ไม่แปลกหากคนอ่านหลายคนจะไม่เคยได้ยินชื่อ Roy Halston หรือแม้แต่ชื่อแบรนด์แฟชั่นชื่อดังฝั่งอเมริกา ‘Halston’ ซึ่งโด่งดังมากในยุค 70 และเรื่องราวของเขาไม่ได้เป็นความลับที่เปิดเผยไม่ได้แต่อย่างใด เพราะเขาเองก็มีซีรี่ส์สารคดีชีวประวัติของเขาฉายอยู่ใน Netflix ชื่อเดียวกับแบรนด์ว่า ‘Halston’ นั่นเอง
Roy Halston Frowick เกิดเมื่อ 23 เมษายน 1932 ณ เมืองเดมอยส์ รัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา พ่อของเขาเป็นนักบัญชีชาวนอร์เวย์-อเมริกัน และแม่เป็นแม่บ้านชาวอเมริกัน เขาชอบการประดิษฐ์อะไรไปตามประสาเด็กช่างจินตนาการ อย่างปักเสื้อผ้า หรือทำหมวกดอกไม้ให้แม่ เขาซึมซับศิลปะมาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อทำมันเพียงอย่างเดียว
หลังจากย้ายจากมหาวิทยาลัยอินเดียน่า ในปี 1952 เพื่อไปเรียนภาคค่ำที่สถาบันศิลปะชิคาโกและทำงานเป็นคนตกแต่งหน้าร้าน (Window Dresser) จนได้เปิดธุรกิจขายหมวกของตัวเองในปีต่อมาและนั่นคือจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Halston และมีลูกค้าคนแรกๆ เป็นคนมีชื่อเสียงในยุคนั้นมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ Jacquline Kennedy สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งที่สวมหมวก Pillbox ในระหว่างการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของ JFK ในปีพ. ศ. 2504
แต่แล้วคนก็ไม่ค่อยนิยมใส่หมวกอีกต่อไป รอย ก็เลยดีไซน์เสื้อผ้าผู้หญิงซะเลย ด้วยความที่เขามีชื่อเสียงมาจากการทำหมวกให้กับคนดังมากมายอยู่เลย การทำเสื้อผ้าก็เลยใช้เวลาไม่นานแม้จะมีอุปสรรคขึ้นมาบ้าง แต่แบรนด์ Halston ก็ติดอันดับต้นๆ เคียงคู่มากับ Ralph Lauren ในยุคนั้นเลย
แล้วเมื่อขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตและแบรนด์ จู่ๆ ทั้งเขาและแบรนด์ Halston ก็ค่อยๆ ร่วงดิ่งลงมาด้วยเหตุผลที่ประกอบกันอย่างเข้าใจได้มากมาย ที่สามารถทำความเข้าใจอย่างง่ายๆ ในซีรี่ส์ทาง Netflix ที่ฉายมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ให้โอกาสทำความรู้จักชายผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่นอเมริกันคนหนึ่งคนนี้ เขาเองก็คือหนึ่งในผู้ที่เปลี่ยนโลกแฟชั่นยุค 70 ครั้งใหญ่ไม่แพ้ดีไซน์เนอร์ฝรั่งเศสหรืออิตาลีในยุคเดียวกันเลยล่ะ
เรามองว่า Halston มีหัวคิดไปทางทางสร้างสรรค์อย่างสุดมาก เลยทำให้เขาลืมเรื่องของการตลาดไปเลย และการใช้ยาอย่างไม่ลืมหูลืมตานั่นแหละ ทำให้ชีวิตคนหลายคนจมดิ่งอย่างกู่ไม่กลับมานับไม่ถ้วน ซึ่งเขาก็คือหนึ่งในนั้นเช่นกัน สุดท้ายในปี 1988 เขาได้รับผลตรวจเลือกว่าติดเชื้อที่กำลังระบาดอย่างมากในยุคนั้นนั่นก็คือ HIV เมื่อสุขภาพแย่ลง Halston ย้ายไปซานฟรานซิสโก แล้วเสียชีวิตที่ศูนย์การแพทย์ Pacific Presbyterian Medical Center และศพของเขาถูกเผาไปหลังจากนั้น