่งไปที่จุดหมายด้วย ขอให้บอกเถอะ
5.ความรู้ที่อาจไม่ทันเพื่อนในทีม
พนักงานหลายคนทำงานดี แอตติจูดดีเลยนะ แต่อาจจะมีสกิลล์บางอย่างที่ไม่ได้ฝึกฝนเท่าเพื่อนบางคนในทีม ก็เลยทำให้เขากดดันตัวเองและเครียดเกินไป หัวหน้างานฝากมาบอกว่า ขอให้บอกเลย เพราะบริษัทมีเทรนนิ่งที่หัวหน้าต้องเสนอชื่อพนักงานอยุ่แล้ว
6.ลึกๆ แล้วคิดอะไรอยู่?
เป็นความฝันของหัวหน้างานเลย ที่อยากให้ลูกน้องเคาะประตูห้องแล้วบอกว่า “หัวหน้าคะ หนูมีเรื่องอยากจะปรึกษาค่ะ” หัวหน้ายินดีที่จะหยุดทำทุกอย่างแล้วฟังสิ่งที่พนักงานคิด “ฉันอยากให้น้องในทีมมาพูดความรู้สึกจริงๆ กับฉันมาก” คือสิ่งที่หัวหน้างานเขารู้สึกกันแทบจะทุกคนเลยล่ะ
7.มีปัญหากับคนอื่นๆ ในที่ทำงานมั้ย?
อย่ากลัว อย่าไม่ไว้ใจกัน เล่าไปตรงๆ ให้หัวหน้าฟัง ถ้าปัญหานั้นมันกระทบกับการทำงานนะ เพราะถ้าไม่เล่าแล้วลาออกไปจากอะไรที่ทับถม ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นอยู่ดี “ฉันรู้สึกว่าทีมของฉันไม่ค่อยอยากคุยกันเองว่าเรามีปัญหาอะไรกันอยู่ แต่ฉันมองว่ามันเป็นสิ่งดีที่ได้พูดกันออกมา มันท้าทายฉันด้วยว่าจะประสานรอยร้าวยังไง และอยากให้ไว้ใจเถอะว่าฉันจะแก้ไขให้แน่นอน” หัวหน้าท่านหนึ่งบอกมา
8.บริษัทได้ส่งผลอะไรกับมุมมองชีวิตของคุณมั้ย?
ที่บอกๆ กันว่าคัลเจอร์บริษัทมีผลต่อการทำงานของพนักงานน่ะ เรื่องแบบนี้ก็มาเล่าให้หัวหน้าฟังได้เลย เพราะมันสะท้อนถึงความสุขในการทำงานของคุณได้ หัวหน้างานหลายๆ คนเขาเชื่อนะว่าการทำงานสามารถสร้างความหมายให้ชีวิตได้ ก้าวเข้ามาแล้วเล่าเถอะว่าบริษัทนี้ทำให้ชีวิตคุณตกผลึกยังไงบ้างมั้ย
9.อยากให้ยืดหยุ่นอะไรในการทำงานมั้ย
ไม่ว่าจะเป็นการ work from home งานที่มากเกินไป ชีวิตที่ไม่บาลานซ์ ความหนักของงานต่างๆ มาเล่าเถอะ เผื่อจะได้ช่วยกันคิดวิธีให้งานยืดหยุ่นขึ้นได้บ้าง หรืออย่างน้อยได้มาระบายกันก็ยังดี เรื่องนี้หัวหน้าอาจไม่ได้ช่วยปรับกฎของบริษัทตรงๆ ได้ แต่ก็จะรับรู้ไว้ มีอะไรก็จะได้ปกป้องทีมได้ถูก
10.มีอะไรที่รู้สึกอยากทำอีกไหม?
คำถามง่ายๆ แต่บางทีพนักงานก็ไม่กล้าเดินมาบอก พนักงานบางคนเป็นคนมีความสามารถมาก มีไอเดีย มีไฟมากมาย แต่ต้องมาจมตัวเองเพราะระบบของบริษัทที่ไม่เอื้อให้เขาแสดงความสามารถออกมาเลย หัวหน้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าอะไรที่เขาอยากทำอีก สิ่งนี้บอกความเป็นดาวรุ่งของพนักงานในอนาคตได้เลยด้วยนะ
11.อยากก้าวหน้าไปถึงจุดไหน?
เรื่องตำแหน่ง เงินเดือน ทุกคนมีความหวังในใจกันทั้งนั้นล่ะ บอกหัวหน้าได้เลยถ้ารู้สึกย่ำอยู่กับที่ หรือถ้าอยากทำตำแหน่งงานไหน ก็ลองแชร์ดู หรือสงสัยใน career path ของตัวเอง เดินไปคุยกับหัวหน้าเถอะ สิ่งนี้เป็นตัววัดว่าพนักงานคนนั้นมีความอยากประสบความสำเร็จมั้ยด้วย
อ่านเรื่องงานอื่นๆ ได้ที่ 40 คำถามสัมภาษณ์งาน และ 50 คำถามถามผู้สัมภาษณ์กลับ