Tiffany & Co. แบรนด์เครื่องประดับที่เป็นถึงระดับตำนานที่มีอายุยาวนานถึงกว่า 183 ปี มีสาขาทั่วโลกกว่าสามร้อยสาขา และแน่นอนว่าสำนักงานใหญ่คือมหานครนิวยอร์ก อาจเป็นตึกที่ปรากฎในหนัง Breakfast at Tiffany’s
ทุกอย่างเริ่มขึ้นเมื่อปี 1837 Lewis Tiffany และ John B. Young เปิดห้างขายเครื่องเขียนและของสวยๆ งามๆ ในเมือง Brooklyn รัฐ Connecticut ใช้ชื่อว่า Tiffany, Young and Ellis และย้ายมาที่ 259 ถนน Broadway ย่าน Lower Manhattan เปลี่ยนมาใช้ Tiffany and Company ในปี 1853 พร้อมกับเปลี่ยนใจขายเครื่องประดับอย่างเดียว
ความสัมพันธ์ของทิฟฟานี่แอนด์คอมพานีและอาหารมื้อเช้า
ในช่วงยุค 60s ที่แบรนด์เครื่องประดับนี้กำลังยุ่งขึ้นสู่จุดสูงของความนิยม หนังเรื่อง Breakfast at Tiffany’s เองก็สื่อเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับหญิงสาวที่ใฝ่ฝันจะได้สวมใส่มันบนเรือนร่างเธอสักครั้ง อยากจะเป็นเจ้าของกล่องสีฟ้าทิฟฟานี่ แต่ ‘Holly’ นางเอกของเรื่องก็ทำได้แค่ไปยืนกินอาหารเช้าที่หน้าตู้กระจก ด้วยความเชื่อว่ามีแต่เรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นที่นี่
และในโลกความจริงเอง Audrey Hepburn ก็ใส่ Tiffany Diamond จากแบรนด์ เป็นเพชรสีเหลืองขนาด 287.42 กะรัตจากเหมืองเพชรในแอฟริกาใต้ ในรูปโปรโมตภาพยนตร์
ฝันของ Holly และฝันของผู้หญิงทั่วโลก?
เมื่อมันเป็นฝันของ Holly นอกจากจะได้ไป having breakfast at Tiffany’s (ที่ไม่ใช่ร้านอาหารแต่เป็นร้านขายเพชร) สาวๆ หลายคนก็อยากจะได้เปิดกล่อง Tiffany Box(es) ด้วยเช่นกัน มันดูจะเป็นเซอร์ไพรซ์ที่คาดหวังได้ว่าจะมีอะไรดีๆ อยู่ในนั้น แม้ว่ามันจะขนาดเล็กน้อยก็ตาม
ความยอดนิยมของกล่องสีฟ้านี้ถึงขั้นว่ามีลูกค้าบางคนอยากจะขอซื้อแต่กล่อง และก็สามารถทำได้ในราคา $450 แต่ความจริงแล้วเครื่องประดับ Tiffany & Co. มันคือสิ่งที่อยู่ในกล่องต่างหาก
แต่ก็ไม่เสมอไป ถึงแม้ว่าสมัยนี้จะมีเครื่องประดับหลายแบรนด์ที่เข้าถึงง่ายขึ้นมาก แต่ก็ยังคงเป็นตัวชี้วัดฐานะของผู้คนได้ในหลายประเทศ ยังคงบอกได้ว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสิทธิ์ครอบครองเป็นเจ้าของกล่องจิ๋วสีฟ้านี้ และไม่ใช่ทุกคนที่จะใฝ่ฝันถึงมัน
“ยังมีอีกหลายแบรนด์ในใจเมื่อพูดถึงเครื่องประดับนะ สำหรับเราภาพออเดรย์ใน Breakfast at Tiffany’s แอบทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์ดูช่างฝันไปหน่อย บางทีมันอาจจะเป็นจุดขายของเขาก็ได้” – ความในใจของคนที่ไม่ใช่แฟนตัวยงของกล่องสีฟ้านี้นัก แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธถ้าจะได้มันกลับบ้านสักกล่องสองกล่อง
ก็น่าคิดเหมือนกัน ถ้าจะมองในมุมของผู้หญิงอีกหลายคนที่ไม่ได้ฝันถึงการเป็นเจ้าของเครื่องประดับระดับตำนานที่เจาะจงเพียงแค่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง หากเธอเห็นคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนนี้เด้งออกมาขนาดนี้ ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าจะบอกว่านี่คือจุดขายที่กลายเป็นจุดแข็งที่แบรนด์ Tiffany & Co. ทำได้และยังคงทำต่อไปนับร้อยปีแล้ว และสำหรับอีกหลายล้านคนการได้ฝันถึง ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะได้เป็นเจ้าของ และหากได้ครอบครองคงรู้สึกเหมือนได้เจอรักแท้
อ้อ! แต่ใครอยากจะไปกินอาหารเช้าที่ทิฟฟานี่ละก็ไม่ต้องยืนเกาะหน้าต่างอย่างที่ฮอลลี่ทำแล้วนะ เพราะปี 2022 จะมีการเปิดให้บริการอีกครั้ง The Blue Box Cafe ให้แฟนๆ ไปนั่งกันกลางกล่องสีฟ้าและกินอาหารเช้าอย่างหรูหราได้ที่สาขา 727 Fifth Avenue
อ่านเรื่องราวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand