หนึ่งในแบรนด์กระเป๋าที่ดีทั้งสไตล์ คุณภาพ และราคา ถือได้ไปนานๆ ก็ไม่เบื่อ และเข้ากับทุกแฟชั่น คือกระเป๋าแบรนด์ Mo. ทุกรุ่นของ Mo. ยิ่งถือจะยิ่งเป็นกระเป๋าที่รักมาก
คลีโอรู้จักกับ Mo. มาตั้งแต่สัมภาษณ์เจ้าของแบรนด์ รสลิน จรรยาศักดิ์ เมื่อเกือบ 7 ปีที่แล้ว ตั้งแต่เห็นเธอเริ่มสร้าง Mo. จากการเป็นกระเป๋าสตางค์ทำมือทั้งใบของเธอ จนไปเรียนเย็บกระเป๋าจริงจังที่ญี่ปุ่น และชนะรางวัล Red Dot Award เกิดเป็นแบรนด์ Mo. และกระเป๋า Doctor Mo. อันโด่งดังไม่เหมือนใคร
รส-รสลินในวันนี้เป็นทั้งผู้หญิงสร้างแบรนด์มาด้วยตัวเองจากศูนย์ เจ้าของธุรกิจ หญิงสาวที่รักงานอาร์ต งานดีไซน์ ภรรยาและคุณแม่ ทำให้รสเข้าใจผู้หญิง และรู้ว่าจะตอบโจทย์กระเป๋าที่ทั้งสวยด้วยดีไซน์ ฟังก์ชั่นใช้งานไม่ติดขัดได้ยังไง คลีโอพูดได้เต็มปากว่า Mo. คือกระเป๋าที่สะพายได้ทุกวัน สวยทุกสี ดีงามทุกรุ่น คุณภาพพรีเมี่ยม ทั้งมินิมัล และคลาสสิค ที่จะทำให้เราสามารถสะพาย Mo. คู่ไปกับไลฟ์สไตล์เราได้ไม่มีเบื่อ
วันนี้ Mo. ล้ำขึ้นไปอีก
จากกระเป๋ารุ่น Doctor Mo. กระเป๋าถือคุณหมอ หลังจากนั้น Mo. ออกกระเป๋าทรงกลม กระเป๋ากล่องนม กระเป๋าโท้ท และกระเป๋าหนังวีแกนออกมา กับดีไซน์ล่าสุดที่ Mo. ดีไซน์ให้เหมาะกับการใช้งานเข้ายุคที่สุด “กระเป๋าเป้ที่เป็นหนังวีแกน+สะพายแบบข้างได้ และฉีดแอลกอฮอล์ได้ ทนต่อหมึก ทนต่อรอยหกของไวน์-กาแฟ”
Mo. รุ่น TULIP คือกระเป๋าที่เราต้องยกให้ Mo. ว่าเข้าใจผู้หญิงขนาดนี้ได้ยังไง?
ความเตะตาแรกคือ “อุ้ย กระเป๋าเป้ทรงน่ารักจัง ดูบุๆ น่าเข้าไปขยำๆๆ” พอลองสะพาย “เอ๊ะ เป็นเป้ที่สะพายข้างได้!” แล้วพอเปิดกระเป๋าลองใส่ของ “ใส่จุพอดีกับของจำเป็นเลย” มาถึงตอนอ่านข้อมูลเกี่ยวกับกระเป๋า “นี่คือกระเป๋าหนังวีแกน ความเจ๋งคือฉีดแอลกอฮอล์ได้ รอยหมึก ไวน์ กาแฟเลอะ เช็ดออก!!”
ทีนี้เลยเกิดความรักขึ้นมาทันที Mo. รุ่นนี้ชื่อว่า “TULIP” ทรงกระเป๋าเหมือนดอกทิวลิปกึ่งตูมกึ่งบาน และใช้วัสดุสุดพิเศษที่ชื่อว่า Ultra Vegan Nappa (UVN) รสตั้งใจดีไซน์รุ่นนี้มาให้ใช้ได้หลายแบบ เป็นเป้หลัง สะพายข้าง หรือสะพายด้านหน้าของเรา แล้ววัสดุแบบนี้นำเข้าจากอเมริกา ปกติเขาจะใช้กับเรือยอทช์ กับ private jet รสบอกว่า “ต้นทุนสูงเลย แต่เป็นนวัตกรรมเพื่อวัสดุรักษ์โลก ก็เลยจะคงทน ทำความสะอาดง่าย และเบามาก”
รสแนะนำว่าถ้ามีรอยอะไรเลอะกระเป๋า ให้รีบเช็ดภายใน 1-5 นาที รอยจะออกหมด 100% รสบอกว่ากว่าจะมาเป็นกระเป๋าวีแกนได้ เธอต้องฝ่าฟันกับช่างทำกระเป๋าทีเดียว เพราะทุกคนงงกันว่า รสจะใช้วัสดุราคาแบบนี้แต่ไม่ใช่หนังแท้เนี่ยนะ “ถึงไม่มีคนอื่นทำ ใครจะว่าเราบ้า แต่เราอยากให้ลูกค้าได้ลองว่ามันดีจริงๆ”
นี่คืออีกสิ่งในความเป็นรส และความเป็น Mo. ตั้งแต่รู้จักกับเธอมา รสขอเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า อย่างถ้าช่างเย็บกระเป๋าไม่เนี้ยบ ไม่มีทางที่รสจะปล่อยผ่าน เธอยอมเสีย แล้วทำใหม่ มากกว่าปล่อยให้สินค้าไม่เป๊ะออกไป Mo. ทุกใบจึงดูประหนึ่งกระเป๋าลักซ์ชัวรี่ มีความพรีเมี่ยม มินิมัล และคลาสสิค มิน่า! เราถึงถือ Mo. ได้นานๆ เลย
คอนเซ็ปต์ที่คาดไม่ถึง Mo. & The Modern Last Supper
เป็นรูปแนวนอนผู้หญิงสาว 8 คนในโทนเอิร์ธ ที่มีกระเป๋า Mo. หนังวีแกนวางอยู่ รูปนี้เรียกว่าเป็นการนำเอางาน The Last Supper ของ ลีโอนาร์โด ดา วินชี มาปรับใหม่ เหมือนกับการทำอะไรใหม่ๆ ให้ฉีกจากงานดั้งเดิมที่ทำกันมายาวนาน บอกเลยว่ารสเป็นทั้งดีไซเนอร์ที่เข้าใจผู้หญิง รักษ์โลก และเธอยังตีความคอนเซ็ปต์กระเป๋า Mo. ออกมาให้เชิงอาร์ตได้ชวนคิดตามอีกด้วย
ใครอยากเห็น Mo. ใกล้ๆ ลองแวะไปที่ Mo. Museum ประดิพัทธ์14 ได้
หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ของ Mo.
หรือไปที่ไอจี Mo. เลยนะ
พิกัด https://g.page/MoMuseumBKK?share
อ่านเรื่องราวของกระเป๋า Mo. ต่อได้ที่ กระเป๋า Mo. ตำนานสร้างแบรนด์ลุยเดี่ยวของเธอคนนี้