มีคำถามคาใจตลอดว่า เราจะทำยังไงให้ทำทุกอย่างเสร็จ แล้วชีวิตยังชิลล์ได้อยู่ ไม่ว่าจะเหลือเวลาให้ทำน้อยแค่ไหนก็ตาม!
อยากจะโคลนตัวเองอีกคนมากๆ หรือจ้างใครมาสิงร่างเราได้มั้ย แล้วก็ต้องบ่นกับตัวเองเรื่อยๆ เลยว่า ทำไมฉันทำอะไรไม่ทันเลย เบื่อๆๆๆ ตัวเอง แต่มีผู้หญิงอีกแบบหนึ่งนะเธอจะสามารถทำให้ 24 ชั่วโมงของเธอ ทำอะไรก็เสร็จและเธอยังร่าเริงและชิลล์อยู่ได้ ทำให้เราสงสัยมากว่าเธอกินยาเพิ่มพลังอะไรหรือเปล่านะ เธอคือซูเปอร์ฮีโร่ของเราสุดๆ บอกเลยว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นนิสัย นิสัยที่เธอเอาอะไรที่บล็อคชีวิตออกไป เธอโน้มน้าวตัวเองเป็น และคอนเซ็ปต์ของเธอคือ “ทำน้อยได้มาก”เอาล่ะบอกเลยนะว่า 7 นิสัยนี้เท่านั้น
1. พวกเธอไม่เอื้อมหยิบโทรศัพท์เป็นสิ่งแรกของวัน
ผู้หญิงที่ทำงานแนวสร้างโปรเจ็คท์สำคัญๆ ของโลก อย่างคนดูเรื่องสภาวะอากาศโลก ผู้หญิงที่ทำงานในองค์กรอวกาศ หรือนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นคว้าอะไรปังๆ พวกเธอมีรูทีนชีวิตก็คือ “ตื่นเช้าขึ้นมา สวดมนตร์ เขียน ทำสมาธิ อ่านหนังสือ” ไม่มีสักนิดที่เธอจะแตะอะไรที่เป็นจอ!! เอาเป็นว่าเธอแทบจะหามือถือไม่เจอเลยดีกว่า เธอบอกว่า “สิ่งนี้ทำให้ชีวิตฉันลงตัวไปทั้งวัน มันมีพลังข้างใน มีสเปซข้างในมากกว่าฉันไปยุ่งกับโลกภายนอกในทันที”
2. พวกเธอให้ความคิดผุดรู้ นำพาหนทางปแก้ปัญหาต่างๆ
บางครั้งไอเดียที่ล้ำที่สุดมักจะมาตอนเราเดินเล่น หรืออยู่นิ่งๆ แล้วแว่บคำตอบที่ชัดที่สุดแว่บขึ้นมาได้ ผู้หญิงแบบนี้เธอจะเอาความบีบเค้นของสมองออกไป แล้วปล่อยให้สัญชาติญาณภายในผุดขึ้นมา พี่เอ๋ บอกอคลีโอบอกว่า “เวลาพี่ต้องคิดอะไรแล้วคิดไม่ออก จะไม่คิดเลย พี่ชอบไปทำกับข้าว เดินเล่น แล้วมันแว่บมาจริงๆ นะ รีบวิ่งไปจดไอเดียแทบไม่ทันแน่ะ” บางคนบอกว่า “ฉันมักจะได้ไอเดียใหม่ๆ ที่เหมือนมันคิดมาจนชนทุกสิ่งแล้ว มันคือความท้าทายภายใน ที่ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากปล่อยให้ครีเอทีฟภายใน บูสท์ตัวเองขึ้นมา แค่ฟังเสียงตัวเองชัดๆ และเชื่อเท่านั้นล่ะ”
3. พวกเธอชอบการพุ่งขึ้นของเอนดอร์ฟีน
บางทีเธอใช้การดูกีฬา หรือเอาตัวเองเข้าไปทำอะไรที่เกิดความไฮๆ อย่างเล่นสวนสนุกเสียวๆ ความไฮจะเพิ่มความพุ่งในสมองให้ตื่นเต้น หัวเราะสุดขีด ลุ้น และมันส์มากๆ “มันทำให้อารมณ์ ความรู้สึกของฉันพุ่งปรี๊ดเลย อารมณ์แบบนี้พอได้รับ ก่อนที่ฉันจะทำงานที่ต้องใช้การเจรจา งานสำคัญๆ อะไร มันเวิร์คมากเลย” ก็ลองอย่าปล่อยให้อารมณ์นิ่งมากๆ สร้างความไฮให้ตัวเองบ้าง เพื่อให้โลกของเราสนุกเปล่งปลั่งขึ้น
4. พวกเธอเลือกที่จะไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
เธอเปลี่ยนซีนของชีวิตแทน เวลาเจออะไรที่เรารู้สึกว่าต้องใช้ความคิด ต้องมีทั้งอารมณ์ความรู้สึก ต้องสร้างสรรค์อีก เราจะรู้สึกว่ายากจัง แล้วก็พยายามหาทางเลี่ยงยังไม่อยากทำ เอาไว้ก่อนแล้วกัน แต่จริงๆ คนที่ทำอะไรเสร็จแบบชิลล์ๆ เธอมีวิธีที่จะจัดการกับเรื่องแบบนี้ก็คือสร้าง “โมเมนท์แห่งความรื่นรมย์” ให้ตัวเอง พวกเธอเลือกเอาสิ่งที่รื่นรมย์มาวางใกล้ๆ ตัว จิบไวน์ไปด้วย ทำพาวเวอร์พอยท์ไปด้วย หรือก่อนประชุมยากๆ ก็ออกไปนั่งอาบแดดมองฟ้าสักแป๊บ คือหาอะไรรอบตัวที่สลับเหตุการณ์ที่เราไม่อยากทำ ก็จะดึงเราออกไปจากซีนที่เราอึดอัดได้แล้ว “ส่วนผสมของสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ และทำอะไรที่เอนจอยไปด้วย จะช่วยเคลียร์อารมณ์ เคลียร์สมองให้เราได้รีเฟรช และมีครีเอทีฟ ไอเดียที่สดๆ เลย”
5. พวกเธอใช้ชีวิตนาทีต่อนาที
แทนที่จะจมตัวเองไปกับการล้างจานกองใหญ่ หรือตอบอีเมลมาราธอน เกรทเช่น รูบิน นักเขียนเรื่อง Life in Five Senses เธอบอกว่าเธอสามารถใช้ชีวิตแบบนาทีต่อนาที ที่ทำทุกอย่างชิลล์ๆ ไปด้วยได้ “คุณสามารถเอาหม้อข้าวแช่น้ำไว้ก่อน แล้วสลับไปนั่งตอบอีเมล หรือจะยืนอ่านหนังสือระหว่างรอเฟรนช์ฟรายทอด การที่เราทำอะไรไปด้วยกัน ก็ทำให้เพลินๆ แล้วไม่เครียดได้นะ เหมือนเราให้เวลาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรา” เท่ากับว่าเราเป็นเจ้าของเวลาของเรา ไม่คิดว่าต้องหลบหลีกเวลาเพื่ออะไร เราก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเราอย่างแท้จริง แล้วแปลกนะ พอทำชีวิตให้ทุกนาทีคือเวลาของเรา เรากลับยินดีที่จะทำเรื่องที่อาจจะไม่อยากทำแต่แรกเลยด้วยซ้ำ
6. พวกเธออนุญาตให้ตัวเอง “เลิกทำ” ก็ได้
ลอร่า แวนเดอร์แคม ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการจัดการเวลาบอกว่า เธอน่ะเกลียดการล้างหน้าก่อนอนมาก เธอบอกว่า “มันเหมือนกับว่ายังมีอีกอย่างที่ฉันต้องทำก่อนนอนแน่ะ” เธอรู้ว่าจะต้องล้างหน้าด้วยแน่ๆ เธอก็เลยบอกตัวเองว่า “ฉันบอกตัวเองว่า ให้ล้างหน้าก่อนนอน แต่ก็แอบคิดว่าพรุ่งนี้ดีกว่า ฉันเลยคิดว่า ถ้าจะต้องมานั่งคิดแบบนี้แล้วค้างในสมอง ก็ช่างมันมั้ย ไม่ต้องล้าง พอคิดได้แบบนี้ ฉันกลับเดินไปล้างเลย” มันเหมือนกับว่าพอเราได้อิสระที่จะเลือก เราอนุญาตให้ตัวเองเลิกทำก็ได้นะ เรากลับรู้สึกว่า เออมันก็เล็กน้อยที่จะทำ แล้วไม่มองมันเป็นเรื่องใหญ่ เราก็จะทำมันแบบชิลล์ๆ และไม่ติดขัดอีกเลยได้เลย
7. พวกเธอไม่ปล่อยให้ไอเดียลอยไป คิดอะไรได้ต้องจดไว้ทันที
ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน นักคิดคนไหนก็ตาม นิสัยอย่างหนึ่งที่พวกเขาชอบทำกันมากก็คือ “ต้องจดไอเดียที่ลอยผุดขึ้นมาเอาไว้” พวกเขาจะมีสมุดโน้ต ปากกาติดในกระเป๋าตลอด แล้วเขาก็รักนิสัยนี้ของตัวเองมากๆ ด้วย “สิ่งที่จดในสมุดโน้ตนี่คือขุมทองเขาเราเลย มีอะไรดีๆ ที่เราเขียนเอาไว้เพียบ แล้วพอมาอ่านอีกทีมันเปล่งประกายต่อความรู้สึกและความคิดเรามาก”พี่เอ๋ บอกอคลีโอผู้มีสมุดโน้ตรอบตัวมากมายเล่าให้ฟัง อาร์ติสท์อีกเหมือนกัน อารมณ์นั้นที่นั่งๆ แล้วอยากสเก็ตช์อะไร พวกเขาจะหยิบสมุดสเก็ตช์ขึ้นมาร่างทันที และบางครั้งมันก็กลายเป็นไอเดียอันยอดเยี่ยมในงานเขาได้ในภายหลังด้วย