ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Music

‘แม็กซ์ เจนมานะ’ กับบทสัมภาษณ์ที่ออกทะเลไปไกลกว่าซิงเกิ้ลที่เขาเพิ่งปล่อยมา



เราได้คุยกับ แม็กซ์ เจนมานะ ไม่กี่วันหลังจากที่ฟังเพลงล่าสุดของเขาที่เพิ่งปล่อยออกมาทาง youtube “อย่าฝันเลย” ภาพหญิงสาวคนเดียวเล่าเรื่องแบบที่เปิดโอกาสให้คนดูจินตนาการไปต่างๆ นานา ว่าเธอเป็นใคร ทำไมถึงไม่อยากฝัน หรือความจริงแล้วมันก็ง่ายๆ แค่แอบรักใครสักคน 

“แม็กซ์เคยแอบรักใครไหม?” ที่ถามเป็นเพราะว่าเราอยากรู้ว่าทำไม ‘อย่าฝันเลย’ ถูกทำให้เข้าว่าเป็นเพลงแอบรัก หลังจาก ‘โต๊ะจีน’ และ ‘ฉันอยากไปทะเล’ สองเพลงแรกในอัลบั้มปล่อยออกไป 

“จริงๆ ผมไม่ได้มีปัญหาเรื่องแอบรักใครนะ(หัวเราะ) แต่อยากเขียนเพลงที่โรแมนติกมากๆ สักเพลง ก็เลยเอา inside ตัวเองที่เคยนอนไม่หลับมาใช้ พยายามเปรียบเปรยให้เหมือนกับเวลาที่เราฝันดี ฝันถึงใครสักคนแล้วตื่นมาไม่เจอเขาอีก ก็อย่าฝันเลยดีกว่า อยู่กับความจริง อดทนสู้กับความปวดร้าวดีกว่า ซึ่งอาจจะไม่ใช่ความรัก แต่สิ่งที่เราฝันไว้ไม่เป็นความจริงสักที ขออยู่กับความเป็นจริงแล้วกัน”

ตั้งแต่เพลงนี้ถูกเขียนขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว ในคืนหนึ่งที่เขานอนไม่หลับ ตีสองจนก่อนจะเช้า อย่าฝันเลย ก็เขียนเพลงนี้เสร็จในเวลาไม่นาน

คุณโปรดักทีฟตอนกลางคืนสินะ :

“ใช่! ผมพยายามแก้เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน อยากลองโปรดักทีฟตอนกลางวันบ้าง”

ทัวร์หนักกว่ายี่สิบวันต่อเดือนกลายเป็นศิลปินติดบ้านและนักเรียนปริญญาโท

ไม่ใช่อะไรที่เซอร์ไพรซ์ในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ศิลปินทุกคนอยู่กับบ้านมานานจะปล่อยเพลงออกมาเป็นว่าเล่น แม้ยังไม่มีทัวร์หรือคอนเสิร์ตใหญ่ “ช่วงแรกๆ ก็ปรับตัวเยอะเหมือนกัน หลังๆ ก็รู้สึกชินแล้วก็แอบชอบการได้อยู่บ้าน(หัวเราะ) ทำงานออนไลน์มันก็มีวิธีของมัน เราก็ต้องหาทางเอาตัวรอด แล้วตอนนี้ก็เรียนปริญญาโท ก็ดีเหมือนกัน ปกติคงไม่มีเวลา” อันนี้น่าทึ่งเหมือนกันนะ ช่วง covid-19 นี้มีหลายคนเรียนอะไรใหม่ๆ แต่นึกไม่ถึงว่า แม็กซ์จะไปถึงขั้นเรียนปริญญาโท สาขาธุรกิจบันเทิง “แล้วก็ติดเล่มเกมส์ เล่นกับแมว เล่นกับลูก”

แม็กซ์ เจนมานะ

ฟังดูเหมือนเป็นชีวิตในฝัน แต่เราทุกคนผ่านมันกันมาในรูปแบบของตัวเอง การ work from home ที่เคยสนุกในเดือนแรกๆ เมื่อก้าวเข้าสู่หลักปีเหมือนว่าไฟจะเริ่มมอดดับลง ฟรีแลนซ์อย่างนักดนตรีเองก็เช่นกัน “ผมยังแก้ไขอาการนี้ไม่ได้เลยอ่ะ บางวันผมก็ทิ้งตัวนอน มันคงแก้ได้ง่ายๆ คือสร้างรูทีน” แม็กซ์คือคนที่เชื่อว่าแม้อารมณ์จะไม่มา แต่ในสารคดีก็มีการฝึกความโปรดักทีฟของคน แต่ก็ไม่ง่าย “โดยเฉพาะเวลาที่ไม่มีใครมาคุมเรา มีแต่เราที่ต้องคุมตัวเอง ซึ่งเราก็ต้องแข็งแกร่งและมีระบบ” และก็คล้ายกับคนทำงานสร้างสรรค์ส่วนใหญ่คือในเขาจะมีไทม์ไลน์ของการทำงานจะมีงานส่งเสมอ “เดดไลน์คือแรงบันดาลใจที่ดีในการทำงานครับ”

ลูก! หนึ่งในเรื่องที่เซอร์ไพรซ์แฟนคลับหนักมาก!

เมื่อเกือบสองปีที่แล้ว การเปิดตัวลูกชายของแม็กซ์ เจนมานะ เป็นข่าวใหญ่ประมาณหนึ่งเลยนะ แฟนคลับอาจไม่ถึงกับหวงเขาหรือไม่แฮปปี้ แต่ที่งงคือเขาไปมีตอนไหน ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยก็เพราะแม็กซ์เองก็อยากแยกโลกของงานกับครอบครัวออกจากกันประมาณหนึ่ง จนกระทั่ง “วันนั้นวันเกิดอายุ 30 ปี ก็ตั้งเป้าหมายอยากจะเป็นตัวเองให้มากขึ้น จากที่เคยแบ่งว่างานก็คืองาน เรื่องส่วนตัวก็คือส่วนตัว ไม่เคยปิดบังนะ ทุกคนใกล้ตัวก็รู้เพราะอยู่ในวงกลบที่แคบๆ ของเรา แต่รู้สึกว่าลูกน่ารักมากเลยจนอยากจะอวดอ่ะ(หัวเราะ) แต่เดี๋ยวนี้ก็ต้องขอนะ เขาจะโกรธมากถ้าเราเอารูปไปลงเอง”

แต่พอโลกของเขาเปิด ทุกอย่างก็หลั่งไหลเข้ามาแม้แต่ดราม่าที่เขาเกี่ยวข้อง “อย่างข่าวล่าสุดก็มีคนลามไปลูกหรือภรรยา ครอบครัว ซึ่งผมเองก็พยายามให้พวกเขากระทบน้อยที่สุด แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยไป โตขึ้นคงจะเรียกได้ว่ามีภูมิต้านทานเพิ่มขึ้นมั้ง” 

“ผมว่าดราม่าเป็นเรื่องดี ผลัดกันวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ แต่มันก็จะมีคนที่คิดว่าเราเป็นบุคคลสาธารณะจะพูดอะไรก็ได้” แต่เขาบอกว่าโชคดีที่คนรอบตัวไม่มีอะไรแบบนี้เลย “พวกเขารู้ว่าผมเป็นคนปกติ คนเราพลาดกันได้ ถ้าคิดว่าเราพลาดแล้วไม่เรียนรู้ คุณอาจไม่มีความเห็นอกเห็นใจกับผม แต่คนรอบตัวผมไม่ได้คิดอย่างนั้น” 

ภรรยาคือฮีโร่และคนที่ทั้งเหมือนและไม่เหมือนตัวเรา

และในโลกใบเล็กๆ ของแม็กซ์ ภรรยา และลูกชาย “มีลูกนี่เปลี่ยนชีวิตเลยนะ เป็นความรู้สึกที่เราโตเป็นผู้ใหญ่จริงๆ” แต่ช่วงที่ลูกชายเกิดมาเขามีทัวร์คอนเสิร์ตหนักมากจริงๆ ภรรยาเลยเป็นผู้รับหน้าที่ดูแลลูกซะเป็นส่วนใหญ่ แม็กซ์ก็กลับบ้านมาเพื่อรับพลังจากทั้งคู่หลังจากออกไปทำงานมา “โชคดีที่ช่วงแรกๆ เราอยู่กับพ่อแม่ด้วย กว่าจะออกมาอยู่กันเองก็ลูกประมาณ 2 ขวบ” เขาบอกเลยว่าในบ้านใครจะทำอะไรต้องแบ่งกัน ทั้งแบ่งหน้าที่และแบ่งเบากันและกัน

“แต่ละบ้านผมคงบอกไม่ได้ว่าใครควรมีหน้าที่ทำอะไร ใครทำงานนอกบ้าน ใครทำงานในบ้าน มันเป็นเรื่องของครอบครัวเขาที่คงต้องตกลงกันให้ได้ครับ ไม่มีอะไรตายตัว มันเป็นเรื่องในบ้านเขาเลยจริงๆ นะ อย่างช่วงโควิดนี้ภรรยาผมก็ทำงาน ส่วนผมไม่ได้ไปเล่นดนตรีที่ไหน อยู่แต่บ้านทำงานที่บ้านบ้างตามเดดไลน์ ทำงานบ้านบ้างเหมือนกัน”

เมื่อพูดถึงภรรยาแม้จะเป็นการคุยกันผ่านทางออนไลน์แต่สายตาของแม็กซ์ดูเป็นประกายขึ้นมา “ผมภูมิใจในตัวเขาทุกวัน แต่เขาไม่เคยเชื่อเลย เพราะผมชอบกวน” ด้วยความเหมือนกันที่สุดและไม่เหมือนกันที่สุด “เขาเหมือนผมในด้านที่ไม่นึกว่าจะเหมือนจนทำให้เรารู้สึกว่าคงหาไม่ได้จากใคร และเขาก็ไม่เหมือนผมจนรู้สึกว่าโชคดีที่เราไม่เหมือนกันตรงนี้ เพราะเขามาเติมพาร์ทหนึ่งของเราที่ทำให้เราเข้ากันได้ดี” 

ชีวิตนักดนตรีที่ชื่อ ‘แม็กซ์ เจนมานะ’

“ถ้าให้มองในแง่ของทั้งวงการดนตรีตอนนี้ก็เหมือนทุกอย่างกำลังค่อยๆ เปลี่ยนไป แต่ก่อนเราจะเน้นการทัวร์เล่นคอนเสิร์ต พอศิลปินมีเวลาทำงานกันมากขึ้น ทุกคนพิถีพิถันในการอัพเกรดตัวเอง เพิ่มสกิลให้งานออกมาดีขึ้น ผมคิดว่าผลงานของทุกคนหลังจากนี้จะดีขึ้นมาๆ แล้วผมก็แอบคาดหวังว่าพอทุกอย่างกลับมาแล้ววัฒนธรรมในการเสพงานเพลงก็อาจจะยกระดับขึ้นด้วยเหมือนกัน”

แม็กซ์ เจนมานะ

ส่วนในระดับตัวของเขาก็อยากจะกลับไปเขียนหนังสือใหม่ และกำลังอินกับเรื่องเทคโนโลยีสร้างสรรค์งานเพลงมากๆ “ผมอยากทำให้ทุกอย่างสนุกขึ้น อาจจะทำหนังเล่นๆ ใช้เอฟเฟค ฟิลเตอร์ หรือทำแคมเปญอะไรที่ใช้กับศิลปินคนอื่นได้ อยากจะหาไอเดียใหม่ๆ ทดลองทำอะไรไปเรื่อยๆ” 

และขอแบบเพ้อๆ เลยเหอะ จะเกิดขึ้นจริงไหมไม่รู้…แล้วเป้าหมายสูงสุดที่คุณอยากไปให้ถึงในฐานะศิลปินคืออะไร? : “ผมอยากไปเล่น Wembly Stadium ครับผม(หัวเราะ)” อยากจะเล่นดนตรีไปเรื่อยๆ และยังชอบมันอยู่”

“ให้เพลงนี้เป็นเพื่อน ภาษาที่สุนทรีย์ที่ผมตั้งใจอยากให้มันเป็นเพื่อนของคนที่นอนไม่หลับ ให้เพลงนี้นอนไม่หลับแทน”

มันอาจเป็นความฝันของใครบางคนที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริงอีกแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านไปและไม่ย้อนกลับมา ฟังเพลงนี้เพื่อคิดถึงอะไรบางอย่างแล้วบอกกับตัวเองเบาๆ ว่า “อย่าฝันเลย”

อ่านเรื่องราวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']