ปิดไฟรึยังนะ? ล็อกประตูรึยัง? หรือแม้กระทั่งการล้างมือซ้ำๆ เพราะคิดว่ามือยังไม่สะอาด ที่จริงความคิดทบทวนรอบคอบอาจจะเป็นสิ่งที่ดีแต่ถ้ามีมากเกินไปจนทำให้ขาดสมาธิในการทำงานหรือทำสิ่งต่างๆ จนถึงทำให้ตนเองไม่สบายใจ เกิดความเครียดและวิตกกังวลทั้งๆที่คุณจะรู้อยู่แก่ใจก็ตามว่ามันไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่แต่ก็ยังคงคิดซ้ำไปซ้ำมา ทำแต่เรื่องเดิมๆ วนไป คุณอาจเสี่ยงเป็น โรคย้ำคิดย้ำทำ หรือ obsessive-compulsive disorder (OCD) ก็เป็นได้
ยกตัวอย่าง เรื่องจริงของชายหนุ่มคนหนึ่งเขามีชื่อว่า Nick เขาเป็นคนที่นิสัยร่าเริง เป็นวัยรุ่นที่ใช้ชีวิตปกติชอบไปโรงเรียนเจอเพื่อนฝูง แต่เมื่อเรียนจบเขาก็มีความเครียดกับเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องงานและความสัมพันธ์กับแฟน อยู่มาวันนึงเขาเริ่มมีอาการของโรคย้ำคิดย้ำทำ คือเขาเริ่มทำความสะอาดห้องของตัวเองซ้ำๆ “ผมทำความสะอาดพื้นวันละ 4-5 รอบ ใช้เวลาอยู่กับการทำความสะอาดประมาณ 6 ชั่วโมงต่อวัน ผมแทบไม่ได้ออกไปเจอเพื่อนหรือใช้เวลาทำอย่างอื่นเลย” Nick กล่าว และเขาทำเพราะเขาคิดว่าพื้นสกปรกและการทำความสะอาดคือสิ่งสำคัญ แต่สุดท้ายเขาก็พบว่า สิ่งนี้มันมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมากเลยทีเดียว
อีกเหตุการณ์เป็นเรื่องจริงของ Howie Mandel หนึ่งในกรรมการของ America’s Got Talent ที่ OCD เกี่ยวกับความสะอาด ส่งผลต่อเขาจนถึงขั้นที่เขาจะไม่จับมือกับใครเลยรวมถึงผู้เข้าแข่งขัน เว้นแต่เขาจะสวมถุงมือลาเท็กซ์หรือกำหมัดแล้วชนกับอีกฝ่ายแทนการจับมือ โดย Howie ได้เปิดใจเกี่ยวกับโรค OCD นี้ซึ่งเปรียบเหมือนฝันร้ายสำหรับเขา และในการให้สัมภาษณ์กับ Doctor’s Ask ในปี 2010 Mandel กล่าวว่า “ผมมักหมกมุ่นอยู่กับเชื้อโรคและทำความสะอาด ตอนยังวัยรุ่นผมไม่ผูกเชือกรองเท้าเพียงเพราะรองเท้าเหยียบบนพื้นและผมคิดว่าพื้นสกปรก”
หากใครเคยดูซีรีย์เรื่อง Monk (นักสืบจิตป่วน) ก็จะคุ้นเคยกับบทบาทที่ตัวเอกต้องเผชิญกับโรค OCD เป็นอย่างดี ซึ่งภาพยนตร์ชุดนี้นำแสดงโดย โทนี ชาลู รับบทเป็น เอเดรียน มังก์ นักสืบของกรมตำรวจซานฟรานซิสโก ที่ถูกพักงานด้วยปัญหาทางจิตเนื่องจากความเศร้าโศก หลังจากเห็น ภรรยาของเขาถูกคนร้ายวางระเบิดรถยนต์เสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา มังก์กลายเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ (obsessive–compulsive disorder – OCD) หากใครยังไม่เคยดูสามารถตามไปดูได้ ถือเป็นซีรีย์ดีๆ และสนุกอีกเรื่องเลย
โรคย้ำคิดย้ำทำ ( OCD ) คืออะไร?
คือ อาการทางจิตอย่างหนึ่ง โดยคนที่เป็นจะมีพฤติกรรมทำบางสิ่งบางอย่างซ้ำไป ซ้ำมาเรื่อย ๆ เพื่อให้เกิดความสบายใจ ซึ่งตัวเองจะรู้ตัวว่าสิ่งที่ตนเองทำอยู่นั้นไม่จำเป็น ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถหยุดสิ่งที่ทำอยู่ได้ เช่น คอยดูว่าปิดไฟห้องน้ำแล้วหรือไม่ถึงแม้ว่าจะเห็นว่าปิดไปแล้วก็ตาม ซึ่งโรคย้ำคิดย้ำทำเกิดได้ทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะในช่วงอายุประมาณ 20 ปีขึ้นไป
อาการของโรคย้ำคิดย้ำทำ
เกิดอาการได้ 2 ส่วนคือ การย้ำคิด และการย้ำทำ ซึ่งสามารถอธิบายได้ ดังนี้
- อาการย้ำคิด (Obsessive) เป็นการคิดถึงสิ่งหนึ่งวนไปวนมาแต่ยังไม่ตัดสินใจลงมือทำ เช่น คิดมากว่าลืมปิดประตูบ้านรึเปล่าตอนออกจากบ้าน หรือกลัวอันตรายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตนเองมากจนเกินไป
- อาการย้ำทำ (Compulsion) มีพฤติกรรมซ้ำๆ ที่จะทำขึ้นเพื่อคลายความกังวลของอาการย้ำคิดที่เกิดขึ้น ซึ่งจะทำหลายๆ ครั้ง เช่น กลับไปเช็ครถอีกครั้งว่าล็อคหรือยังก็จะกลับไปเช็คอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ
สาเหตุของโรคย้ำคิดย้ำทำ
- พันธุกรรม OCD อาจถูกถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปสู่รุ่นลูกได้ และผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรค OCD ก็มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้เช่นกัน
- ความผิดปกติทางสมอง จากสารสื่อประสาทอย่างสารเซโรโทนิน (Serotonin) ในสมองมีความผิดปกติ
- สภาพแวดล้อม การถูกทารุณกรรมทางร่างกายหรือทางเพศ การเจ็บป่วย และปัญหาชีวิตที่รุนแรง
- ฮอร์โมนผิดปกติ ความเครียด รวมถึงบุคลิกภาพส่วนตัวที่ทำให้พัฒนาไปสู่โรค OCD ได้
รูปแบบของอาการที่พบได้บ่อย
- การเช็คซ้ำ (Checking) พบได้ประมาณ 60% ของผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทำ อาการก็คือจะเช็คอะไรบางอย่างซ้ำ ๆ
- การล้าง (Washing) พบได้ประมาณ 50 % ที่พบบ่อยที่สุดคือล้างมือ ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะย้ำคิดในเรื่องของความสะอาดหรือเชื้อโรค รู้สึกว่ามือไม่สะอาด
- การนับ (Counting) พบได้ประมาณ 30-40 % ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีอาการคือ เวลาเจออะไรหรือทำอะไรแล้วจะต้องนับจำนวน
- ความสมดุล (Symmetry) หรือความมีระเบียบ พบได้ประมาณ 30 % ผู้ป่วยจะมีอาการคือทำอะไรก็ต้องให้ได้สมดุล เป็นระเบียบ
การป้องกันโรคย้ำคิดย้ำทำ
- หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่อาจทำให้อาการของโรคแย่ลง รวมทั้งผ่อนคลายความเครียด เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ออกกำลังกาย
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ห้ามหยุดใช้ยาเองเพราะอาจทำให้อาการแย่ลง และต้องปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยา
- รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การรักษาโรคย้ำคิดย้ำทำ
- การทำพฤติกรรมบำบัด คือ ฝึกเผชิญหน้ากับความกลัวทีละน้อยและจัดการกับความวิตกกังวลของตนเอง ลองห้ามตัวเองไว้ไม่ให้ไปตอบสนองกับความย้ำคิดนั้น
- การรับประทานยา โดยยาที่ใช้คือยาในกลุ่มรักษาโรคซึมเศร้าออกฤทธิ์ในสารสื่อนำประสาท ที่เรียกว่าซีโรโทนิน
อ้างอิงข้อมูลจาก: สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, รามาแชนแนล Rama Channel และ POBPAD
สามารถอ่านบทความอื่นๆของ CLEO ที่: