แฟนเพื่อนไม่เวิร์ค แต่เพื่อนเรากำลังหลงใหล ทำอะไรก็ดีไปหมด เพื่อนรักอย่างเราจะออกปากเตือนก็ไม่แน่ใจว่าจะฟัง สถานการณ์ที่เราเห็นแต่เพื่อนไม่เห็นนี่เป็นอะไรที่น่าอึดอัดใจมาก
ไม่ว่าจะเพื่อนรักวัยไหน กุ๊กกิ๊กวัยใส เปรี้ยวแซ่บวัยทำงาน หรือว่ากำลังจะผ่านเข้าสู่ประตูวิวาห์ด้วยกัน มันเกิดขึ้นได้ที่จะรู้สึกว่า แฟนเพื่อนไม่เวิร์ค เลยอ่ะ
แต่ในฐานะของความเป็นเพื่อนที่เห็นอะไรไม่ชอบมาพากล เราขอให้ทำการสังเกตสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด ก่อนจะพูดอะไรออกไป ดูเขา ดูเรา ดูเพื่อนเราว่าเราอยู่ในสถานะที่ พูดออกไปได้แค่ไหน ถ้าห่วงจริงๆ อยากจะเตือนสักหนึ่งครั้งก่อนวางมือ เราต้องแน่ใจว่าเราแน่ใจแล้ว
เก็บหลักฐานให้พร้อม
จดบันทึกเลยว่า วันนี้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เรารู้สึกไม่ชอบมาพากลอย่างไร ข้องใจที่ตรงไหน วิเคราะห์ออกมาแบบไม่เข้าข้างใครทั้งสิ้น เพราะเราเชื่อว่าถ้ารู้สึกสงสัยใครสักคนว่าไว้ใจไม่ได้ มันจะไม่ใช่เพราะเหตุการณ์แค่หนึ่งเหตุการณ์แน่ๆ แต่มันจะมีจุกมีจิก มีนั่นมีนี่มาทำให้เราสงสัย เรื่องเล็กน้อย ไม่ใหญ่โตอะไร แต่คาใจมาก!
การมีหลักฐานและวิเคราะห์ได้เป็นฉากๆ มันจะช่วยทำให้เราไม่ดูเป็นคนมีอคติไปเอง เพื่อนจะพอรับฟังเหตุผลเราบ้าง แต่ แต่ แต่ ต้องไม่เอาเรื่องรักที่ไม่สมหวังของเรามาเป็นเหตุผลของการไม่ไว้ใจแฟนเพื่อนนะ ยกตัวอย่างว่า “ฉันเคยเจอคนแบบนี้มาแล้ว” อันนี้ฟังไม่ขึ้น ควรเป็นปัญหาที่เรารู้สึกจริงๆ เห็นจริงๆ และเพื่อนคนอื่นก็เห็นเช่นเดียวกัน
คุ้มเสี่ยงจะเสียเพื่อนไหม
รู้สึกว่า แฟนเพื่อนไม่เวิร์ค แล้วบอกเพื่อนเลยว่า “ฉันว่าแฟนแกไม่น่าไว้ใจ เพราะอะไร บลาบลาบลา” อาจไม่ถึงกับทำให้เราเสียเพื่อน แต่ต่อไปนี้ไม่ว่ามีปัญหาอะไร เราอาจจะไม่ได้เป็นคนรับฟังอีกแล้ว เพราะเพื่อนเองก็ไม่อยากให้เรารู้สึกไม่ดีกับคนรักของตัวเองหรอก อาจต้องปล่อยให้เพื่อนได้เรียนรู้ความสัมพันธ์ไปด้วยตัวเองก่อน และเราก็ดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงใย เตือนแบบอ้อมๆ
เมื่อเกิดปัญหา อย่าฟันธงว่า “เห็นไหม ฉันบอกแกแล้ว นิสัยอย่างนี้มันแปลว่าอย่างนี้ๆๆๆ” เพื่อนจะตั้งการ์ดที่มองไม่เห็นขึ้นมาทันที แล้วก็เถียงในใจว่าเขาก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องเก็บข้อมูลมาอย่างดีแล้ว พูดออกไปเมื่อรู้สึกว่าเพื่อนจะรับฟัง ให้เหตุผลที่ฟังขึ้นไร้อคติ
มันใช่เรื่องของเราไหมที่จะพูด
โอเค บางทีมันใช่ บางทีมันก็ไม่ใช่ เพื่อนอาจจะรู้อยู่เต็มอกว่าคนรักไม่น่ารักเท่าไหร่ แต่ไม่พูดออกมา ก็เพราะรักอ่ะ ส่วนเราควรทำความเข้าใจความเป็นเขาด้วย มันความสัมพันธ์ของเขา เอาจริงๆ ไม่ใช่เรื่องของเรา เข้าใจนะว่าห่วงใย และเราอาจะทำได้แค่ห่วงใยก็ได้
ดูนิสัยเพื่อนเราด้วย ยิ่งเป็นคนดื้อไม่ฟัง เรายิ่งต้องอ้อมโลก อย่าคิดว่าเพื่อเพื่อน! ฉันต้องพูด เพราะฉันคือเพื่อนที่ดี บางทีนะ ในฐานะเพื่อนรักอยู่ซัพพอร์ตให้กำลังใจเธอในเวลาที่ต้องการคือพื้นฐานของเพื่อนที่ดีแล้ว เว้นแต่ว่ามีการทำร้ายถึงร่างกาย(และจิตใจอย่างแรง) เราควรจับเข่าคุยปรึกษากันจริงจัง พาเพื่อนออกมาจากความสัมพันธ์นั้นอย่างเร็วที่สุด
ถูกที่ ถูกเวลา อาจพูดได้
ถ้าเราเก็บไม่ไหว ขอครั้งหนึ่ง ขอเตือนสักครั้งแล้วถ้าไม่ฟังจะปิดคดี อาจไม่ใช่พูดที่ไหนก็ได้ โพล่งขึ้นมาทั้งๆ ที่ใจเพื่อนไม่ได้รู้สึกโล่งเท่าไหร่ พูดออกมาอย่างใส่อารมณ์ ผลลัพธ์คือพังแน่ ความเป็นเพื่อนน่ะพังไปเลย บอกไม่ได้หรอกว่าเวลาที่ดีคือตอนไหน แต่ทุกคนจะรู้เองว่าระหว่างเพื่อนตอนไหนที่สบายใจพูดอะไรออกไปแล้วไม่สะเทือนใจสุด
เวลาที่อยู่กันสองคน ในวันที่เพื่อนรู้สึกข้องใจ ไม่สบายใจในความสัมพันธ์อยู่แล้ว แล้วอาจจะลองเสนอมุมมองใหม่ๆ ฉันมองอย่างนี้หวะ “แกเข้าใจใช่ไหมว่าคนนอกมันเห็นอะไรที่แกไม่เห็น” แต่สร้างความเข้าใจให้กับตัวเองด้วยว่า “แต่ฉันก็จะมองไม่เห็นอะไรบางอย่างที่แกเห็นเหมือนกัน” ให้โอกาสเพื่อนได้เป็นคนตัดสินใจ ในความสัมพันธ์ของตัวเอง
คงจะดีกว่ามากๆ ถ้าเราพูดออกไปอย่างไม่ตัดสินหรือโทษว่าใครผิดถูก (แม้ในใจจะตัดสินฉึบๆๆ แล้วก็ตาม) ยกตัวอย่าง “ฉันรู้สึกว่าทำแบบนี้มันเหมือนไม่ให้เกียรติกัน เขาจะทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หรือว่าแก้ได้? ไม่รู้แกรู้สึกเหมือนกันรึเปล่านะ แค่อยากบอกว่าฉันเห็นอะไร”
อย่าปล่อยให้เพื่อนจมกับปัญหา
บางทีที่เพื่อนเองก็รู้สึกว่า เออ รู้สึกเหมือนกัน ทำยังไง ไม่อยากเลิกหรือไม่ก็ยังไม่อยากเลิก อย่าวางระเบิดทิ้งไว้แล้วหนีไป อยู่ข้างๆ เพื่อนเราด้วย ช่วยกันหาทางแก้ ไม่ว่าจะเป็น ลองดูไปก่อนไหมนานไปอาจจะดีขึ้น หรือลองเปิดใจคุยกับคนรักว่ารู้สึกแบบนี้ พอจะแก้ไขอะไรได้
แต่ถ้าเพื่อนทนสุดๆ แล้ว หนทางเดียวคือต้องเลิกแล้วล่ะ เราก็ต้องอยู่เคียงข้างในฐานะเพื่อนรัก อย่างที่บอกตัวเองมาตั้งแต่แรกด้วยนะ
อ่านเรื่องราวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand