ใช้ชีวิตกับการคอยเช็คตัวเองตลอดเวลา จะค่อนข้างรู้ว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไง บาลานซ์เราเป็นยังไง ก็เลยเอนจอยที่จะคอยหาอะไรมาเติมโฟกัสให้เรา เพราะนั่นคือสิ่งที่ช่วยเราได้เวลาเรามีอะไรในใจ แล้วอยากลืม….
- อ่านหนังสือที่ชอบ..แล้วจดโน้ต: ความเพลินจากการอ่าน แล้วต้องตั้งใจเข้าใจให้ได้ เพื่อจะรวบตึงเป็นคำพูดเราเก็บไว้ บอกเลยว่ายังไงก็ต้องโฟกัสแน่นอน
2. เล่นดนตรียากๆ: คุ้มที่สุดที่ชีวิตได้ทุ่มเทไปกับการเรียนเปียโนในช่วงเวลาหนึ่ง ยิ่งยากยิ่งดีเลย พอเวลาเราอยากคลี่คลายอะไรในใจออกไป คืนแห่งการกลับมานั่งงมดีดโน้ตบีโธเฟ่นยากๆ ใจเราจะไม่มีเรื่องอะไรมากวนนอกจากความจดจ้องบรรทัด 5 เส้นของโน้ตเพลงเท่านั้น!
3. ทำอาหารสัก 3 เมนูพร้อมกัน: สมองต้องคิดตั้งแต่ทำอะไรดีที่มันบาลานซ์กัน เครื่องปรุงล่ะ แล้วจะทำอะไรก่อน เพื่อให้ออกมาเสร็จพร้อมกัน ตอนต้มน้ำ เราจะหั่นผัก ตอนยืนเคี่ยวจะกริลล์เบคอนเอาไว้ แค่คิดว่าจะหยิบจานกี่ใบมาใส่เครื่องปรุง จะแบ่งพื้นที่ในจานยังไง เอามาวางหน้าเตาให้หยิบได้ง่าย ทั้งหมดสมองต้องว่างเปล่าจริงๆ ถึงจะแมเนจได้เลย
4. เขียนบทความยาวๆ: ยิ่งถ้าเป็นบทความที่ไม่คุ้นชิน จะท้าทายเรามาก ต้องหาข้อมูล อ่าน จด แล้วเรียบเรียง วิเคราะห์ แล้วกลั่นออกมาเป็นคำพูดเรา แล้วถ้าเป็นบทความออริจินัล คือเราสร้างหัวข้อขึ้นมาเองเลย ใจและสมองก็จะยิ่งส่ายไปไหนไม่ได้
5. เขียนข้อความจากความรู้สึกเก็บไว้: เป็นทั้งช่วยโฟกัสและช่วยเยียวยา ใจจะรวมศูนย์ แล้วเป็นโมเมนท์ให้เราได้เช็คตัวเองอีกครั้ง ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร เราเป็นใคร อะไรพาเรามารู้สึกแบบนี้ ถ้าทำได้ทำทุกวันจะทำให้เราเข้าใจตัวเองขึ้นด้วย
6. เพนท์รูปที่เราไม่คุ้น: ไม่ต้องวาดรูปเก่ง ไม่ต้องใช้สีเป็น ก็แค่เอากระดาษ สี แล้วนั่งเพนท์อะไรก็ได้ไปเรื่อยๆ พาตัวเองไปเพนท์ที่ไม่คุ้นบ้าง จะทั้งโฟกัสและเพลิน ผ่านไปอีกที 3 ชั่วโมง ลืมไปเลยว่าเมื่อกี้เครียดอะไร
7. จัดห้อง ทำความสะอาดให้สุด: ต้องเอาให้สุดเลยนะ เรียกว่ารื้อทุกสิ่งออกมา เปิดเพลงฟัง แล้วทำความสะอาดไปทีละตารางนิ้ว ใช้อุปกรณ์ช่วยให้น้อยที่สุด อยู่แค่กะละมังเล็กๆ กับผ้าเปียก ผ้าแห้ง และ multi-purpose cleaner ตอนทำเราอาจคิดเรื่องอื่นบ้าง แต่เราก็จะไปมีโฟกัสกับข้างของที่เราเช็ดว่าฉันมีอันนี้ด้วยเหรอ อุ้ย! ชิ้นนี้รัก อ่า! อันนี้แฟนเก่าให้อะไรแบบนี้ล่ะ ตอนสุดท้ายทำเสร็จเหนื่อยมาก และรู้สึกฉันทำอะไรให้ตัวเองดีเลย
8. เอาหนังสือมาจัดหมวดหมู่: เป็นกิจกรรมที่หินมากๆ เพราะมีหนังสือน่าจะเป็นพันเล่ม อันนี้ระหว่างทำเพลินที่สุด เพราะจะต้องเปิดหนังสือดูแทบจะทุกเล่ม วิธีจัดโหดนิด คือเอาทุกเล่มมากองไว้กลางบ้าน แล้วแยกประเภทที่จะแบ่งออกเป็น หนังสือประวัติศาสตร์ วรรณกรรม นิยาย ท่องเที่ยว ฮาวทู ปรัชญา ชิคลิท งาน เรื่องสั้น คลาสสิค หนังสือที่รักมาก คำคม และอื่นๆ ที่อาจงอกขึ้นมาตอนนั้น
9. เอาเสื้อผ้าออกจากตู้: เฉือนหัวใจอีกเหมือนกัน เพราะเราต้องเอาออกไปจริงๆ แล้วมันมักจะมีเสื้อที่รัก เสื้อที่ใส่ไปโมเมนท์พิเศษๆ บอกเลยว่าโฟกัสมาก แล้วต้องคิดว่าชิ้นไหนจะให้ใครต่อด้วยนะ
10. ลิสท์สิ่งที่อยากทำ และความฝัน: เป็นการโฟกัสไปในอนาคต จริงๆ ก็ไม่ค่อยชอบวางแผนเท่าไหร่ แต่จะทำตอนที่อยากตั้งใจกับอะไร การมานั่งลิสท์นี่คือเอาตัวเองมาสนใจแต่ตัวเรา แล้วจะเห็นเลยว่าเรามีชีวิตที่ดีงามตามที่ตั้งใจไปแล้วมั้ย กับอยากก้าวต่อไปให้ตัวเราเป็นยังไง ความจริงจะมากระแทกตรงนี้เลย
11. ฟังความทุกข์ของเพื่อน: ตั้งใจฟังทุกคำของเธอ แล้วตั้งใจว่าจะส่งพลังงานดีๆ ไปให้เธอ จะใช้หัวใจเยอะ และสมองก็ต้องไปตามเธอ ไม่มีทางจะคิดเรื่องอื่นได้เลย
12. นั่งสมาธิ: จริงๆ เป็นวิธีที่ยากที่สุดและแน่นที่สุดที่จะให้เราโฟกัส คือการรวมศูนย์ตัวเองและปล่อยทุกสิ่งให้ว่าง ทิ้งทุกอย่างในความคิด ในความรู้สึก ยากเพราะทุกเรื่องในบันทึกเราชอบเข้ามากวนเล่นตอนนี้ล่ะ และบางทีก็ทำให้อึดอัด อยากลุก อยากลืมตา แต่ถ้าตั้งใจแน่นๆ เอาไว้ เราจะอยู่กับสภาวะไปเรื่อยๆ จนอยู่ดีๆ ก็ไม่คิดอะไรได้ ตั้งเวลาไว้แล้วต้องตายเป็นตายกับตัวเองเลย ทำไปทุกวันอยู่ดีๆ เรื่องที่เราฟุ้งซ่าน มันจะหลุดหายไปซะอย่างนั้นเลย
อ่านเรื่องอื่นๆ ต่อได้ที่ ดีใจด้วยนะ คุณลืมเขาได้แล้ว