15 กฎเหล็กแห่งการมูฟออน “สัญญากับตัวเอง ว่าเราต้องทำให้ได้นะ”

อย่างแรกเลยคือเซ็ตความตั้งใจให้ตัวเอง “ฉันจะต้องขึ้นมาจากหลุมให้ได้” แรงใจที่เราอยากเห็นตัวเองมีความสุข จะพาเรามูฟออนได้เกลี้ยง 100% แน่นอน เริ่มขยับตัวออกจากหลุมกันเลยนะ… เพราะเราจะไม่ยอมจมปลัก ไม่ยอมแพ้ใจตัวเอง เรามองเห็นตัวเองนี่นา ว่าเราจะมีความสุขใสๆ ได้กว่านี้ เราเลยต้องให้กำลังใจตัวเอง ตั้งกฏเหล็กให้ตัวเอง คนอย่างฉัน ไม่มีเธอ ฉันก็มูฟออนสวยๆ ได้ ว่าแล้วลุยกันเลย!! อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่ ฮาวทูรักตัวเอง เมื่อต้องมูฟออนจริงๆ

ฉันไม่โชคดีพอที่จะมีผู้ชายสักคน “มองเห็นฉันในแบบที่ฉันเป็น”

ฉันไม่ได้โชคดีแบบนั้น ฉันไม่ได้โชคดีพอที่จะมีผู้ชายสักคนมองเห็นฉันในแบบที่ฉันเป็น มองเห็นความเจ็บปวดของฉัน และอยากฉุดฉันขึ้นไป ไม่มีวิธีไหนอีกแล้วที่ฉันจะบอกตัวเองได้ดีไปกว่า “ยอมรับความจริงเถอะ” ทุกครั้งเวลาที่ฉันเห็นใครๆ เขารักกัน ความหวังในใจ ความเพ้อทุกครั้งที่กดแอปสีดำแดงเพื่อเลือกซีรีย์เกาหลีเรื่องใหม่ โจทย์ของฉันไม่มีอะไรมาก ต้องเป็นเรื่องที่ฉันสามารถสมมุติตัวเองเป็นนางเอกในเรื่องได้ แล้วจินตนาการต่อว่า บางทีฉันอาจจะเจอผู้ชายในชีวิตจริง ที่เป็นเหมือนพระเอกในเรื่อง หนังสือฮาวทูบอกว่า ให้คิดว่าอยากได้ผู้ชายแบบไหน ลิสต์ออกมาให้เยอะที่สุด แล้วตัดออกให้เหลือสัก 10 ข้อว่านั่นคือคุณสมบัติผู้ชายที่อยากได้ ฉันลองทำและกุมลิสท์นั้นไว้แน่นในกระเป๋าสตางค์ เอามาเปิดอ่านบ่อยๆ ด้วย บางทีที่เขาบอกว่าคืนพระจันทร์เต็มดวง พระจันทร์จะมอบพลังงานของความรักดูดใครให้เข้ามาในชีวิต ฉันจะเอาลิสท์นั้น ออกไปหาแสงจันทร์ ตั้งจิตอธิษฐาน แล้วนึกถึงเขา แน่นอนว่าฉันมีความเชื่อ ยังคงเชื่อ และก็จะเชื่อต่อไป เรื่องราวในโทรศัพท์กับเพื่อนสาว เราจะวนเวียนกันที่ซีรีย์ที่เพิ่งดู กรี๊ดพระเอก อยากบินไปเกาหลี แล้วเราก็จะกลับมาที่เรื่องของเรากัน ทำไมเพื่อนคนนั้นได้แฟนดีจัง แฟนเขาพาไปเมืองนอกบ่อยมากเลย เขาไปทริปกันอีกแล้ว ฉันกับเพื่อนก็ได้แต่พยายามหาเรื่องเน่าๆ ในเรื่องรักของคนอื่น “แต่พวกเขาอาจมีอะไรไม่แฮปปี้ก็ได้นะ พวกเราไม่มีทางรู้หรอก” มันคงเป็นคำปลอบใจที่เราบ่นให้กันฟัง แต่ฉันก็ยังไม่มีใครเข้ามาในชีวิตอยู่ดี “ที่เธอเหนื่อยเพราะไม่มีคนรักหรือเปล่า?” ประโยคจากเรื่อง My Liberation Notes หัวหน้าของพี่สาวนางเอกถามขึ้นมา หลังจากที่เธอมาทำงานแล้วบ่นว่าเหนื่อยๆๆๆๆ ทำไมชีวิตฉันถึงเหนื่อยขนาดนี้ […]

คุณหมอสา-Guardian Diamond พี่สาวที่เปิดประตูลับ ช่วยเคลียร์พลังงานลบให้คุณพบความสำเร็จ

ตั้งแต่เข้าปี 2024 ที่ผ่านมา คลีโอขอบอกว่านี่เป็นการสัมภาษณ์ที่เบิกเนตรให้เรารู้สึกมีความหวังและกำลังใจ รู้สึกว่าจักรวาลมอบของล้ำค่าเอาไว้ให้เราเสมอ เป็นเรื่องไม่บังเอิญที่ทำให้เราได้เจอกับคุณหมอสา หรือหลายคนรู้จักเธอในชื่อ Doctor Diamond กับฉายาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องเพชรที่ไม่ได้จบแพทยศาสตร์ แต่เป็นผู้ที่ช่วยเยียวยาให้ความรู้กับคนที่สนใจเรื่องเพชร รวมทั้งก้าวเข้ามาแก้ปัญหาชีวิตด้วยพลังของ “เพชรดิบ” ที่ค้นพบพลังงานอันยิ่งใหญ่นี้จนกลายมาเป็นแบรนด์ Guardian Diamond ที่สายมูบอกว่ามาลองแล้วขนลุกซู่ทุกคน ลูกสาวครอบครัวคนจีนที่ฝึกค้าขายตั้งแต่เด็ก “ตอนเด็กไม่รู้ว่าเราอยากเป็นอะไร พ่อแม่อยากให้เรียนที่เอแบค เพราะเห็นว่าเราภาษาดีมาตั้งแต่เด็ก เราไม่มีฝันเลย เป็นเจเนอเรชั่นที่ที่บ้านเป็นคนจีน ดังนั้นก็จะมีบอกแค่ว่าต้องมาช่วยพ่อแม่นะ เราก็รู้สึกว่าเราต้องทําไปจนตลอดชีวิต ไม่เคยมีความคิดอื่นเลย ที่บ้านทำธุรกิจขายเพขร เรียนจบมาให้ไปเรียนดูเพชรนะ เราก็ไป ซึ่งเรียนดูเพชรของสถาบัน GIA ซึ่งตอนนั้นมีสาขาในประเทศไทย เป็นโรงเรียนเล็กๆ ในยุค IMF ค่ะนานมากแล้ว” “คุณพ่อคุณแม่พยายามหนักมากในการส่งเราเรียนนะคะ จําได้เลยว่าแม่ให้เราเดินเข้าไปถามแล้วขอตีเช็ค 4 ใบจ่ายค่าเทอมได้ไหม ช่วงนั้นเราก็รู้เลยว่าชีวิตไม่ได้ง่าย ต้องเรียนให้จบกลับไปช่วยเขา เพราะแม่ก็จะพูดตลอด ตาแม่ก็เริ่มไปแล้วนะ เหมือนเขามาเปิดร้านตอนประมาณ 40 กว่าแล้ว ดังนั้นจะให้เค้าดูเพชรไปตลอดก็เป็นไปไม่ได้ เราเริ่มทําทุกอย่างตั้งแต่เสิร์ฟน้ํา เช็ดตู้ วิ่งงาน บางทีมีงานช่าง เราก็ขับรถออกไปเอง เดินส่งของส่งงาน แม่จะเหน็บเราไปด้วย […]

5 วัดปังในฮ่องกง ขออะไรเทพให้รัวๆ

“เก่งอย่างเดียวแต่ไม่เฮงก็ประสบความสำเร็จยาก” คำพูดนี้ดูจะไม่เกินความจริงไปสักเท่าไหร่นัก ในปัจจุบันเป็นยุคที่วัยรุ่นกำลังสร้างตัว หลายๆคนที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจบางคนบอกว่าเกิดจากความสามารถของตัวเอง แต่หลายๆคนเปิดเผยความลับว่าส่วนหนึ่งมาจากการมูในสถานที่ที่มีพลังงานประกอบกับพิธีกรรมที่ถูกต้องทำให้มีทั้งพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และกำลังใจในการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ




Entertainment, Series

สัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟ นักแสดงเรื่อง HeartBeat ที่คลีโอที่เดียวเท่านั้น!!



กรี๊ดมากกกกกกกก คลีได้สัมภาษณ์นักแสดงนำจากซีรีส์เรื่อง HeartBeat แบบเอ็กซ์คลูซีฟที่เดียวในไทย!! แล้วแต่ละคนฮอตๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น วอนจีอัน อ๊กแทคยอน พัคคังฮยอน ยุนโซฮี คือระดับตัวท็อปที่เราคุยด้วยแล้วแทบจะกรี๊ด ใครอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้ ห้ามพลาดเลยนะ

  1. ทำไมถึงตัดสินใจรับเล่นซีรีส์เรื่องนี้

อ๊กแทคยอน: ตอนผมได้รับบทเรื่อง HeartBeat มาลองอ่าน เป็นตอนที่ผมกำลังถ่ายซีรีส์เรื่องก่อนหน้าอยู่พอดีครับ บทในซีรีส์เรื่องนั้นค่อนข้างหนักและเครียด เมื่อผมอ่านบทเรื่อง HeartBeat ผมรู้สึกว่าใจเบาสบายขึ้นและรู้สึกเหมือนได้รับการเยียวยา นั่นทำให้ผมตัดสินใจรับเล่นเรื่องนี้ครับ…อีกอย่างผมอยากเป็นเล่นเป็นแวมไพร์สุดเซ็กซี่ด้วยครับ (หัวเราะ)

วอนจีอัน: ฉันรู้สึกว่าเรื่องราวสนุกและมีสีสันมาก และผู้ชมน่าจะชื่นชอบซีรีส์เรื่องนี้ ฉันเลยตัดสินใจรับเล่นค่ะ

พัคคังฮยอน: นี่เป็นซีรีส์เรื่องแรกของผมเลยครับ เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ผมจะต้องปฏิเสธ อีกอย่างตัวละครชินโดชิกของผม มีความแตกต่างจากบทอื่นๆที่ผมเคยได้รับตอนที่แสดงละครเวที เขาเป็นคนที่ค่อนข้างมีความบริสุทธิ์อยู่ในตัว ผมรู้สึกว่าเป็นบทบาทที่น่าสนใจและอยากจะถ่ายทอดออกมาให้ดีที่สุดครับ

ยุนโซฮี: ฉันอยากแสดงซีรีส์แนวแฟนตาซีมาตลอดเลยค่ะ ก็เลยตัดสินใจรับเล่นโดยไม่ลังเลเลย แต่ถึงแม้ซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นแนวแฟนตาซีแต่ก็มีความแตกต่างจากแฟนตาซีทั่วไป เพราะเป็นแฟนตาซีที่มีความสมจริง แวมไพร์ในเรื่อง HeartBeat ก็แตกต่างจากภาพของแวมไพร์ที่หลายคนคุ้นเคยมากๆ 

  1. ซีรีส์เรื่องนี้มีชื่อว่า HeartBeat คำนี้มีหมายและเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในซีรีส์อย่างไร 

ยุนโซฮี: อย่างแรกเลยตัวละครหลักของเรื่อง คือแวมไพร์ที่ชื่อว่าซอนอูฮยอล เขามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นมนุษย์ เพื่อสัมผัสอาการหัวใจเต้นจากการมีความรัก

พัคคังฮยอน: นอกจากแวมไพร์อูฮยอลแล้ว ชื่อเรี่องมีความเกี่ยวพันกับคาแรคเตอร์หลักทั้งสี่เลยครับ ตัวละครแฮวอน ในตอนแรกสิ่งที่จะทำให้ใจของเธอเต้นคือ “บ้าน” และเธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้ครอบครองมัน สำหรับตัวละครโดชิกของผมก็เป็นอีกคนที่อยากจะมีอาการใจเต้นมาโดยตลอด ส่วนตัวละครอินแฮ ถึงแม้เธอจะเป็นมนุษย์ แต่เธอเป็นคนเย็นชา แต่แล้วเมื่อเธอมาเจอกับแวมไพร์อูฮยอล หัวใจของเธอกลับเริ่มที่จะเต้นตึกตักกับเขาบ้าง

วอนจีอัน: คำว่า Heart Beat นอกจากจะหมายถึงอาการใจเต้น ยังมีความหมายแฝงที่สะท้อนอยู่ในเรื่องราวของซีรีส์ด้วยนะคะ อยากให้ลองติดตามชมกัน ว่ามีความหมายอะไรซ่อนอยู่

อ๊กแทคยอน: ผมคิดว่าทุกคนตอบคำถามและอธิบายได้ดีแล้วครับ ตามนั้นเลย (หัวเราะ)

  1. คุณรับบทเป็นใคร และคุณคิดว่าตัวละครของคุณมีเสน่ห์ตรงจุดไหน

ยุนโซฮี: ฉันแสดงเป็นนาแฮวอนค่ะ เธอมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยและเป็นตัวแทนบริษัทการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เสน่ห์ของตัวละครของฉันคือ … เงิน (หัวเราะ)

พัคคังฮยอน: ผมรับบทเป็นชินโดชิก นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เสน่ห์ของผมก็เหมือนกับนาแฮวอนครับ คือ เงิน ถึงจะไม่มากเท่าเธอก็ตาม เสน่ห์อีกอย่างคือความอบอุ่นและความทุ่มเทเพื่อผู้หญิงที่รักครับ

วอนจีอัน: ฉันรับบทเป็นจูอินแฮค่ะ เธอเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างทรหดอดทน พยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะอยู่รอด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ฉันว่าเสน่ห์ของเธอคงจะเป็นความอดทนและสู้ชีวิตนี่ล่ะค่ะ

อ๊กแทคยอน: ผมเล่นเป็นแวมไพร์ซอนอูฮยอลครับ เสน่ห์ของตัวละครผมน่าจะอยู่ตรงที่ กล้าเสี่ยงทุกอย่างเพื่อความรัก เขาตั้งเป้าหมายไว้และมุ่งมั่นที่จะไปถึงเป้าหมายให้ได้ 

  1. ระหว่างถ่ายทำมีอะไรที่คุณรู้สึกว่าท้าทายหรือว่ายากบ้างหรือไม่

อ๊กแทคยอน: ผมเล่นเป็นแวมไพร์ ส่วนที่ยากที่สุดก็คือเวลาถ่ายทำกับพวก CG (คอมพิวเตอร์กราฟฟิค) เพราะตอนที่เราแสดงมันไม่มีสิ่งเหล่านั้นอยุ่ตรงหน้าให้เห็นจริง ผมต้องอาศัยจินตนาการเยอะอยู่เหมือนกันครับ

วอนจีอัน: ส่วนที่ยากสำหรับฉัน น่าจะเป็นความอึดของฉันเองค่ะ ฉันรู้สึกว่าร่างกายฉันยังไม่อึดพอ 

พัคคังฮยอน: ผมยังจำวันแรกของการถ่ายทำได้ดีเลยครับ ปกติผมจะร้องเพลงและแสดงบนเวทีต่อหน้าผู้ชม แต่พอมาแสดงซีรีส์เราต้องแสดงต่อหน้ากล้อง เป็นสิ่งที่ค่อนข้างแตกต่างจากที่ผมคุ้นเคย เลยรู้สึกว่าท้าทายและต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน แต่คุณอ๊กแทคยอน คุณวอนจีอัน และคุณยุนโซฮี รวมถึงผู้กำกับ ช่วยให้คำแนะนำผมได้มากเลยครับ

ยุนโซฮี: สำหรับฉันเองห่างหายจากการแสดงไปนานเหมือนกันค่ะ ผลงานเรื่องนี้ห่างจากเรื่องก่อนหน้านี้พอสมควร ช่วงแรกที่ถ่ายทำเลยมีติดขัดอยู่บ้าง แต่ฉันได้ผู้กำกับคอยให้คำปรึกษาเช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีส่วนที่ยากบ้าง แต่ก็ผ่านมาได้ดีเพราะมีผู้กำกับให้คำแนะนำ และยังมีคุณแทคยอนช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับกองถ่าย ทำให้การทำงานไม่เครียดค่ะ 

