BASTUA คอลใหม่จาก IKEA x Marimekko ที่ต้องมีให้ได้!

คอลใหม่จาก IKEA x Marimekko! ร้องกรี๊ดทันทีตั้งแต่คอลนี้ของ IKEA คอลเล็คชั่นนี้ชื่อว่า BASTUA ที่คอลแลบกับแบรนด์ที่เรารักอย่าง Marimekko เขาทำสีสันและลวดลายออกมาสวยมาก โดยได้แรงบรรดาบใจมากจากธรรมชาติและการดูแลตัวเองแบบฉบับนอร์ดิกที่ชอบการซาวน่า พอเห็นแล้วรู้สึกเลยจริงๆ ว่าสดใส สุนทรีย์ และอยากลุกขึ้นมาจัดห้องและดูแลตัวเองเลย 

8 สาวจาก ARTISTRY STUDiO FACE เผยผิวโกลว์ใสไกลสิว x CLEO พวกเธอคือสาวมั่นใจที่กล้าโชว์ความเฟรชออกมา

และแล้วก็มาถึงเวลาที่เราจะได้เห็นโฉมหน้า 8 ตัวแทนจากกิจกรรม Artistry Studio Face ที่ได้เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ไลน์ใหม่ “Artistry Studio” บอกเลยว่ากว่าจะได้ตัวแทนมา 1 คนนั้นต้องผ่านการคัดเลือกโดยคณะกรรมการจาก Amway และพี่เอ๋ สุพิชา บรรณาธิการ CLEO โดยพี่เอ๋อยากเฟ้นหาวัยรุ่นเจนใหม่ที่มีความมั่นใจ มีความเฟรชและสดใส ทั้งอินเนอร์ภายในและภายนอกจะต้องเปล่งประกายพร้อมเจอโลกกว้าง สนุกกับการใช้ชีวิตและกล้าแสดงความเป็นตัวของตัวเองแบบสุดพลัง แต่ก็ยังให้ความสำคัญในการดูแลผิวหน้าให้โกลว์ใส เพื่ออินสไปร์ความมั่นใจให้กับวัยรุ่นเจนเดียวกัน และสาวๆ 8 คนที่ได้เป็นตัวแทนหน้าใสจากกิจกรรม ARTISTRY STUDiO FACE ได้แก่… เนอส ศศินันท์ สิทธิเมธิตานันท์ อายุ 27 ปี เนอสคือผู้หญิงสดใสที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เธอมีอาชีพเป็นนักธุรกิจแอมเวย์เต็มเวลา เนอสเริ่มทำธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจทำให้เนอสสามารถเก็บเงินแสนแรกในชีวิตจากธุรกิจแอมเวย์ให้กับพ่อแม่ได้ตอนอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น จะเห็นได้ว่าธุรกิจแอมเวย์ใครๆก็สามารถทำได้โดยไม่มีข้อจำกัดเลย นอกจากการทำงานแบบสู้สุดใจ เนอสเลือกทุกอย่างให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองในแต่ละวันด้วย รวมไปถึงสกินแคร์ที่เลือกใช้นั่นก็คือ อาร์ทิสทรี สตูดิโอ แอนตี้-เบลมมิช โทนเนอร์ + พอร์ รีเฟรชเชอร์ “เราเป็นคนให้ความสำคัญกับสกินแคร์ที่ใช้มากๆ เลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ ทั้งประสิทธิภาพและไลฟ์สไตล์ […]

PILLOW MANIFEST ขอพรจักรวาลด้วยการอธิษฐานแล้วใส่ไว้ใต้หมอนก่อนนอน

ไปเจอการขอจักรวาลที่เรียกว่า Pillow Manifest มาใน TikTok เขาบอกว่าเป็นวิธีที่ทำแล้วได้ผลจริง แต่ขึ้นอยู่กับใจและการกระทำของเราด้วยนะ แถมทำง่ายมาก แค่มีสมาธิตั้งมั่นกับสิ่งที่เราต้องการ และขอพรกับจักรวาลก่อนนอนโดยใช้หมอนเป็นตัวช่วย มี TikToker ที่ชื่อว่า Valeria Romero เธอบอกว่า “วิธีนี้เป็นวิธีที่ช่วยให้เราขอพรจากจักรวาลและได้สิ่งที่ต้องการในตอนที่คุณหลับ” 

12 หนังรักที่เกี่ยวกับการ “หย่าร้าง” ดูแล้วมีกำลังใจมูฟออนเลย

ถ้ารักให้สุดแล้ววันหนึ่งต้องมาหย่ากัน ก็ถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว ใครที่กำลังเจอสภาวะแบบนี้ อยากหาอะไรมาอัพให้ใจฟูๆ บ้าง ลองดู 15 หนังความรักที่ต้อง “หย่าร้าง” นี้นะ ไม่ได้แย่อย่างที่คิดแน่นอน ถ้าไปต่อไม่ได้ แล้วต้องจบกันไป ต่างคนต่างแยกย้าย อาจมีความรักใหม่ หรือมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าไปเลย คนที่รักกัน แต่งงานกันมา แล้วต้องมาถึงทางแยก “หย่าร้าง” กัน ความจริงก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่นะ คนเรามาค้นพบหัวใจตัวเองทีหลังได้ หรือพยายามแล้วไปกันไม่รอด หรืออาจจะเจ็บปวดในตอนแรก แต่ดีกว่าฝืนกันไป คลีโอมีหนังเกี่ยวกับการ “หย่าร้าง” มาให้ลองไปดูกันนะ เริ่ดทุกเรื่อง!! 1.Kramer VS. Kramer หนังดังที่คอหนังยุค 80’s ไม่มีใครพลาดเรื่องนี้ ประชันกันเลยทั้งเมอรีล สตรีพ และดัสติน ฮอฟฟ์แมน เป็นหนังที่ตามล่าความดราม่ากันในศาล ที่เป็นเรื่องของเบื้องหลังครอบครัวสุดเพอร์เฟ็คท์ โจอันนา นางเอกได้ลุกขึ้นมาหลังจากเธอขอหย่ากับเท็ด ว่าเธอต้องการสิทธิ์ในการเลี้ยงลูกชายของเธอ เขาไม่ยอม ก็เลยต้องฟาดกันในศาล เป็นเรื่องความซับซ้อนของจิตใจของคนเรา ความเชื่อของคนเป็นแม่ที่คิดว่าตัวเองเลี้ยงลูกได้ดีกว่า และคนเป็นพ่อที่ไม่เข้าใจว่าเขาจะด้อยกว่าเรื่องเลี้ยงลูกตรงไหน หนังเข้มข้นในทั้งบทและการแสดง เรื่องนี้ได้รางวัลออสการ์ไปถึง 5 รางวัลเลยล่ะ 2. […]




Relationship

บอกคนในกระจกว่าให้ซ่อมหัวใจให้หน่อย หายอกหักด้วยตัวเองนี่ล่ะ!



ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน เมื่ออกหักเราอ่อนแอเหมือนกันทั้งนั้น ต่างกันที่บางคนอาจดูมีอาการน้อยหน่อย แต่ก็เชื่อเถอะว่ามันไม่ได้แกร่งเหมือนเดิม และมันเป็นช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะยาวนานกว่าทุกความรู้สึก เรากดข้ามไม่ได้เหมือนโฆษณาใน youtube ต้องอยู่กับมันไปและปล่อยให้เวลาเยียวยาหัวใจเราไป

หรือไม่เราก็เยียวยาหัวใจตัวเองซะเลย!

ยอมรับซะว่าเสียใจ

ไม่ว่าเราจะใช้คำไหน แพ้ สูญเสีย เสียใจ ปวดร้าว หัวใจแหลกสลาย ยอมรับมันซะ มันไม่แปลกอะไรและเราจะสปอยล์เรื่องนี้ให้ฟังว่า ทุกคนเคยเจอมันมาเหมือนกันหมดนั่นแหละ แค่บางคนเขาไม่แสดงออกมาหรือไม่ได้บอกเรา (เพราะเราไม่ใช่เพื่อนเขา) และการอยู่กับความเสียใจมันไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ให้เวลาทำความรู้จักกับสิ่งนี้หน่อย เพราะไม่อย่างนั้นการรีบหายดีและไปใช้ชีวิตปกติ มันเหมือนกลบเมล็ดพันธ์ุที่เราไม่อยากให้งอก แต่วันหนึ่งเมื่อถึงเวลามันจะหยั่งลึกจนยากจะถอนออกไปจากใจ

ขีดเส้นแบ่งเขตความทรงจำ

ความทรงจำนี่แหละทำร้าย เวลาเราอกหักความคิดเวลาว่างมันมักจะหวนกลับไปสู่วันเวลาที่ดี กลับไปส่องว่าเขามีชีวิตยังไงแบบไม่มีอะไร ยิ่งเห็นยิ่งเจ็บปวด เหมือนเวลาเป็นแผลแล้วหมั่นเอานิ้วลงไปจิ้ม จิ้ม จิ้ม จนแผลไม่หายซะที ทำแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้หายเร็วขึ้น แต่นอกจากความเจ็บปวด จะกลายเป็นวันเราสั่งสมความคั่งแค้นเพิ่มเข้าไป คำแนะนำคือ เลิกปุ๊บ ตัดปั๊บ ตัดใจตัวเองให้ได้ อย่าไปอยากรู้อยากเห็น เหมือนทำสมาธิ เหมือนลดความอ้วน เหมือนเข้าพรรษา

ยิ่งดีถ้าไม่มีเรื่องอะไรต้องติดค้างกันอีก ไม่มีของต้องคืน หรืองานที่ทำค้างไว้ร่วมกัน ตัดวงโคจรของเขาออกจากเราไปก่อนดีกว่า ยังไม่ต้องกังวลว่าอนาคตอาจจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้หรือไม่ ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตไปเลย ไม่ต้องไปเดินเล่นเอ็มวีในที่ๆ เคยไปด้วยกัน ไปในที่ใหม่ๆ ซะ

ดูแลตัวเอง

ทั้งตัว ทั้งหัวใจ ทั้งสมอง เริ่มจากสิ่งที่ทำได้เลยก่อนก็คือตัวเรา ส่องกระจก แล้วสังเกตว่าเราไม่เหมือนเดิมยังไง โทรมลงหรือหมองคล้ำ ทาครีมสิรออะไร แล้วถ้าอยากแต่งหน้าแบบไหนก็ทำในแบบของเราหรือไม่แต่งก็ไม่ว่าอะไร แต่ย้ำว่า.. ดูแลตัวเองทำให้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ตัดผมทรงใหม่ อ่านหนังสือ หากิจกรรมทำ

ถ้าในช่วงนี้ออกไปทำอะไรมากไม่ได้ ลงเรียนคอร์สออนไลน์เลยค่ะ มีทั้งคอร์สฟรีและเสียเงิน หรือไม่ก็หาความรู้จาก youtube ฟรีๆ แล้วจะลงมือทำช่องของตัวเองก็ได้ ใครจะไปว่าอะไรเราได้ล่ะก็นี่มันชีวิตเรา ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะทำเกี่ยวกับอะไร ก็อาจจะเป็นสิ่งที่เราถนัด แชร์ความรู้ความสนใจ หรืออะไรที่ได้เรียนรู้มาในแต่ละวันก็ได้นะ ยังมีคนต้องการกำลังใจจากเราอีกเพียบ!

จดบันทึกความรู้สึก

เป็นสิ่งที่เราทำบ่อยๆ เวลารู้สึกไม่ดี เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ทำในสมุดบันทึก แต่พอโตขึ้นก็พิมพ์เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์แทน สำหรับคนที่ไม่ชอบลงมือเขียนด้วยดินสอ ปากกาเพราะรู้สึกว่ามันช้าเกินไปไม่ทันใจ ก็พิมพ์เก็บไว้เหมือนเราในตอนนี้ก็ได้ การได้บันทึกเสมือนว่าบอกใครสักคนออกไป มันช่วยทำให้เราได้ระบายความรู้สึกไม่ดีออกไปได้จริงๆ นะ

ลองทำเก็บไว้สักปี ตื่นขึ้นมาตอนเช้าหรือก่อนจะหลับตานอน เขียนอะไรก็ได้ที่อยากเขียนแล้วกำหนดเวลาเท่าๆ กันทุกวัน เมื่อเวลาเยียวยาเราแล้วถ้าอยากกลับมาอ่าน เราจะรู้สึกเลยว่าตอนนี้เราโตขึ้นมาแค่ไหน และรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากแค่ไหน

ในบางวันอาจเขียนเป็นจดหมายถึง ‘เขา’ แต่ไม่ต้องส่งไป เขียนระบายความรู้สึกใดใด จะน้ำเน่าก็ช่างมัน แล้วตั้งใจเลยว่านี่จะเป็นการเขียนถึงแค่ฉบับเดียว ไม่มีต่อไป เพราะจะเป็นการให้เราได้พูดสิ่งที่อยากพูดแต่ไม่ได้พูด สิ่งที่ต่อให้ได้พูดก็ไม่มีประโยชน์อะไร อะไรก็ได้ เขียนลงไป แต่ไม่ต้องส่งไปนะ เพราะพอส่งแล้วเราจะคาดหวังการตอบกลับและแน่นอนว่าไม่ว่าเขาตอบกลับหรือไม่ เราจะยิ่งรู้สึกแย่ เขียนเก็บไว้เพื่อให้รู้สึกเหมือนว่าอย่างน้อยก็ได้บอกออกไปแล้ว แล้วมูฟออนค่ะ มีชีวิตต่อไป

ไม่ต้องรู้ว่าเพราะอะไร

เราเชื่อว่าในจดหมายฉบับนั้น อาจมีคำถามมากมายที่คุณอยากจะถามคนๆ นั้นว่า ทำไมถึงต้องทิ้งกัน ทำไมต้องเลิกกัน ฉันทำอะไรไม่ดีตรงไหน ฉันแย่ตรงไหนทำไมไม่บอก เราบอกให้แทนได้เลยว่า เขาไม่มีคำตอบที่ถูกต้องที่ทำให้คุณรู้สึกว่า “อ้อ! ได้คำตอบแล้ว เข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก” ไม่มีทางเลย เขาอาจจะมีเหตุผลงี่เง่าอะไรที่ทำให้คุณต้องตั้งคำถามใหม่ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด

บางครั้งคำตอบของความสัมพันธ์มันก็คือแค่ไม่อยากอยู่ด้วยกันแล้ว ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน เราจะต้องการเหตุผลอะไรมากไปกว่านี้อีก รักษาหัวใจตัวเองดีกว่า

อย่าจม

ที่บอกให้ยอมรับว่าเสียใจ แต่อย่ากลับไปหาความทรงจำ มันดูเหมือนจะขัดๆ กันอยู่ แต่หมายความอย่างนั้นจริงๆ นะ อยู่กับมันแต่อย่าเพิ่มเติมมันด้วยตัวเราเอง เมื่อไหร่ที่รู้สึกเสียใจ เสียใจ อย่าให้ประโยคเดิมวนกลับมา อย่าพูดประโยคเดิมกับตัวเอง เสียใจรอบเดียวให้เสร็จแล้วเดิมไปต้มมาม่ากิน พรุ่งนี้เอาใหม่ “เขาทิ้งฉันไปแล้ว ไม่โทรมาหาเลย เตียงก็ว่างเปล่าเพราะ…” ถ้ากำลังจะพูดกับตัวเองว่า เขาทิ้งฉันไปแล้ว อีกรอบละก็พอค่ะ คราวนี้ไม่ต้องต้มมาม่า เอาผ้าไปซัก เปลี่ยนกิจกรรมทำซะ ซื้อหนังสือจากเวปไซต์ออนไลน์มาอ่าน อ่านเยอะๆ จะได้เปิดโลกในช่วงเวลาที่เราไปไหนไม่ได้ กิจกรรมการอ่านเป็นสิ่งที่บันเทิงใจ ที่บุคคลหนึ่งทำกับตัวเองได้เท่านั้น ซึ่งมันดีมากเลยล่ะขอบอก

More