ช่วงนี้เราดู ซีรี่ส์อาหาร บ่อยมาก แล้วก็พบว่ามันทั้งน่าอร่อย สนุก และสร้างสรรค์ไม่แพ้แนวอื่นๆ เลย เพราะหลายเรื่องมีความตลก โรแมนติค และซาบซึ้งแทรกเข้ามา แต่ว่าดำเนินเรื่องด้วยอาหารเป็นหลัก ไม่ว่าจะซีซั่นไหน ตอนไหนก็ทำให้เราได้ไอเดียของมื้อต่อไปได้ทุกครั้ง
และญี่ปุ่นก็เป็นอีกประเทศที่ทำ ซีรี่ส์อาหาร ได้ดีไม่แพ้ชาติไหนในโลก ด้วยความที่วัฒนธรรมชัดเจน มีสไตล์การทำและกินเฉพาะมากๆ ดูแล้วนอกจากจะอยากไปญี่ปุ่น อยากกินอาหารญี่ปุ่น ก็อยากจะลองทำอาหารญี่ปุ่นด้วยตัวเองดูสักที ว่าแล้วก่อนออกไปช้อปก็ขอศึกษาอย่างลึกซึ้งผ่านซีรี่ส์ตามนี้
Solitary Gourmet
หรือ Kodoku no Gourmet ที่ความจริงในญี่ปุ่นมีฉายหลายซีซั่นแล้ว แต่ทาง Netflix Thailand มีให้เราดูแค่สองซีซั่นเอง เห็นที่ต้องประท้วงดังๆ แล้วเพราะว่าเนื้อเรื่องเรื่องนี้สนุกมาก เป็นเรื่องของ Gorō Inogashira (โกโระ) เซลล์แมน จัดหาของแต่งบ้านที่ไม่ต้องทำงานออฟฟิส งานของเขาคือการเดินทางไปพบลูกค้าตามที่ต่างๆ แต่สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นคือเราจะเห็นว่า พอเขาหิว สิ่งเดียวที่โกโระโฟกัสก็คืออาหาร เขาชอบกินคนเดียว และมีสเต็ปการกินที่น่าสนใจมาก กินอร่อย คิดในใจคนเดียว เสน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ตรงนี้แหละ ความคิดในหัวของเขาที่ฟังแล้วอยากจะกินตามเดี๋ยวนั้นเลย
ดู Solitary Gourmet เลย
Midnight Diner: Tokyo Series
เรื่องราวของร้านอาหารสไตล์อิซากายะ ย่านชินจูกุ เปิดตอนเที่ยงคืนที่มีผู้คนมากมายวนเวียนเปลี่ยนหน้าเข้ามาซ้ำบ้าง ไม่ซ้ำบ้าง หลักๆ แล้วจะเข้ามาที่ร้านของท่านมาส์เตอร์ ร้านนี้มีเพียง 12 ที่เท่านั้น เล่าเรื่องความทรงจำของลูกค้าแต่ละคน กับอาหารง่ายๆ แต่ละอย่างที่มาขอให้มาสเตอร์ทำ เป็นแนวดราม่าหน่อยๆ แต่ว่าซึ้งกินใจและทำให้อยากว้าปไปญี่ปุ่นสุดๆ เลย เพราะยังไม่รู้สึกว่ามีร้านไหนในไทยทดแทนได้
What Did You Eat Yesterday?
