โฮ่งๆ แทนคำบอกรัก เพราะน้องหมาแทบจะเป็นสัตว์โลกอันดับต้นๆ ที่คลั่งรักเราอย่างถวายหัว แค่กลับบ้านมาดีใจจนหางสะบัดเหมือนเฮลิคอปเตอร์ กระโดดใส่แบบเหมือนเราจากบ้านไปสามปี ชีวิตนี้ลมหายใจของน้อนเข้าออกเป็นเจ้านายตัวเอง เจ้าของเองก็ไม่น้อยหน้านะ ความรักที่มีให้น้องๆ คือความรักเหมือนลูก ไม่ใช่แค่คำเปรียบเปรยเฉยๆ เพราะการศึกษาล่าสุดที่มีการพาเจ้าของไปสแกน MRI สมองตอนที่ให้ดูรูปน้องหมาของตัวเอง คนก็ตอบสนองภาพพวกนั้นเหมือนตอนที่เขาเห็นลูกๆ เลยด้วย
ในหนังสือ Why We Love: The New Science Behind Our Closest Relationship ที่เขียนโดย ดร.แอนนา มาคิน เธอบอกว่าสมองของน้องหมาก็คล้ายๆ ของมนุษย์เราเนี่ยแหละ เพราะสมองของน้องจะสร้างสารเคมีที่ตอบสนองต่อความรู้สึกอย่างเบต้าเอ็นดอร์ฟีนที่ทำให้น้องขาดเจ้าของไม่ได้ เราเหมือนน้ำชโลมใจให้น้องๆ มีความสุขในทุกวัน สารเคมีนี้ทำให้น้องหมาสร้างสายใยความผูกพันกับเจ้าของ
คนก็ส่งความรักนี้ให้กับน้องหมาแบบแนบแน่นซึ่งความสัมพันธ์ตรงนี้ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามากกว่าที่มีต่อแมวอีกนะ เพราะว่าถึงแมวจะรักเรา แต่ก็ไม่ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจเราตลอดเวลาแบบที่น้องหมาทำ ความรักของนุ้งแมวจะเป็นไปตามอารมณ์ ดีดบ้าง ข่วนบ้าง อ้อนบ้าง เหวี่ยงใส่เวลาหิวบ้าง ใช่สิ! เพราะแมวไม่เคยมองเราเป็นเจ้านาย แต่มองเราเป็นทาสต่างหาก ฮือๆๆ
ดร.แอนนาบอกว่าน้องหมาเลยมีพฤติกรรมเกาะติดเจ้านาย เดินตามอารักขา ขี่มอเตอร์ไซค์ไปเซเว่นหน้าปากซอยก็วิ่งตาม อย่างหลังนี้ด็อกเตอร์ไม่ได้พูด แต่มันคือประสบการณ์จริง ดร.แอนนายังบอกอีกว่าความตัวติดนี้ถ้าเจ้านายของน้องหมาเสียชีวิต น้องจะซึมเศร้าเหมือนกับเวลาที่คนเราเศร้าตอนเสียคนรักไม่ต่างกันเลย ความสัมพันธ์ของคนกับหมาจึงเป็นมิตรภาพที่แยกกันไม่ได้ เพราะน้องๆ ผ่านทุกบททดสอบเกี่ยวกับความรักที่มีให้คน รักหนูนะคะลูกกก…