  1. คุณชื่นชอบหรือประทับใจการถ่ายทำฉากไหนเป็นพิเศษบ้างหรือไม่

ยุนโซฮี: ฉากปาร์ตี้เป็นฉากที่ฉันประทับใจมากที่สุดค่ะ เพราะในเรื่องนี้มีฉากที่พวกเรารวมตัวกันครบทุกคนอยู่ไม่กี่ฉาก ที่จริงแล้วนี่น่าจะเป็นฉากแรกเลยที่นักแสดงทั้งหมดได้มาถ่ายทำด้วยกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา นับตั้งแต่วันนัดอ่านบท ดังนั้นพวกเราเลยสนุกกันมากๆค่ะ และตัวฉากที่จัดให้เป็นงานปาร์ตี้ก็มีความสนุกอยู่ในตัวด้วยเหมือนกัน – แต่ฉันเล่าให้ฟังแบบละเอียดมากไม่ได้นะคะ เดี๋ยวจะเผลอสปอยล์ แต่ที่ฉันพอจะบอกได้ก็คือ พวกเราประทับใจกับการถ่ายทำมากและมันก็เป็นฉากที่สนุกจริงๆ 

พัคคังฮยอน: ผมเองก็ชอบฉากปาร์ตี้เหมือนกันครับ มันเป็นฉากที่สนุกมาก นอกจากนักแสดงหลักแล้ว ถ้าผมจำไม่ผิดยังมีนักแสดงสมทบอีกประมาณ 80 – 100 คนเลยครับ ถึงแม้พอคนอยู่รวมกันเยอะๆ จะมีความรู้สึกอบอ้าวเหมือนอยู่ในซาวน่าไปบ้าง แต่บรรยากาศโดยรวมก็น่าประทับใจ อีกอย่างเมื่อคุณมีช่วงเวลาที่ไม่ได้ได้มาอย่าง่ายๆ ช่วงเวลาเหล่านั้นจะกลายเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุด

วอนจีอัน: สำหรับฉันเป็นฉากที่พวกเราทั้งสี่คนกินอาหารเย็นด้วยกันค่ะ มันเป็นฉากที่ค่อนข้างยาวและบทพูดเยอะ ฉันประทับใจฉากนี้ เพราะช่วงซ้อมก่อนการถ่ายทำจริง พวกเราได้แลกเปลี่ยนไอเดียและความเห็นกันเยอะมากค่ะ 

อ๊กแทคยอน: ผมขอเลือกฉากที่อยู่ในตอนที่ 1 เลยครับ มันเป็นฉากที่ตัวละครของผมตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลอย่างยาวนาน แล้วเพิ่งมารู้ว่าตื่นก่อนกำหนดเพียง 1 วัน เขาเลยโกรธอินแฮ คนที่บังเอิญปลุกเขาให้ตื่นมาก เลยพยายามที่จะกัดคอและดูดเลือดเธอ แต่กลายเป็นว่าเขาเป็นฝ่ายถูกกัดเสียเอง ที่ผมจำฉากนี้ได้ไม่ลืมก็เพราะ ผมไม่คิดว่าคุณจีอันจะกัดผมจริงๆ แต่ปรากฏว่าเธอกัดจริงครับ และมันก็เจ็บมากด้วย 

  1. คุณอ๊กแทคยอน เห็นว่าในเรื่องนี้คุณได้เล่นฉากต่อสู้ด้วย เป็นอย่างไรบ้าง

อ๊คแทคยอน: ผมเคยมีประสบการณ์เล่นฉากแอ็คชั่นจากงานเรื่องก่อนๆอยู่บ้าง สำหรับเรื่องนี้ผมมีพลังวิเศษ ฉากต่อสู้ส่วนใหญ่เลยแตกต่างออกไป ผมต้องใช้จินตนาการในการแสดง มากกว่าการต่อสู้จริงจัง ถึงแม้ผมจะไม่ได้รู้สึกว่ามันยากเท่าไหร่ แต่ผมก็เพิ่งมาพบว่าผมกลัวความสูงจากการทำงานในเรื่องนี้ครับ เพราะมีอยู่หลายฉากที่ผมต้องโหนสลิงบินไปรอบๆ และผมรู้สึกว่ามันน่ากลัว 