ดำเนินเรื่องโดยเส้นเรื่องความสัมพันธ์ของคู่รักที่มีความแตกต่างอย่างสุดขั้ว ทนายที่ห่วงภาพลักษณ์อยู่หน่อยๆ ไม่อยากบอกให้ใครรู้รสนิยมทางเพศ ส่วนอีกคนเป็นช่างตัดผมที่แสดงออกอย่างสุดๆ ว่า ผมเป็นเกย์และอาศัยอยู่กับคนรัก และเรื่องราวของการเปิดเผย เปิดใจ ในการยอมรับตัวเอง ไปพร้อมๆ กับคัลเจอร์การทำอาหารของคนในเมืองโตเกียว
ดู What did you eat yesterday? เลย
The Way of Hot and Spicy
ดำเนินเรื่องโดย เคนตะ ซารุกาวะ เซลล์รุ่นใหม่จากโอซาก้า ส่งตรงมาสู่สาขาโตเกียว ออฟฟิศที่ทำงานกันด้วยความเชื่ออย่างแรงกล้าของบริษัทขายเครื่องดื่มแห่งหนึ่งในวิถีเผ็ดแซ่บร้อน ทุกคนที่เข้ามาต้องกินเผ็ด เพื่อฝึกฝนและทำความเข้าใจจิตวิทยาคนผ่านอาหารรสเผ็ด อย่างเช่นการแบ่งระดับลูกค้าจากระดับความเผ็ด แต่ละตอนก็จะพาไปลองชิมอาหารรสเผ็ดแบบต่างๆ ที่มีในโตเกียว
ดูThe Way of Hot and Spicy เลย
The Road to Red Restaurants List
ทามิโอะ ซูดะ คือมนุษย์เงินเดือนวัยกลางคนที่มีความสุขคือการได้ขับรถออกไปในคืนวันศุกร์หลังเลิกงาน ตั้งแคมป์ค้างคืนในรถ หาอะไรอร่อยๆ กินแล้วค่อยกลับในวันรุ่งขึ้นแบบไม่ต้องรีบร้อน ความจริงเขามีภรรยาและลูกสาวที่มักจะควงคู่กันไปตามศิลปินที่ชื่นชอบในวันศุกร์เช่นกัน นั่นแหละเป็นเหตุผลที่ทำให้เขามีเวลาตามลำพัง และตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เขาเริ่มเดินทางตามหาร้านอาหารที่ใกล้จะปิดกิจการ เพราะไม่มีคนสานต่อ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับเขามากๆ ด้วยรสชาติที่อร่อย ทำเลดี อาจจะมีเวลาจำกัด แต่อย่างน้อยเขาก็ได้ลองแล้วและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนดูอย่างมากที่จะได้ตามหาร้านอาหารที่อาจมีเวลาจำกัดใกล้บ้านเช่นกัน
ดูThe Road to Red Restaurants List เลย
Samurai Gourmet
ทาเคชิ คาสุมิ คุณลุงวัยเกษียณที่ออกไปหาอะไรทำในแต่ละวันเพื่อฆ่าเวลา ปกติเคยทำแต่งงานมาพอว่างแล้วก็จะเคว้งๆ หน่อย และสิ่งที่แกค้นพบเลยก็คือ เฮ้ย เราเอนจอยกับการกินดื่มมากๆ แล้วด้วยความที่เป็นซีรี่ส์สร้างจากมังงะจินตนาการลุงก็จะล้นๆ ไปไกล คือมองเห็นซามูไรจากช่วงสงครามเข้ามาในซีนของแกเป็นประจำเพื่อผดุงความยุติธรรมให้กับเหตุการณ์ต่างๆ ในร้าน
Izakaya Bottakuri
ซีรี่ส์เรื่องนี้คล้ายๆ กับ Midnight Diner ตรงที่เป็นร้านอาหารเดิม ชื่อร้านแปลได้ว่า ‘ขูดรีดขูดเนื้อ’ เจ้าของร้านคือสองสาวพี่น้องที่พ่อกับแม่เสียชีวิตไปแล้ว ทิ้งเอาไว้ให้เป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่มีลูกค้าประจำและไม่ประจำ พวกเธอตั้งใจทำอาหารที่ดีที่สุดเพื่อให้ลูกค้าได้มาแล้วรู้สึกว่าได้กินอาหารที่คิดถึงจริงๆ เป็นซีรี่ส์ที่อบอุ่นใจ มีเส้นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ที่สำคัญคือเน้นความสัมพันธ์ของเจ้าของร้านกับลูกค้าที่เหมือนกับว่าเป็นคนในครอบครัว
ดู Izakaya Bottakuri เลย
อ่านเรื่องราวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand