15 กฎเหล็กแห่งการมูฟออน “สัญญากับตัวเอง ว่าเราต้องทำให้ได้นะ”

อย่างแรกเลยคือเซ็ตความตั้งใจให้ตัวเอง “ฉันจะต้องขึ้นมาจากหลุมให้ได้” แรงใจที่เราอยากเห็นตัวเองมีความสุข จะพาเรามูฟออนได้เกลี้ยง 100% แน่นอน เริ่มขยับตัวออกจากหลุมกันเลยนะ… เพราะเราจะไม่ยอมจมปลัก ไม่ยอมแพ้ใจตัวเอง เรามองเห็นตัวเองนี่นา ว่าเราจะมีความสุขใสๆ ได้กว่านี้ เราเลยต้องให้กำลังใจตัวเอง ตั้งกฏเหล็กให้ตัวเอง คนอย่างฉัน ไม่มีเธอ ฉันก็มูฟออนสวยๆ ได้ ว่าแล้วลุยกันเลย!! อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่ ฮาวทูรักตัวเอง เมื่อต้องมูฟออนจริงๆ

ฉันไม่โชคดีพอที่จะมีผู้ชายสักคน “มองเห็นฉันในแบบที่ฉันเป็น”

ฉันไม่ได้โชคดีแบบนั้น ฉันไม่ได้โชคดีพอที่จะมีผู้ชายสักคนมองเห็นฉันในแบบที่ฉันเป็น มองเห็นความเจ็บปวดของฉัน และอยากฉุดฉันขึ้นไป ไม่มีวิธีไหนอีกแล้วที่ฉันจะบอกตัวเองได้ดีไปกว่า “ยอมรับความจริงเถอะ” ทุกครั้งเวลาที่ฉันเห็นใครๆ เขารักกัน ความหวังในใจ ความเพ้อทุกครั้งที่กดแอปสีดำแดงเพื่อเลือกซีรีย์เกาหลีเรื่องใหม่ โจทย์ของฉันไม่มีอะไรมาก ต้องเป็นเรื่องที่ฉันสามารถสมมุติตัวเองเป็นนางเอกในเรื่องได้ แล้วจินตนาการต่อว่า บางทีฉันอาจจะเจอผู้ชายในชีวิตจริง ที่เป็นเหมือนพระเอกในเรื่อง หนังสือฮาวทูบอกว่า ให้คิดว่าอยากได้ผู้ชายแบบไหน ลิสต์ออกมาให้เยอะที่สุด แล้วตัดออกให้เหลือสัก 10 ข้อว่านั่นคือคุณสมบัติผู้ชายที่อยากได้ ฉันลองทำและกุมลิสท์นั้นไว้แน่นในกระเป๋าสตางค์ เอามาเปิดอ่านบ่อยๆ ด้วย บางทีที่เขาบอกว่าคืนพระจันทร์เต็มดวง พระจันทร์จะมอบพลังงานของความรักดูดใครให้เข้ามาในชีวิต ฉันจะเอาลิสท์นั้น ออกไปหาแสงจันทร์ ตั้งจิตอธิษฐาน แล้วนึกถึงเขา แน่นอนว่าฉันมีความเชื่อ ยังคงเชื่อ และก็จะเชื่อต่อไป เรื่องราวในโทรศัพท์กับเพื่อนสาว เราจะวนเวียนกันที่ซีรีย์ที่เพิ่งดู กรี๊ดพระเอก อยากบินไปเกาหลี แล้วเราก็จะกลับมาที่เรื่องของเรากัน ทำไมเพื่อนคนนั้นได้แฟนดีจัง แฟนเขาพาไปเมืองนอกบ่อยมากเลย เขาไปทริปกันอีกแล้ว ฉันกับเพื่อนก็ได้แต่พยายามหาเรื่องเน่าๆ ในเรื่องรักของคนอื่น “แต่พวกเขาอาจมีอะไรไม่แฮปปี้ก็ได้นะ พวกเราไม่มีทางรู้หรอก” มันคงเป็นคำปลอบใจที่เราบ่นให้กันฟัง แต่ฉันก็ยังไม่มีใครเข้ามาในชีวิตอยู่ดี “ที่เธอเหนื่อยเพราะไม่มีคนรักหรือเปล่า?” ประโยคจากเรื่อง My Liberation Notes หัวหน้าของพี่สาวนางเอกถามขึ้นมา หลังจากที่เธอมาทำงานแล้วบ่นว่าเหนื่อยๆๆๆๆ ทำไมชีวิตฉันถึงเหนื่อยขนาดนี้ […]

คุณหมอสา-Guardian Diamond พี่สาวที่เปิดประตูลับ ช่วยเคลียร์พลังงานลบให้คุณพบความสำเร็จ

ตั้งแต่เข้าปี 2024 ที่ผ่านมา คลีโอขอบอกว่านี่เป็นการสัมภาษณ์ที่เบิกเนตรให้เรารู้สึกมีความหวังและกำลังใจ รู้สึกว่าจักรวาลมอบของล้ำค่าเอาไว้ให้เราเสมอ เป็นเรื่องไม่บังเอิญที่ทำให้เราได้เจอกับคุณหมอสา หรือหลายคนรู้จักเธอในชื่อ Doctor Diamond กับฉายาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องเพชรที่ไม่ได้จบแพทยศาสตร์ แต่เป็นผู้ที่ช่วยเยียวยาให้ความรู้กับคนที่สนใจเรื่องเพชร รวมทั้งก้าวเข้ามาแก้ปัญหาชีวิตด้วยพลังของ “เพชรดิบ” ที่ค้นพบพลังงานอันยิ่งใหญ่นี้จนกลายมาเป็นแบรนด์ Guardian Diamond ที่สายมูบอกว่ามาลองแล้วขนลุกซู่ทุกคน ลูกสาวครอบครัวคนจีนที่ฝึกค้าขายตั้งแต่เด็ก “ตอนเด็กไม่รู้ว่าเราอยากเป็นอะไร พ่อแม่อยากให้เรียนที่เอแบค เพราะเห็นว่าเราภาษาดีมาตั้งแต่เด็ก เราไม่มีฝันเลย เป็นเจเนอเรชั่นที่ที่บ้านเป็นคนจีน ดังนั้นก็จะมีบอกแค่ว่าต้องมาช่วยพ่อแม่นะ เราก็รู้สึกว่าเราต้องทําไปจนตลอดชีวิต ไม่เคยมีความคิดอื่นเลย ที่บ้านทำธุรกิจขายเพขร เรียนจบมาให้ไปเรียนดูเพชรนะ เราก็ไป ซึ่งเรียนดูเพชรของสถาบัน GIA ซึ่งตอนนั้นมีสาขาในประเทศไทย เป็นโรงเรียนเล็กๆ ในยุค IMF ค่ะนานมากแล้ว” “คุณพ่อคุณแม่พยายามหนักมากในการส่งเราเรียนนะคะ จําได้เลยว่าแม่ให้เราเดินเข้าไปถามแล้วขอตีเช็ค 4 ใบจ่ายค่าเทอมได้ไหม ช่วงนั้นเราก็รู้เลยว่าชีวิตไม่ได้ง่าย ต้องเรียนให้จบกลับไปช่วยเขา เพราะแม่ก็จะพูดตลอด ตาแม่ก็เริ่มไปแล้วนะ เหมือนเขามาเปิดร้านตอนประมาณ 40 กว่าแล้ว ดังนั้นจะให้เค้าดูเพชรไปตลอดก็เป็นไปไม่ได้ เราเริ่มทําทุกอย่างตั้งแต่เสิร์ฟน้ํา เช็ดตู้ วิ่งงาน บางทีมีงานช่าง เราก็ขับรถออกไปเอง เดินส่งของส่งงาน แม่จะเหน็บเราไปด้วย […]

5 วัดปังในฮ่องกง ขออะไรเทพให้รัวๆ

“เก่งอย่างเดียวแต่ไม่เฮงก็ประสบความสำเร็จยาก” คำพูดนี้ดูจะไม่เกินความจริงไปสักเท่าไหร่นัก ในปัจจุบันเป็นยุคที่วัยรุ่นกำลังสร้างตัว หลายๆคนที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจบางคนบอกว่าเกิดจากความสามารถของตัวเอง แต่หลายๆคนเปิดเผยความลับว่าส่วนหนึ่งมาจากการมูในสถานที่ที่มีพลังงานประกอบกับพิธีกรรมที่ถูกต้องทำให้มีทั้งพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และกำลังใจในการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ




Love, Relationship

13 สิ่งที่คนมีความสุขในชีวิตคู่..เขาทำกัน รับรองรักกันยาวๆ เลย

ความสัมพันธ์ที่ร้กกันนานๆ

นักจิตวิทยาชื่อดัง ฌอง คลอด ชาลเมท์ บอกว่าเราอาจจะรู้เพียงสองสามสิ่งที่ทำให้ชีวิตคู่มีความสุขแค่นั้น แต่ยังมีอีกมากมายที่ทำให้คุณและเขารักกันยาวๆ ที่คุณยังไม่รู้นั่นล่ะ

มีคนบอกไว้ว่า ความลับที่ทำให้คนยังอยู่ในความสัมพันธ์กันอยู่ ก็คือเขาไม่ได้อยากหย่าพร้อมกัน ซึ่งมันก็จริงเอาเลยนะ แต่ถ้าเรามีทางที่ดีกว่านั้นล่ะ ถ้าเราหาทางรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ได้อย่างแท้จริง ที่แต่ละคนก็มีความสุขกันจริงๆ คราวนี้ก็ไม่เกี่ยวแล้วว่าเราต้องทนกันไปนานแค่ไหน ต้องปิดหูปิดตาเพื่อจะมีกันแค่ไหน

นักจิตวิทยาชื่อดังของโลก ฌอง คลอด ชาลเมท์ ผู้ใช้เวลาทั้งชีวิตค้นหาว่าอะไรที่จะทำให้คนเรารักกันไปได้นานๆ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเจอกับชีวิตที่ไม่ได้คาดฝัน แล้วเขาก็ยังจับมือรักกันได้อยู่ “ตลอดเวลา 30 ปี ผมเป็นที่ปรึกษาให้คนมากมาย ลูกค้าของผมไม่ใช่คนที่จ่อรอจะหย่ากันเสมอนะ พวกเขายังรักกันอยู่ ยังอยากมีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่ แต่พวกเขาแค่กำลังเจอช่วงเวลายากๆ เท่านั้นล่ะ”

ชาลเมท์บอกว่างานของเขาคือช่วยให้คู่รักเข้าใจซึ่งกันและกัน “เมื่อคุณผ่านอะไรมากันมากมายน่ะ มันก็ง่ายที่จะมีนิสัยที่ไม่อภิรมย์กันงอกขึ้นมา แล้วมันก็ไม่แปลกที่จะทำให้คุณอยากเลิกรากันไป” เขาก็เลยอยากชี้ให้ทุกคนได้เห็นกันว่า แต่คนที่รอดมาได้ก็มีเยอะอยู่นะ และนี่คือ 13 สิ่งที่พวกเขามีให้กันและกันเสมอ

#1. อย่าเมินความรู้สึกของคู่คุณ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

คือกับคุณคุณมองว่ามันไม่มีอะไรไง แต่กับคู่คุณเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา อยากบอกว่าทุกครั้งที่คุณเมินเขาน่ะ เขารู้สึกนะ เขาคิดว่าคุณไม่อยากรับรู้ และเห็นความมันไม่สำคัญสำหรับคุณ เขาคือคนที่ใกล้ชิดคุณที่สุดแต่กลับรู้สึกเช่นนี้ การที่คุณแคร์เขา ใส่ใจความรู้สึกเขาน่ะ เรียกว่า “อารมณ์ที่สอดคล้องกันและกัน” และสิ่งนี้คือหัวใจสำคัญทำให้ความสัมพันธ์ของคนเรายืนยาว คู่รักที่มีความสุขกันยาวๆ พวกเขามีคุณสมบัติข้อนี้เลย เขาสังเกตกันและกันเสมอ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขารู้สึกว่าคนรักของเขาไม่พอใจอะไร เขาจะไม่มองข้าม แต่จะหันมาถาม “เธอโอเคมั้ย? ฉันรู้สึกว่าเธอแปลกๆ ไปนะ ฉันทำอะไรผิดหรือเปล่า?” หรือคุณจะได้ยินประโยคแบบนี้จากเขา “ฉันไปแตะปุ่มอะไรของเธอ ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าฉันไม่สนใจหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ขอโทษนะ”

#2. อย่าหลีกเลี่ยงบทสนทนาที่อาจจะทำให้อึดอัดใจ

ไม่มีใครชอบบทสนทนายากๆ หรอก ลึกๆ ก็กลัวกันแหละว่าถ้าพูดไปแล้วจะทำให้อีกฝ่ายเสียใจ หรือกลัวจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วทะเลาะกัน ถ้าเกิดสิ่งนี้ขึ้นในใช ชาลเมท์บอกว่า “ให้ถามตัวเองว่าทำไมถึงกลัวการเผชิญหน้าในการคุยกับคนที่ครั้งหนึ่งเราเคยอยากเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้เขาฟัง” มันยากนะถ้าคุณมีปมกับเขาเรื่องนี้ แต่ถ้าฮึบแก้ปมตัวเอง ปะทะความจริงไปเลย อาจจะคุ้มในระยะยาวกว่าไหม ประโยคง่ายๆ อย่าง “ฉันอยากคุยกับคุณ เรื่องนี้อาจจะดูยากสำหรับฉันนะ แต่ขอเวลาให้ฉันได้อธิบายได้ไหม?” ถ้าคุณยังไงก็ยังกลัวอยู่ดี ลองใช้วิธีเขียนจดหมายสื่อสารกับเขาดู มันสำคัญมากๆ เลยสำหรับความสัมพันธ์

#3. รักษาโลกของตัวเองกันไว้ โลกที่คุณมีความสนใจไม่เหมือนกัน

ในเรื่องความสัมพันธ์ ความเป็นตัวเอง โลกของตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการทำให้ความรักดี เพราะนั่นคือแพชชั่นของคุณ “ผมเห็นหลายๆ คุ่รักที่ต่างคนต่างพยายามทำให้อีกฝ่ายพอใจ โดยที่เลือกจะไม่ทำสิ่งที่ตัวเองรัก ผลกึคือแพชชั่นและความสุขของตัวเองหายไปด้วย ก็เลยไม่สามารถเป็นตัวเองกันจริงๆ และเป็นแรงกดในใจที่พอมีอะไรไม่พอใจกัน ก็ระเบิดออกมาได้” ชาลเมท์บอกมา คนรักกันก็เลยควรที่จะให้เวลาและสเปซของแต่ละคนได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก เรื่องแค่นี้ก็ทำให้อีกคนสดชื่น แล้วกลับมาอยากส่งความรักที่เขามีออกไปให้คุณกว่าเดิมเลยด้วยซ้ำนะ

#4. อย่าทำชีวิตให้มีแต่ภารกิจ และสิ่งที่คุณ “ต้องทำ”

คู่บางคู่อยู่ด้วยกันเพื่อสร้าง “ชีวิตที่มีแต่การจัดการ” เขาเหมือนเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกันจัดการให้บรรลุจุดมุ่งหมายอะไรสักอย่างกัน ก็เลยมองข้ามความใกล้ชิดภายในกันไป เขามีแต่ภาระ หน้าที่ สิ่งที่ต้องทำ มันเลยเหลือคอนเน็คชั่นอันน้อยนิดระหว่างคุณกัน คุณให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพตัวเอง จัดการเรื่องบ้าน เรื่องลูก เรื่องงานของแต่ละคน ทุกอย่างดูไปได้สวยนะ แต่ข้างในคุณกลับกลายเป็นน้ำแข็ง แนะนำเลยว่าแค่ลองเอาหัวออกจากจอคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องล้างจาน แล้วชวนกันไปเดินเล่นคุยกันสองคน แค่นั้นก็ใกล้ชิดกันขึ้นแล้ว ภารกิจที่บรรลุแต่ไร้หัวใจ จะทำให้คุณแห่งใส่กันเรื่อยๆ เลยนะ

#5. คอยถามกันว่าสไตล์เรื่องความสัมพันธ์ของเรา ขัดกันบ้างไหม?

 คนแต่ละคนจะมีสไตล์การอยู่ในความสัมพันธ์ไม่เหมือนกัน และก็ต้องจูงมือกันไปหาเธราปิสท์เพื่ออธิบายสิ่งนี้ให้แก่พวกเขากัน บางคนเป็นแนวเป็นผู้ให้และขอเป็นผู้รับด้วย แต่บางคนชอบที่จะให้ฝ่ายเดียว  บางคนเป็นแนวใช้ความรู้สึกนำการกระทำ บางคนรักกันแต่สื่อสารกันคนละภาษา บางครั้งก็เลยรู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนไม่มีใครเข้าใจ แต่คู่รักที่อยู่กันได้ยาวๆ นะ เขาจะสื่อสารกันด้วยความใส่ใจประมาณว่า “มีอะไรที่ฉันทำให้เธอได้อีกไหม บางทีฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง เธอช่วยฉันได้ไหม?” ก็จะประนีประนอมกันไปได้

#6. เข้าใจร่วมกันว่า “ทำไมเซ็กซ์ถึงสำคัญ?”

เซ็กซ์ไม่ได้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างก็จริง แต่เซ็กซ์คือสิ่งที่บราโวในความสัมพันธ์ได้เลย เทียบกันแล้วเรื่องความเครียด ความเจ็บป่วย การเปลี่ยนแปลง ความเศร้าอะไรแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติในความสัมพันธ์ที่ต้องเกิดขึ้นแล้วเราควบคุมมันไม่ได้ แต่เซ็กซ์นี่ล่ะถือเป็นเรื่องที่คุณต้องให้ความสำคัญและใส่ใจเป็นลำดับต้นๆ และต้องพยายามด้วยนะ ไม่อย่างนั้นคุณก็จะกลายเป็นคู่รักที่รักกันครึ่งๆ กลางๆ หัวใจก็คือในความเป็นคู่รัก คุณมักจะเอาเรื่องเหนื่อยมาอ้างในการไม่มีเซ็กซ์กัน แต่จริงๆ คุณไม่กล้าที่จะถามกันตรงๆ มากกว่าว่า “เธออยากมีเซ็กซ์ยังไง?” คุณจะอายหรืออะไรก็ตาม นั่นคือสิ่งสำคัญของความหมางเมินเลย ใจดีต่อกันและเริ่มหันเข้าหากันด้วยประโยคว่า “เธอจำได้ไหมฉันชอบให้เธอทำแบบนั้น….กับฉันน่ะ” เข้าหากันด้วยความอบอุ่นต่อกันด้วยนะ

#7. อะไรเล็กๆ ในทุกวัน จะทำให้รักกันยาวๆ มากกว่าอะไรยิ่งใหญ่ที่ต้องพยายามมี

ชาลเมท์ได้สังเกตคนรักกันนานๆ หลายคู่ เขาเทียบกันระหว่างคนที่ต้องคอยหาสิ่งใหญ่ๆ ในชีวิตมามอบให้กัน บ้าน รถ ของขวัญแพงๆ กับคนที่ใจดีต่อกัน ฟังกัน เห็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ แล้วนึกถึงกัน อย่างซื้อขนมที่อีกคนชอบมาฝาก โทร.คุยกันเวลาไกลกัน จะทำให้อีกคนรู้สึกซาบซึ้ง และโรแมนติคเล็กๆ ความรักบางทีก็แสดงออกได้ด้วยสิ่งเล็กๆ แต่ทำทุกวันแบบนี้ล่ะ

#8. คู่รักที่มีความสุขจะเฟลิตใส่กัน พวกเขารู้ว่าจะทำให้อีกคนสนุกได้ยังไง

ความสนุกของชีวิตคือสิ่งที่คนรักกันจะมอบให้แก่กันได้ ทำอาหารด้วยกัน ลงเรียนคลาสเต้นด้วยกัน ขับรถไปเที่ยวฟังเพลงกัน อะไรแบบนี้คือความรื่นรมย์ที่ถ้ามอบให้กันและกัน จะทำให้เกิดเป็นความสุขยาวๆ เลย แล้วมันก็ทำให้คุณรีแล็กซ์ ทำให้มีอารมณ์ขัน เป็นการเชื่อมโยงกันและกันที่ดีงามเลย และมันก็ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณสองคนยังชอบกันอยู่ การแซวกัน หยอกกันบ้าง หยอดกันบ้าง อะไรแบบนี้ล่ะทำให้แววตาวิบวับจะตาย

#9. วางมือถือลง และตั้งใจฟังกัน

ถ้าคุณไม่ฟังและไม่ถามเลย คุณจะรู้ได้ยังไงว่าอีกคนเป็นยังไง เราทุกคนต่างอยากให้มีใครฟังเราและรู้สึกว่าเราไม่ได้โดดเดี่ยว เพราะถ้าเราเหงาในใจเมื่อไหร่ คอนเน็คชั่นก็จะหายไป ประโยคง่ายๆ “เธอเป็นยังไงบ้าง วันนี้โอเคมั้ย?” หรือ “เมื่อกี้โทษทีนะที่ฉันไม่ค่อยได้ฟัง เธอเล่าอีกครั้งได้มั้ย?”การฟังที่ดีคือต้องวางมือถือลง ออกจากคอมพ์ หันมาสนใจอีกคน 100% เต็ม รับรองว่าความสัมพันธ์เหมือนถูกบูสท์ขึ้นมาทันทีเลย

#10. อย่าทรีทคู่เราเหมือนพ่อแม่ทำกับเรา หรืออย่าทำตัวเป็นแม่เขา

บางครั้งคู่รักก็ทรีทเราเหมือนลูกบ้าง เหมือนเราเป็นแม่บ้าง ความสัมพันธ์ที่ดีควรเท่าๆ กัน เราควรเลิกหวีดเหวี่ยงกันแบบเด็กๆ หรือต้องปกครองกันแบบแม่ปกครองลูก หรือต้องอยู่กันด้วยความกลัวเหมือนกลัวแม่กลัวพ่อ จะทำให้อีกฝ่ายเศร้าในตัวเองหรือเหงาไปเลย คุยกันตรงๆ ถามกัน นิ่งใส่กัน ขำใส่กันบ้าง ให้รู้สึกว่าเราเท่าๆ กันจะรักกันได้ยาวกว่าเลย

#11. อย่ามองว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องไม่ดี ยอมรับและโอบกอดดีกว่า

เมื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ คนเรามักคิดว่านั่นคือการทรยศบ้าง คือการไม่เข้าใจกันบ้าง เราอยากให้คนรักของเราเป็นแบบเดิมตลอดเวลา และเขาควรซัพพอร์ตเราเสมอ คนรักที่ชาลเมท์สังเกตว่าเขารักกันได้นานๆ น่ะ ก็คือ “เมื่อมีใครเกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นมา อีกฝ่ายก็จะไม่เปลี่ยนไปตามง่ายๆ เขาจะมีวิธีการมองโลกที่ไม่แย่ลง แต่มองว่าสิ่งที่เกิดก็เพื่ออะไรบางอย่างนั่นล่ะ” เราควรสร้างสถานการณ์ให้ง่ายเข้าไว้ ไม่ใช่กลัวแต่การเปลี่ยนแปลง เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่าเริ่มกดดันจากอีกฝ่ายเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ชาลเมท์บอกว่าอย่าเพิ่งถอยออก แต่ให้ ‘บอกเขาไปตรงๆ เลย”

#12. เสื้อผ้า หน้า ผม ก็ต้องให้ความสำคัญนะ

คนเราพออายุมาก สังขารก็ย่อมร่วงโรย เราไม่ควรมองข้ามว่าก็ปล่อยให้ผมมันหงอกไป หรืออ้วนแล้วไง? แต่เราควรเป็นกระจกให้อีกคนรู้สึกดี รู้สึกมั่นใจในตัวเองกันอยู่ การค่อยๆ บอกกันอย่างนุ่มนวล เตือนกันบ้างเป็นมิตรภาพที่ช่วยกันสร้างความเปล่งประกายให้กับอีกคน ประโยคที่ว่า “ฉันรักเธอที่เป็นเธอ” น่ะ บางครั้งก็ไม่เวิร์ค ถ้าในใจเรากลับคิดว่า “ฉันรำคาญขนจมูกเส้นนั้นของเธอที่สุด”

#13. บางครั้งมันก็โอเคที่เราจะต้องถกกันเรื่องเดิมๆ

ไม่มีความสัมพันธ์ที่เพอร์เฟ็คท์เสมอ จะหาคนรักกันที่เข้ากันทุกอย่าง ไม่ทะเลาะกันเลยเป็นไปไม่ได้เลย และมันก็ธรรมดามากๆ ที่เรื่องบางเรื่องเราคงไม่มีทางเคลียร์กันได้ ชาลเมท์บอกว่า “ผมเชื่อมากๆ ว่าคู่บางคู่ทะเลาะกันน่ะ ดีกว่าไม่ทะเลาะกัน” บางคู่มีเซ็กซ์ที่ร้อนแรงทุกครั้งหลังทะเลาะกัน บางคู่การขัดกันบ้างแปลว่าพวกเขายังคงเป็นตัวเองต่อกันได้ และเขาไม่เย็นเป็นน้ำแข็งปิดบังความรู้สึกใส่กัน คู่รักบางคู่เขามีวิธีคอนเน็คท์กันแบบนี้ด้วยเหมือนกัน เหมือนที่เราชอบได้ยินว่า “คุณปู่รักคุณย่ามากๆ เคล็ดลับคือปู่บอกว่า ก็ทะเลาะกันไปเรื่อยๆ นี่ล่ะ” อะไรแบบนี้เลย

อ่านเรื่องราวอื่นๆ ได้ที่ 6 ความสัมพันธ์นี้ บอกลาการดูดวงได้เลย

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']