ผู้หญิงที่ไม่มีคนรัก โสด และต้องสู้ไปกับตัวเอง จะมีบางครั้งที่มีอารมณ์แบบนี้เลย
คิดว่าโสดๆ แบบนี้เราอยู่ได้แล้วนะ ไม่จำเป็นต้องมีใคร ไม่ต้องรักใครก็ได้ ในเมื่อโสดมานาน จากอยากมีความรัก โสดจนต้องบอกตัวเองว่า “เราอยู่ได้ ไม่เป็นไรหรอก” แล้วทั้งงาน กิจกรรม เพื่อน ชีวิตมันก็โอเคจริงๆ ไม่เคยปวดหัวกับใคร ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องรอ เราพูดได้เต็มปากนะว่า “ฉันคือสาวโสดที่มีความสุข”
แต่…พอชีวิตโฟกัสไปที่งาน ความฝัน อนาคต เริ่มไม่อยากทำงานที่ไม่ชอบ อยากฟรี สปิริต อยากตัดความกังวลออกไปจากชีวิตให้มากที่สุด เราเลยยิ่งฟังเสียงของหัวใจหนักๆ เลย ถ้าเอ๊ะ ถ้าคาใจ จะต้องไปล้วงหาคำตอบ “ฉันรู้สึกแบบนั้นเพราะอะไร?” แล้วก็มักจะเจอคำตอบ
อีกข้อหนึ่งของการที่เราไม่ไปโฟกัสกับเรื่องรักๆ ใจจะนิ่งง่าย ความกังวลเรื่องความรักไม่มีนี่ ลำดับความสำคัญเปลี่ยนเลยนะ อะไรที่รกๆ ในใจ ภาพเลยชัดขึ้นมาก “เวลาสับสนอะไร มันเลยรู้ว่ามาจากเรื่องอะไร”
แล้วเป็นไปไม่ได้หรอกที่คนเราจะลัคกี้อินเกมได้ตลอด ถึงจะไม่มีเรื่องเลิฟ ไม่ได้แปลว่าเกมต้องดีกริ๊บ ยอมรับเลยว่าสับสนกับเรื่องงานเหมือนกัน “งานที่ทำอยู่ ฉันเสียเวลาไปหรือเปล่า” “ฉันไดใช้ศักยภาพเต็มที่หรือเปล่า” “ฉันจะทำงานแบบนี้ไปถึงอีกเมื่อไหร่” ความสับสนตีขึ้นมารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
และพอมาถึงจุดๆ หนึ่งนั่งเฉยๆ กับตัวเอง เหมือนน้ำตามันเอ่อขึ้นมาเอง แล้วตอนนั้นรู้สึกทันทีเลยว่า “ความรักหายไปไหน?” ทำไมฉันปล่อยให้หัวใจมันตื้อไปหมด โล่งก็จริง แต่ก็ว่างมาก ความอบอุ่นในความรัก มีแต่ความรักตัวเอง ที่เอาจริงๆ นะ หลอกตัวเองไม่ได้หรอกว่า “เราต้องการมากกว่านั้น เราอยากมีใคร”
อยากมีคนช่วยดีเบทความในใจ ช่วยบอกฉันทีว่า “เธอทำมาดีแล้ว” หรือเป็นกระจกอีกด้านให้เราก็ได้ ถูก ที่เพื่อนมีเยอะแล้ว แต่ความอบอุ่นในแววตาของคนรัก มันจะทั้งเข้าใจ อยู่ข้างๆ และอาจซาบซ่านเล็กๆ ไม่ใช่หรือ มันไม่เหมือนแววตาของเพื่อน ที่มีแต่ความอบอุ่น ความเข้าใจ
เรื่องรักเก่าๆ ที่เคยมีในใจเลยแว่บเข้ามาหมดเลย เกิดมหากรรมรีวิวความรักครั้งยิ่งใหญ่ของตัวเอง “ฉันพลาดอะไรไปนะ” “แล้วฉันจะเติมช่องว่างที่เคยพลาดได้มั้ย” กลับเป็นว่าเรากลายเป็นเกิดความรู้สึกแบบเด็กสาวอีกครั้ง ที่เคยอยากวิ้งๆ ในความรัก อยากมีใครจูงมือ อยากตื่นมาเช้าแรกดูพระอาทิตย์ขึ้นกับใครจังเลย
เอ๊ย! แล้วมันดี พอแค่รู้สึกน่ะ ก็เหมือนมีพลังงานไหลเข้ามาที่ใจ หน้าอกนี่คับขึ้นมาเลย ใจพองเชียว แววตาริยิบๆ กลิ่นความเจ้าชู้เล็กๆ ที่เราเคยเป็นมันโชยมาเหมือนกัน คราวนี้จินตนาการละ “ถ้าเกิดเราได้เจอใครล่ะ จะชวนเขาไปไหนดี” ภาพมาเป็นฉากๆ เวนิส อีสตันบูล หรือเมืองปัว เมืองเชียงคานมั้ย
กลับเป็นมีแรงขึ้น ลืมเรื่องงานงงๆ ในหัวไปได้
เหมือนเราเอาความสดในใจจากจักรวาลภพไหนสักแห่ง มาใส่ไว้ในใจ
ปิ๊ง! ตื่น! ความเป็นจริงกระชากกลับมาปลุก “เธอๆๆๆ เธอโสดอยู่ เธอไม่มีใครจ้า” กลับมาที่เรื่องงานที่สับสน มันหายไป แล้วมีเสียงบอกตัวเองว่า “อย่าคิดมาก ทำไปเถอะ เดี๋ยวเจออะไรค่อยแก้ เดี๋ยวอะไรที่ไม่ใช่ ถ้าไม่ใช่จริงๆ ขาจะพาเราเดินออกไปเอง” เอ๊ะ! แต่คิดเรื่องความรักบ้างก็ดีนะ
ดีสิ! วิ้งวั้งจะตาย ก็คิดบ้าง ไม่ต้องสลัดไปซะหมด เผื่อบางทีเราน่ะมีใครได้ แต่ปัดออกจากหัวซะ ความโชคดีในความรักเลยไม่มาสักที อย่าไปกลัวโน่นนี่ หรือสะกดจิตตัวเองว่าฉันสตรองตลอดเวลา หาอกมาซบบ้าง แล้วเห็นมั้ย งานที่คิดว่ากลุ้มมาก พอเจอพลังงานความรัก มันเขี่ยความเครียดกระเด็กไปได้
มีความสงสัย สับสนบ้าง บางทีก็เป็นเรื่องดีนะ
เราจะได้รู้ว่าเราขาดอะไรไป หรือลึกๆ อาจจะถึงขั้นโหยหาเลยก็ได้นะแม่นาง
#CleoLove
อ่านเรื่องราวความรักต่อได้ที่ อยากคุย Deep Talk กับใครสักคน