  1. คุณวอนจีอัน ช่วยอธิบายตัวละครจูอินแฮของคุณให้พวกเรารู้จักมากขึ้นอีกนิดได้หรือไม่ ตัวละครนี้มีความแตกต่างหรือเหมือนกับตัวคุณอย่างไร 

วอนจีอัน: อย่างแรกเลยตัวละของจูอินแฮของฉันเป็นคนที่มีเหตุผลมากๆค่ะ เป็นคนที่มีชีวิตอยู่กับความเป็นจริง พอฉันแสดงเป็นเธอไปสักพัก ฉันก็พบว่าเธอมีความแตกต่างกันฉันมาก เธอเป็นคนมีความอดทนและเก่งกว่าฉันเยอะเลย แต่ถ้าจะหาจุดที่คล้ายคลึงกันก็พอจะมีอยู่บ้างค่ะ เพราะฉันเองก็เคยใช้ชีวิตคนเดียวมาประมาณ 2 ปี จุดนี้จึงเหมือนกับเธอที่ใช้ชีวิตตามลำพังมาโดยตลอด ฉันก็เลยยิ่งทึ่งอินแฮค่ะ ว่าเธออยู่คนเดียวมานานแบบนี้ได้ยังไงกันนะ ฉันพยายามนำประสบการณ์ที่ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาใช้ เพื่อให้เชื่อมโยงกับตัวละครของเธอ

  1. คุณพัคคังฮยอน HeartBeat เป็นผลงานซีรีส์เรื่องแรกของคุณ คุณได้เรียนรู้อะไรจากการทำงานครั้งนี้บ้าง

พัคคังฮยอน: ทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่สำหรับผมหมดเลยครับ ผมได้เรียนรู้เยอะๆมาก จนถึงตอนนี้ก็มีสิ่งใหม่ๆให้ได้เรียนรู้อยู่ตลอด ปกติผมจะแสดงอยู่บนเวที เมื่อต้องมาแสดงอยู่หน้ากล้อง ก็มีสิ่งใหม่ๆที่จะต้องทำความเข้าใจ อย่างเช่นเรื่องของบล็อกกิ้ง และวิธีการแสดงที่เหมาะสมกับซีรีส์ ซึ่งจะใช้ทักษะคนละแบบกับละครเวที ต้องขอบคุณเพื่อนๆนักแสดงทุกคนเลยครับที่ช่วยทำให้ผมเรียนรู้ได้อย่างมาก

  1. คุณยุนโซฮี คุณต้องเล่นเป็นสองตัวละคร คุณรู้สึกชอบและเชื่อมโยงกับตัวละครไหนมากกว่ากัน

ยุนโซฮี: ฉันชอบตัวละครนาแฮวอนมากกว่าค่ะ อย่างแรกเลยเพราะฉันใช้เวลาทำการบ้านเกี่ยวกับตัวเธอมากกว่าตัวละครอีกตัว และอีกเหตุผลคือฉันอยากใช้ชีวิตแบบเธอบ้าง เพราะเธอมีชีวิตที่หรูหรามาก – ที่จริงฉันรู้สึกอยากเป็นเธอมากกว่ารู้สึกว่าตัวละครนี้เชื่อมโยงหรือคล้ายกับฉันค่ะ

  1. ถ้าคุณพบว่าตัวเองกลายเป็นแวมไพร์ที่มีพลังวิเศษ อย่างแรกเลยที่คุณจะทำคืออะไร

อ๊กแทคยอน: ผมอยากแปลงร่างเป็นค้างคาวและบินไปรอบๆครับ ผมอยากสำรวจภายในถ้ำมานานแล้ว

วอนจีอัน: ฉันอยากจะบินเหมือนกันค่ะ อยากจะบินไปให้สูงๆเลย

พัคคังฮยอน: ถ้าเป็นแวมไพร์อาจจะหายใจได้โดยไม่ต้องใช้ออกซิเจน ผมอยากจะไปสำรวจใต้ทะเลลึกหรือไม่ก็ไปในอวกาศเลยครับยุนโซฮี: ฉันอยากแปลงร่างเป็นแมวค่ะ จะได้คุยกับแมวของฉันรู้เรื่อง

ดูซีรีส์ HeartBeat ได้ที่ Prime Video เท่านั้นนะ

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']