สาวโสดบอกว่ามีแฟนว่ายากแล้ว คนมีแฟนยิ่งบอกว่ารักษารักนั้นให้ไปตลอดรอดฝั่งน่ะยากกว่า เพราะกว่าจะผ่านไปแต่ละปี เจออาถรรพ์ก็แล้ว รับมือกับความงี่เง่าใดๆ อีก แล้วคนที่เขารักกันเป็นสิบๆ ปีเนี่ยทำกันยังไงกับการมองหน้ากัน นอนฟังเสียงกรนกันทุกคืน ถ้าอยากจะรักษาความสัมพันธ์หลักง่ายๆ เลยข้างในเราต้องสดใสร่าเริงเข้าไว้ เป็นไอ้ต้าวน่าทะนุถนอม แก่จะเกษียณอยู่แล้วก็ยังเรียกกันว่า “ต้าวน้อย” ได้แบบไม่อายปาก คลีโอไปเจอคำแนะนำของคู่แต่งงานที่เขาอยู่ด้วยกันตลอดรอดฝั่งยาวนาน ดาร่า แคทซ์ นักเขียนท่านนี้ใช้เวลาหลายปีสัมภาษณ์คู่แต่งงานที่ใช้ชีวิตเกิน 12 ปี และเธอสรุปมาว่า
1.ใช้หลักพลังดีสู้พลังลบในอัตรา 5:1
ถึงขั้นว่ามีงานวิจัยจากสถาบันก็อตต์แมนมาเลยว่าตัวชี้วัดว่าคู่ที่อยู่กันมานานจะมีหลักขั้วบวกเอาขนะขั้วลบอยู่ที่ 5:1 อย่างเช่นถ้าเราหันไปบ่นแฟนเราหนึ่งกรุบว่าไม่เคยช่วยล้างจานเลยนะ จากนั้นให้ทำอะไรน่ารักๆ กับเขาอีก 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย อาจจะหาเรื่องชมเขาว่าหล่อบ้าง หาคลิปตลกๆ มาเปิดให้ดูแล้วขำด้วยกัน นั่งชวนคุยปัญหาที่ทำงานของเขา กอดเขา หอมแก้มอะไรก็ว่าไป ฟังดูยากเหมือนกันที่ต้องมานั่งนับอะไรแบบนี้ แต่ลองแล้วรู้สึกว่าเราเว้นช่วงการสาดสิ่งที่ไม่ดีออกไปห่างขึ้น หรือยั้งใจว่ายังไม่ถึงเวลาปรี๊ด ให้เรามีสติก่อนรีแอคนิสัยไม่ดีออกไป หรือช่วยให้เค้าลืมๆ จางๆ จากพลังลบของเราด้วยความน่ารักกลบเกลื่อน
2.หาวิธีบอกรักในสไตล์คู่ของเรา
ที่ปรึกษาชีวิตคู่อย่างแกรี่ แชปแมนบอกว่าทุกคนมีวิธีการสื่อสารความรัก 1 ใน 5 สิ่งนี้คือ คำที่ให้ความเชื่อมั่นต่อกัน (เช่น การบอกรัก ให้คำสัญญาใดๆ) การดูแลใส่ใจ การรับของขวัญ ช่วงเวลาที่มีคุณภาพและการสัมผัสทางร่างกาย แค่เรารู้ว่าคนรักของเราชอบบอกรักและรับความรักทางไหน ความใกล้ชิดจะแนบแน่นขึ้นเลย ผู้ชายบางคนคนไม่ได้มาพิมพ์บอกรักพร่ำเพรื่อ แต่เขาทำให้เห็นจากความเหนื่อยและเสียสละ ผู้ชายบางคนชอบมาขอให้เรากอดแล้วลูบหัว หรือคู่ที่รักทางไกล ใช้วิธีส่งข้อความมาหาหรือวีดีโอคอลบ่อยๆ อาจใช้เวลาไม่นานในแต่ละครั้ง แต่เป็น quality time ให้รู้ว่าเขายังนึกถึงเราเสมอ
3.เปิดอกและจัดเวลากระชับรัก
หมดยุคมาเขินอายแล้วคนอยู่ด้วยกันมานานๆ เหมือนรู้ว่าถ้าเปิดกิจกรรมจะมาไม้ไหน อย่าทำให้ชีวิตรักน่าเบื่อ ต้องเปลี่ยนเรื่องเซ็กซ์เป็นอะไรที่จับทางไม่ได้ มาแบบไม่ตั้งตัวบ้าง เปลี่ยนสถานที่ นัดเวลาจะได้เตรียมตัวจัดคอสเพลย์อะไรสนุกๆ คุยกันว่าอยากได้อะไร อันนี้ซีเรียสเลยแหละ เพราะผู้เชี่ยวชาญความสัมพันธ์เจนน่า เบิร์ชแนะนำว่าพูดออกมาเถอะ ถ้าแฟนอยากสามครั้งต่อสัปดาห์ แต่เราไหวที่ครั้งเดียว ก็หาวิธีมาเจอกันครึ่งทาง 2 ครั้งโอเคมั้ย ดีกว่าให้เขาไปหาข้างนอกเองแล้วเราไม่รู้
4.ชอบอะไรก็แยกย้ายกันไปทำบ้าง
หลายคู่แต่งงานของคนไทยชอบยึดคติเมียมีความสุขแล้วครอบครัวจะแฮปปี้ สปอยล์ผู้หญิงไปทุกอย่าง ไม่ใช่มั้ย! บางทีก็แอบคิดแทนเหล่ามวลมนุษย์แฟนที่ไปยืนรอผู้หญิงหน้าร้านขายเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอางว่าเขาเบื่อมั้ยซึ่งถ้าไม่บ่อยตลอดเวลาหรือสนุกที่จะได้พาแฟนไปซื้อของก็ไม่ติด แต่บางคู่โดนผู้หญิงเชิงบังคับว่าไม่ไปนี่งานเข้าเลยนะ คู่ที่อยู่กันมานานจะมีช่วงเวลาที่แบ่งให้ตัวเองมีความสุข เธอจะไปกินข้าวกับเพื่อน ส่วนฉันไปออกกำลังกาย ไม่ต้องตัวติดกันตลอดเวลา การแยกไปทำเรื่องที่ชอบยิ่งทำให้คิดถึงกันบ้าง แล้วไม่ต้องเฟคเอาใจสิ่งที่เขาชอบแต่เราไม่ชอบด้วยล่ะ อย่างเขาอยากดูบอลก็ดูไป ขอขึ้นไปนอนดูซีรีส์แทนแล้วกัน
5.ขอโทษให้ถูกวิธี
การพูดขอโทษไม่ใช่แค่พูดส่งเดช “ขอโทษแล้วกัน แต่เธอเริ่มก่อนนี่” กับ “ขอโทษนะถ้าทำให้รู้สึกไม่ดี” สองประโยคนี้ต่างกันตรงที่คนพูดรู้สึกขอโทษจริงๆ กับแกล้งประชดให้อีกฝ่ายรู้สึกผิด เพราะเป็นเรื่องยากนะที่จะกล้ายอมรับพฤติกรรมไม่ดีที่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจ แล้วการขอโทษที่ไม่ถูกไม่ต้องพูดดีกว่า ยิ่งทำร้ายจิตใจหนักกว่าเดิม ให้เริ่มจากเรารู้ก่อนว่าที่เราทำทำให้อีกฝ่ายรู้สึกยังไง ขอโทษออกไปแล้วแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นอีก
6.ออกไปเดทกันสองต่อสองบ้าง
บอกกันเป็นรอบที่ล้าน แต่การนัดเวลาออกไปดินเนอร์ ไปเที่ยวด้วยกันหรือแค่นอนดูหนังด้วยกันในบ้าน ลองหาที่เที่ยวใหม่ๆ คาเฟ่สวยๆ ไปเดินชมเมือง แต่งหน้าแต่งตัวงามๆ พยายามหาเวลาทำให้ได้ทุกสัปดาห์ และเวลานั้นเก็บมือถือไม่ต้องหยิบมาดู ขอให้มีกันสองคนจริงๆ เติมไฟรักให้โชติช่วงจนลืมเวลาไปเลย