“ทุกคนต้องเกลียดฉันแน่ๆ” ทำไมเราถึงมีความคิดแปลกๆ ที่ว่านี้อยู่ในหัวตลอดเวลาทุกครั้งที่ต้องออกไปเจอผู้คน ไปพบเจอคนใหม่ๆ ทุกครั้งที่เจอผู้คน ก็จะมีเซ้นส์แปลกๆ กระซิบเราทุกวันว่าเขาเกลียดเรา ทำไมเราคิดแบบนี้นะ
การเข้าสังคมบางทีมันก็เป็นอะไรที่ท้าทายเหมือนกันนะ เพราะสำหรับบางคน การที่ต้องพูดคุยหรือปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองโดนเกลียดตลอดเวลา มันมีคนที่รู้สึกแบบนี้อยู่จริงๆ นะ ซึ่งคนที่เป็นแบบนี้มักจะมีความรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้ให้อยู่คนเดียว แปลกแยกจากคนอื่น เข้ากับใครไม่ได้ ผสมกับคำถามที่ตีกับตัวเองในหัว “นี่ฉันแปลกเกินไปรึเปล่า คนอื่นต้องไม่ชอบฉันแน่ๆ” ไม่ว่าคนอื่นจะรีแอคใส่เรามายังไง เพียงแค่เขายิ้มมาให้หนึ่งที เสียงในหัวก็จะบอกว่า ฉันทำอะไรผิด ทำไมเขาต้องยิ้มให้ฉัน ทั้งๆ ที่มันก็เป็นแค่การยิ้มทักทายทั่วไป
ทำไมเราถึงคิดแบบนี้
จริงๆ แล้วมันก็มีสาเหตุที่ทำให้หลายคนรู้สึกแบบนี้นะ สาเหตุอาจมาจาก:
- ภาวะซึมเศร้า
- เคยอยู่ความสัมพันธ์ที่รุนแรง
- ความวิตกกังวล
- การมี Self-Esteem ที่ต่ำ
- บางคนที่เป็นไบโพลาร์ก็อาจมีความคิดแบบนี้ได้นะ
- การถูกบูลลี่ทั้งในอดีตหรือปัจจุบัน
- ภาวะสุขภาพจิตอื่นๆ
เข้าใจได้ว่าความคิดแบบนี้มันก็เป็นอะไรที่ยากจะควบคุมนะ มันเป็นความรู้สึกที่เราก็ไม่อยากจะคิดแบบนั้น แต่มันคิดไปเองแบบนั้นตลอด จนบางครั้งอาจทำให้เรามีปัญหาที่ในการเจอผู้คนใหม่ๆ สร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ หรือทำให้ชีวิตเราอยู่ยากขึ้นกว่าเดิมก็ได้นะ จริงอยู่แหละว่าอาจจะยากหน่อยที่จะให้ความคิดแบบนี้หายไป แต่เราสามารถกำจัดความคิดแบบนี้ออกไปได้นะ
ทำยังไงให้ความคิดแบบนี้หายสักที
งั้นลองหายใจลึกๆ แล้วทำตามดูทีละข้อดีกว่า อาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย
อย่าลืมมองสถานการณ์จาก “มุมมองของอีกฝ่าย”
คนที่ชอบคิดแบบนี้มักจะเชื่อว่าการกระทำและคำพูดของคนอื่นมีความหมายที่ซ่อนอยู่เสมอ เช่น คนที่ไม่กดไลก์รูปบนโซเชียลมีเดีย ไม่ตอบคำทักทายที่เป็นมิตรเมื่อเดินผ่าน หรือไม่ตอบข้อความในทันที ล้วนเป็นสัญญาณว่าอีกฝ่ายไม่ชอบพวกเขา ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วอาจไม่ใช่แบบนั้นก็ได้ เพราะในความเป็นจริง มันอาจไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับคนที่รู้สึกว่าถูกมองข้าม
ลองปรับความคิดใหม่โดยการมองจากมุมของคนอื่นดูบ้าง บางทีพวกเขาอาจไม่ชอบรูปถ่ายลงบนโซเชียล บางทีพวกเขาอาจไม่ได้ยินคนอื่นทักทายพวกเขาหรือกำลังรีบอยู่ก็ได้ หรือบางทีข้อความมาในช่วงเวลาของวันที่พวกเขายุ่งมาก ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ลองมองเหตุผลอื่นในแง่ดีจากอีกฝ่ายดู เพราะบางทีคนอื่นก็ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ และไม่ได้เกลียดเราด้วย
มองทุกอย่างใหม่ให้เป็นกลาง
ลองปรับมุมมองใหม่ มองทุกอย่างให้เป็นกลางที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น ถ้าเพื่อนสองคนปล่อยเพื่อนคนที่สามออกไปเมื่อพวกเขาพบกัน เพื่อนคนที่สามอาจคิดไปเองว่าเพื่อนสองคนไม่ชอบพวกเขา อย่างไรก็ตาม แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่แง่ลบของการถูกทอดทิ้ง บุคคลที่สามสามารถพยายามมองสถานการณ์อย่างเป็นกลาง
บางครั้งที่พวกเขาไปเที่ยวกันสองคนโดยไม่ชวนเรา อาจมีเหตุผลอื่นๆ ก็ได้ เช่น บังเอิญเจอหรือเปล่า? อาจจะรู้หรือคิดว่าเรายุ่งอยู่ ไปไม่ได้? หรือเป็นเวลานานแล้วที่พวกเขาไม่ได้ใช้เวลาร่วมกัน? เพราะฉะนั้นเราควรมองเหตุผลที่เป็นไปได้ทั้งหมดว่าทำไมมันถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งบางทีมันไม่เกี่ยวข้องกับที่เราคิดไปเองเลย
หยุดพยายามโฟกัสสิ่งที่คนอื่นคิด
หลายคนชอบเก็บสิ่งที่คนอื่นโต้ตอบมาคิดทุกอย่าง เดาใจอีกฝ่ายว่าเขาต้องคิดแบบนี้กับเราแน่ๆ ทั้งที่บางทีเขาก็ไม่ได้คิดอะไรเลย การคิดแบบนี้ก็ไม่ได้แย่อะไร แต่ถ้าคิดบ่อยๆ คอยแต่หมกมุ่นอยู่กับการพยายามกำหนดความคิดเชิงลบที่คนอื่นมีต่อพวกเขา ก็อาจส่งผลกระทบได้เหมือนกัน ลองเปลี่ยนใหม่ แทนที่จะพยายามอ่านความคิด ก็ลองตามน้ำในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาก็ได้ ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อนหรอก เช่น ถ้าเขาบอกว่าไม่กินข้าวเย็นด้วยนะวันนี้ ก็ยังไม่ต้องคิดว่าเขาไม่อยากกินข้าวกับเรา เพราะเขาอาจจะไม่หิวหรือมีธุระต่อก็ได้
ออกกำลังกาย
ออกกำลังกายก็ช่วยได้เหมือนกันนะ ช่วยปรับอารมณ์โดยรวมของเราได้ ส่งผลต่อความคิดของเราด้วยเช่นกัน ลองเริ่มจากเดินเล่นชิลล์ๆ เล่นกีฬาที่ชอบ หรืออกไปหากิจกกรมนอกบ้านที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายดูบ้างก็ช่วยให้เราไม่ตึงเครียดหรือวิตกกังวลได้นะ
ลองทำดูอาจจะช่วยได้นะ แล้วความคิดที่ว่า ทุกคนต้องเกลียดฉันแน่ๆ มันจะหายไปเอง คิดบวกเข้าไว้!