15 กฎเหล็กแห่งการมูฟออน “สัญญากับตัวเอง ว่าเราต้องทำให้ได้นะ”

อย่างแรกเลยคือเซ็ตความตั้งใจให้ตัวเอง “ฉันจะต้องขึ้นมาจากหลุมให้ได้” แรงใจที่เราอยากเห็นตัวเองมีความสุข จะพาเรามูฟออนได้เกลี้ยง 100% แน่นอน เริ่มขยับตัวออกจากหลุมกันเลยนะ… เพราะเราจะไม่ยอมจมปลัก ไม่ยอมแพ้ใจตัวเอง เรามองเห็นตัวเองนี่นา ว่าเราจะมีความสุขใสๆ ได้กว่านี้ เราเลยต้องให้กำลังใจตัวเอง ตั้งกฏเหล็กให้ตัวเอง คนอย่างฉัน ไม่มีเธอ ฉันก็มูฟออนสวยๆ ได้ ว่าแล้วลุยกันเลย!! อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่ ฮาวทูรักตัวเอง เมื่อต้องมูฟออนจริงๆ

ฉันไม่โชคดีพอที่จะมีผู้ชายสักคน “มองเห็นฉันในแบบที่ฉันเป็น”

ฉันไม่ได้โชคดีแบบนั้น ฉันไม่ได้โชคดีพอที่จะมีผู้ชายสักคนมองเห็นฉันในแบบที่ฉันเป็น มองเห็นความเจ็บปวดของฉัน และอยากฉุดฉันขึ้นไป ไม่มีวิธีไหนอีกแล้วที่ฉันจะบอกตัวเองได้ดีไปกว่า “ยอมรับความจริงเถอะ” ทุกครั้งเวลาที่ฉันเห็นใครๆ เขารักกัน ความหวังในใจ ความเพ้อทุกครั้งที่กดแอปสีดำแดงเพื่อเลือกซีรีย์เกาหลีเรื่องใหม่ โจทย์ของฉันไม่มีอะไรมาก ต้องเป็นเรื่องที่ฉันสามารถสมมุติตัวเองเป็นนางเอกในเรื่องได้ แล้วจินตนาการต่อว่า บางทีฉันอาจจะเจอผู้ชายในชีวิตจริง ที่เป็นเหมือนพระเอกในเรื่อง หนังสือฮาวทูบอกว่า ให้คิดว่าอยากได้ผู้ชายแบบไหน ลิสต์ออกมาให้เยอะที่สุด แล้วตัดออกให้เหลือสัก 10 ข้อว่านั่นคือคุณสมบัติผู้ชายที่อยากได้ ฉันลองทำและกุมลิสท์นั้นไว้แน่นในกระเป๋าสตางค์ เอามาเปิดอ่านบ่อยๆ ด้วย บางทีที่เขาบอกว่าคืนพระจันทร์เต็มดวง พระจันทร์จะมอบพลังงานของความรักดูดใครให้เข้ามาในชีวิต ฉันจะเอาลิสท์นั้น ออกไปหาแสงจันทร์ ตั้งจิตอธิษฐาน แล้วนึกถึงเขา แน่นอนว่าฉันมีความเชื่อ ยังคงเชื่อ และก็จะเชื่อต่อไป เรื่องราวในโทรศัพท์กับเพื่อนสาว เราจะวนเวียนกันที่ซีรีย์ที่เพิ่งดู กรี๊ดพระเอก อยากบินไปเกาหลี แล้วเราก็จะกลับมาที่เรื่องของเรากัน ทำไมเพื่อนคนนั้นได้แฟนดีจัง แฟนเขาพาไปเมืองนอกบ่อยมากเลย เขาไปทริปกันอีกแล้ว ฉันกับเพื่อนก็ได้แต่พยายามหาเรื่องเน่าๆ ในเรื่องรักของคนอื่น “แต่พวกเขาอาจมีอะไรไม่แฮปปี้ก็ได้นะ พวกเราไม่มีทางรู้หรอก” มันคงเป็นคำปลอบใจที่เราบ่นให้กันฟัง แต่ฉันก็ยังไม่มีใครเข้ามาในชีวิตอยู่ดี “ที่เธอเหนื่อยเพราะไม่มีคนรักหรือเปล่า?” ประโยคจากเรื่อง My Liberation Notes หัวหน้าของพี่สาวนางเอกถามขึ้นมา หลังจากที่เธอมาทำงานแล้วบ่นว่าเหนื่อยๆๆๆๆ ทำไมชีวิตฉันถึงเหนื่อยขนาดนี้ […]

คุณหมอสา-Guardian Diamond พี่สาวที่เปิดประตูลับ ช่วยเคลียร์พลังงานลบให้คุณพบความสำเร็จ

ตั้งแต่เข้าปี 2024 ที่ผ่านมา คลีโอขอบอกว่านี่เป็นการสัมภาษณ์ที่เบิกเนตรให้เรารู้สึกมีความหวังและกำลังใจ รู้สึกว่าจักรวาลมอบของล้ำค่าเอาไว้ให้เราเสมอ เป็นเรื่องไม่บังเอิญที่ทำให้เราได้เจอกับคุณหมอสา หรือหลายคนรู้จักเธอในชื่อ Doctor Diamond กับฉายาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องเพชรที่ไม่ได้จบแพทยศาสตร์ แต่เป็นผู้ที่ช่วยเยียวยาให้ความรู้กับคนที่สนใจเรื่องเพชร รวมทั้งก้าวเข้ามาแก้ปัญหาชีวิตด้วยพลังของ “เพชรดิบ” ที่ค้นพบพลังงานอันยิ่งใหญ่นี้จนกลายมาเป็นแบรนด์ Guardian Diamond ที่สายมูบอกว่ามาลองแล้วขนลุกซู่ทุกคน ลูกสาวครอบครัวคนจีนที่ฝึกค้าขายตั้งแต่เด็ก “ตอนเด็กไม่รู้ว่าเราอยากเป็นอะไร พ่อแม่อยากให้เรียนที่เอแบค เพราะเห็นว่าเราภาษาดีมาตั้งแต่เด็ก เราไม่มีฝันเลย เป็นเจเนอเรชั่นที่ที่บ้านเป็นคนจีน ดังนั้นก็จะมีบอกแค่ว่าต้องมาช่วยพ่อแม่นะ เราก็รู้สึกว่าเราต้องทําไปจนตลอดชีวิต ไม่เคยมีความคิดอื่นเลย ที่บ้านทำธุรกิจขายเพขร เรียนจบมาให้ไปเรียนดูเพชรนะ เราก็ไป ซึ่งเรียนดูเพชรของสถาบัน GIA ซึ่งตอนนั้นมีสาขาในประเทศไทย เป็นโรงเรียนเล็กๆ ในยุค IMF ค่ะนานมากแล้ว” “คุณพ่อคุณแม่พยายามหนักมากในการส่งเราเรียนนะคะ จําได้เลยว่าแม่ให้เราเดินเข้าไปถามแล้วขอตีเช็ค 4 ใบจ่ายค่าเทอมได้ไหม ช่วงนั้นเราก็รู้เลยว่าชีวิตไม่ได้ง่าย ต้องเรียนให้จบกลับไปช่วยเขา เพราะแม่ก็จะพูดตลอด ตาแม่ก็เริ่มไปแล้วนะ เหมือนเขามาเปิดร้านตอนประมาณ 40 กว่าแล้ว ดังนั้นจะให้เค้าดูเพชรไปตลอดก็เป็นไปไม่ได้ เราเริ่มทําทุกอย่างตั้งแต่เสิร์ฟน้ํา เช็ดตู้ วิ่งงาน บางทีมีงานช่าง เราก็ขับรถออกไปเอง เดินส่งของส่งงาน แม่จะเหน็บเราไปด้วย […]

5 วัดปังในฮ่องกง ขออะไรเทพให้รัวๆ

“เก่งอย่างเดียวแต่ไม่เฮงก็ประสบความสำเร็จยาก” คำพูดนี้ดูจะไม่เกินความจริงไปสักเท่าไหร่นัก ในปัจจุบันเป็นยุคที่วัยรุ่นกำลังสร้างตัว หลายๆคนที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจบางคนบอกว่าเกิดจากความสามารถของตัวเอง แต่หลายๆคนเปิดเผยความลับว่าส่วนหนึ่งมาจากการมูในสถานที่ที่มีพลังงานประกอบกับพิธีกรรมที่ถูกต้องทำให้มีทั้งพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และกำลังใจในการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ




Sex

30 แล้วยังแจ๋วอยู่รึเปล่า? เช็คคุณภาพ เซ็กส์ในวัยสามสิบ 

เซ็กส์ในวัยสามสิบ 

มีรุ่นพี่เคยกระซิบบอกเอาไว้ เซ็กส์ในวัยสามสิบ น่ะ มีดีซะยิ่งกว่าตอนวัยยี่สิบซะอีก หลายคนที่ยังไม่แตะเลข 3 ได้ยินประโยคนี้แล้วคงสงสัยเหมือนกันสินะว่า “จริงหรอ โม้รึเปล่า หรือปลอบใจตัวเองกันแน่” สงสัยไปก่อน รอเวลาผ่านไปเรียนรู้หลายๆ ด้าน แล้วค่อยมาตัดสินกันทีหลังว่าจริงไหม 

เซ็กส์ในวัยสามสิบ สมควรจะดีกว่าวัยยี่สิบ และเซ็กส์ในวัยสี่สิบก็สมควรจะดีกว่าในวัยสามสิบจริงๆ นะ เพราะว่าเวลาผ่านไปถ้าเราพบว่ามันแย่ลงหรือเราทำมันได้แย่ลงนั่นอาจจะเป็นปัญหาแล้วล่ะ ไม่ได้นับเรื่องของ performance อย่างเดียวนะ แต่ความสุขกับการมีหรือไม่มีมัน การได้ตามใจตัวเอง ค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบ ในวัยที่เพิ่มมากขึ้นน่ะ เป็นอะไรที่ควรจะเกิดขึ้นในชีวิต ว่าไหมล่ะ?

เพราะ…

เราไม่ได้มีเซ็กส์เพื่อพิสูจน์อะไรกับใครทั้งนั้น

ไม่ได้อยากมีเซ็กส์เพื่อรู้สึกว่าเราเซ็กซี่ หรือสร้างความผูกพันธ์กับใคร ไม่ได้อยากได้ยินว่าเราเก่งแค่ไหนบนเตียงหรือที่ระเบียงก็ตาม เรามีเซ็กส์เพื่ออยากมีเซ็กส์หรือถึงจุดสุดยอด และบางครั้งไม่ได้อยากมีก็ไม่มานั่งตั้งคำถามว่า นี่ฉันผิดปกติอยู่ไหม ความกดดันเรื่องเพศมันจะน้อยลงในวัยที่มากขึ้นเองล่ะ 

พบว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีเซ็กส์ที่เข้ากันได้กับเรา

หลายคนได้ลองมีเซ็กส์กับคนจำนวนเท่าที่เขาอยากจะลอง แล้วก็พบว่ามันไม่เลิศทุกคน ไม่ใช่เพราะพวกเขาหรือตัวเราไม่เก่งนะ แต่มันเข้ากันไม่ได้ ด้วยปัจจัยหลายล้านอย่าง หลักๆ เลยก็คือรสนิยมและจังหวะ ซึ่งการจะหาคนที่เซ็กส์เข้ากันก็ยากพอๆ กับคนที่จะชอบกินอะไรคล้ายๆ กันนั่นแหละ และมันอาจจะสำคัญหรือไม่สำคัญสำหรับใครเลยก็ได้ แต่พอเราเจอคนๆ นั้นและเรื่องอื่นๆ ในชีวิตดันเข้ากั๊นเข้ากันสุดๆ นี่เหมือนว่าเราถูกหวยเลยนะ

เซ็กส์ที่สื่อสารกันสำคัญมากๆ 

โลกนี้มีอะไรให้ค้นหาเสมอแหละ พอเรารู้สึกสบายใจ การลองอะไรใหม่ๆ มันจะเป็นไปด้วยทัศนคติที่ไม่มีความสงสัยลังเล ยิ่งกับคนที่รู้สึกไว้ใจด้วยแล้ว พอเราเปิดใจเราชอบอะไรบอกเขา เขาชอบอะไรบอกเรา อยากลองอะไรใหม่ๆ บอกกัน ถ้าลองแล้วไม่ชอบก็ยอมรับและผ่านมันไป เซ็กส์เป็นเรื่องที่ต้องพูดและสื่อสารให้ชัดเจนกับคนที่เราทำกิจกรรมนี้กับเขา ถ้ากระมิดกระเมี้ยนไม่บอกกันตรงๆ ก็ต้องเดาอยู่อย่างนั้น บางทีทั้งชีวิตก็เดาไม่ถูกก็มีนะ

รู้จักร่างกายตัวเองมากขึ้น

ความชอบ ตัวตน และร่างกายของคนเราเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ในช่วงวัยที่ทุกอย่างยังใหม่ เราไม่รู้หรอกว่าเราต้องเรียนรู้ร่างกายตัวเอง ถ้าไม่มีใครบอกหรือไม่ได้ลองสังเกตเราแทบจะไม่รู้เลย แต่การได้ทำบางสิ่งไปเรื่อยๆ คนเราจะเรียนรู้ไปเอง อย่างเรื่องเพศ เราจะสังเกตตัวเองว่าชอบแบบไหน นั่นจะทำให้เราอยากสื่อสารไปมากขึ้น

ไม่ต้องบ่อยหรอก แต่จะทำได้ดี

ความถี่ที่ลดลง ไม่ได้หมายความว่าเราเบื่อ เกลียด กลัวการมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วหรือเปล่า แต่บางทีความเครียดในชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นก็ทำให้เรามีความต้องการที่ลดลง (แม้ว่าการมีเซ็กส์จะช่วยลดความเครียดได้เหมือนกันนะ) ก็ช่วยไม่ได้ แต่คุณภาพในความน้อยมันจะเพิ่มขึ้นเอง และในวันที่รู้สึกต้องการ แม้จะเหนื่อยหน่อย แต่เราจะจัดการมันได้ เชื่อสิ 

วัยสามสิบ เทสโทนเตอโรน(ฮอร์โมนเพศชาย)อาจจะค่อยๆ ต่ำลง ซึ่งอาจจะทำให้ความต้องการทางเพศลดลง และในช่วงวัยนี้คนหลายคนนึกถึงการสร้างตัวมากขึ้น ทำงานหนัก ไต่ตำแหน่ง เริ่มธุรกิจใหม่ๆ ไม่ว่าจะเพศไหน เซ็กส์กับนอน หลายคนเลือกอย่างหลังนะ และถ้ายิ่งมีลูกละก็เวลาไหนหลับได้ ฉวยเวลาไม่กี่นาทีนั้นทันทีเลยล่ะ ถ้าคู่รักได้สื่อสารกันตรงๆ ว่าเซ็กส์หรือความต้องการที่ลดลงนั้นมันมาจากสาเหตุอะไร และถ้ารู้สึกว่าไม่โอเค ปรับกันไปได้ ก็ไปกันรอดอยู่นะ 

เทคนิคจัดการความเครียดที่ทำให้ฮอร์โมนเพศยิ่งลดลงก็คือ คลายเครียดซะ! ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน อย่างออกกำลังกาย ทำสมาธิ อ่านนิยาย และจัดการงานซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความเครียดให้ได้ เช่น แบ่งเวลาให้ดีขึ้น 

เซ็กส์ที่ดีคือเซ็กส์ที่ใช้เวลานาน จริงไหม?

เป็นความเข้าใจที่แค่ฟังแล้วก็เหนื่อยแล้วนะ แค่ลองนึกว่าจะต้องมีเซ็กส์สักครั้งที่ยาวนานไปตลอดทั้งวัน ไม่กินไม่นอนเลย ก็ไม่ไหวนะ คงจะหลับไปสักจังหวะหนึ่งแน่ๆ แล้วมันควรจะนานแค่ไหนกัน

บางคนบอกว่า 15 นาที อาจจะเป็นเวลาที่กำลังดี คือไม่นานเกินไปไม่สั้นเกินไป ที่สำคัญคือไม่เหนื่อยเกินไป กำลังเอนจอยได้ด้วยกันทั้งคู่ เพราะถ้านานกว่านี้บางทีก็หมดมุกเหมือนกันนะ บางคนก็บอกอีกว่า ครึ่งชั่วโมงก็พอไหว ถ้ารวมการเล้าโลมหรือการเริ่มสวมบทบาทอะไรบางอย่าง บางทีมันตื่นเต้นกว่าตอนจบซะอีก ซึ่ง 30 นาทีน่ะถ้าไหวไม่เหนื่อยหอบจนเกินไปก็ถือว่าออกกำลังกายก็แล้วกัน แต่ก็มีหลายคนที่รู้สึกว่าไม่ต้องนานเลย แต่อยากมีบ่อยๆ ซึ่งก็อาจจะไม่ค่อยเกิดขึ้นกับ เซ็กส์ในวัยสามสิบ

ความจริงแล้วความยาวนานของเซ็กส์นั้นน่าจะไม่มีถูกมีผิดมากกว่า คือขึ้นอยู่กับว่าใครมีกับใคร และคนสองคน(หรือมากกว่านั้น)เอนจอยได้ยาวนานแค่ไหน ควรจะเป็นไปเท่าๆ กัน เพราะถ้ามีคนหนึ่งจอย แต่อีกคนไม่ไหวแล้ว มันก็เหมือนจะฝืนใจกันไปเปล่าๆ 

เซ็กส์ในวัยสามสิบ 

แต่คนวัย 30 น่ะ ก็ไม่ได้รู้ไปหมด หรือบรรลุในชีวิตเซ็กส์แล้วหรอกนะ

พวกเขายังมีความเฟลอยู่เหมือนกัน และมันเป็นเรื่องปกติธรรมดามากๆ อย่างเช่น ก็มีอารมณ์อยู่นะ แต่รู้สึกขี้เกียจเหมือนกัน อย่างนั้นก็ทำๆ ไปแบบขี้เกียจๆ นี่แหละ แบบรีบ แบบด่วน แบบทำๆ ให้เสร็จไปซึ่งมันทำให้ขาดความเร้าใจไปมากและอาจจะทำให้ครั้งต่อไปเริ่มไม่น่าดึงดูดอีกแล้ว 

แล้วก็มีหลายคนที่ถามตัวเองในใจว่า “นี่ฉันปกติรึเปล่าที่รู้สึกมีความต้องการน้อยลง คนอื่นเป็นไหม” และแน่นอนว่าไม่กล้าถามใครหรอก เพราะกลัวคนอื่นไม่เป็นเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าคุณแม่ทั้งหลาย หลายคนก็พูดออกมาตรงๆ เลย แต่หลายคนก็ยังไหวอยู่ และหลายคนก็พยายามจะทำตัวให้ไหว แต่ในใจคือไม่ไหวแล้ว

เริ่มเปรียบเทียบชีวิตเซ็กส์ของตัวเองกับเพื่อนสนิท เอากลับมานั่งเครียดอยู่ที่บ้านคนเดียวว่าทำไมเพื่อนอายุเท่ากันแล้ว ชีวิตรักยังร้อนแรงอยู่เลย ส่วนฉันแม้แต่ช่วยตัวเองก็เลิกไปนานแล้วค่ะ หมด’รมณ์! แล้วก็กลับมาแก้ปัญหาเรื่องเซ็กส์ด้วยความจริงจังที่มากเกินไป หมดสิ้นความสนุก ทำเพราะต้องทำ บังคับตัวเองและคู่รักให้ต้องทำเพราะไม่อยากรู้สึกว่าเรากำลังแก่แค่เพราะไม่มีเซ็กส์

ใบ้ให้ว่า เซ็กส์ในวัย 40 อาจจะเข้าใจยากขึ้นอีกก็ได้

ผู้หญิงหลายคนอาจจะเข้าสู่ช่วงวัยใกล้หมดประจำเดือนแล้วในช่วงเลข 4 ปลายๆ และช่วง 5-10 ปีก่อนหน้านั้น รังไข่จะค่อยๆ หยุดผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้ส่งผลกับแรงขับทางเพศ อารมณ์ ความรู้สึก ความหล่อลื่นตามธรรมชาติของอวัยวะเพศหญิงก็อาจจะลดลงด้วยทำให้รู้สึกเจ็บเมื่อมีเพศสัมพันธ์ และความรู้สึกนั้นก็อาจจะทำให้ไม่อยากมีเซ็กส์ไปด้วยเลย

แต่ข่าวดีคือ คนวัยนี้จะมีความมั่นใจแบบแท้จริง รู้สึกมีอิสระ อาชีพเริ่มมั่นคงแล้วไม่ห่วงอะไรตรงนั้นมาก อยากทำอะไรทำ ไม่แคร์เยอะ ทำให้ถ้าถูกกระตุ้นถูกจุดแล้วเซ็กส์ก็จะเป็นกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานแม้จะอยู่ในวัยหมดประจำเดือนก็ตาม!

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']