ไม่ใช่แค่โควิดระบาดนะ แต่ความเหงายังแพร่กระจายแผ่ซ่านตัวเราไปหมดช่วงนี้ กว่าจะได้เจอเพื่อนเจอฝูงก็ยากกว่าเดิม มานั่งคิดดูว่าตอนนี้เรายังเหลือเพื่อนให้ไลน์ไปหากี่คน มีกี่คนที่ยังชวนไปเจอ ไปกินข้าวกันได้อยู่ แน่นอนว่าคนที่มีเพื่อนมากๆ มีข้อดีหลายอย่าง โดยเฉพาะในช่วงวัย 20 กว่าๆ กลุ่มเพื่อนช่วงนี้ยังหนาแน่น และกลุ่มเพื่อนเหล่านี้สามารถบอกได้ว่าคุณภาพของเพื่อนในวัย 30 ของเราจะเป็นยังไงต่อ
มีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์บอกมาว่าคนในวัย 20 มีความอยากสร้างกลุ่มเพื่อนเอาไว้มากๆ เพราะพวกเขามีความตั้งใจจะค้นหาเคมีความเป็นตัวเองให้เจอ วิธีที่จะรู้ได้คือต้องคบคนหลายๆ สไตล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและความสัมพันธ์ คุณมาริสา ฟรังโก้ บอกว่าคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมากกว่า 10 คนขึ้นไปในช่วงวัยกลางคนมีสุขภาพจิตดีกว่าคนที่มีเพื่อนน้อยๆ และการรักษาความเป็นเพื่อนเอาไว้จะพาไปสู่ความสุขและการมองโลกที่ดี ความเครียดที่น้อยลงและทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นได้ด้วย
แต่คุณมาริสาไม่อยากให้คนเพื่อนน้อยท้อใจไป เธอยังบอกว่าถึงจะมีเพื่อนแค่คนเดียวก็ยังทำให้ชีวิตมองโลกบวกได้ทั้งทางใจและสุขภาพโดยรวม ถ้าหนึ่งคนนั้นคุณสนิทกันมากๆ แค่คนเดียวแต่ทรงพลังและมีผลกับชีวิตจนไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนอีกเป็นสิบๆ คนเลย แทนที่จะต้องเมคเฟรนด์กับทุกคนที่เจอ ดูแลหัวใจเพื่อนคนเดียวอาจจะคุ้มค่ามากกว่า
เพื่อน 3-5 คนจำนวนนี้กำลังดี
ยังมีอีกงานวิจัยที่พบว่ามีเพื่อนประมาณ 3-5 คนสามารถเติมเต็มความรู้สึกให้เราได้ค่อนข้างบาลานซ์ดี เพราะการสนิทกับใครเราต้องทุ่มเทเวลา ตามหลักวิทยาศาสตร์บอกว่ากว่าจะสนิทกับใครได้ ต้องใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 200 ชั่วโมง ดังนั้นเราจะค่อนข้างสนิทกับเพื่อนประถม มัธยมหรือมหาวิทยาลัย เพราะคุ้นเคยและผ่านอะไรมามากมายด้วยกัน ส่วนใหญ่แล้วที่พอโตมามีเหตุให้เลิกคบกันไป เพราะอยู่ๆ เหมือนเพื่อนเริ่มเปลี่ยนไป คำพูดที่เคยพูดกันปกติกลายเป็นไม่เข้าหูบ้าง เพื่อนมีเพื่อนกลุ่มใหม่เขาดูแฮงเอาท์สนิทกันจนทำให้เราเฟดตัวออกมาบ้าง
ความหมายของคำว่าเพื่อนในมุมนักจิตวิทยาเลยนิยามเอาไว้ว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง สามารถยอมรับกันและกันในมุมที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด เพื่อนที่สร้างพลังใจพลังกาย อยู่ด้วยแล้วสบายใจ มีคุณค่าต่อหัวใจ เป็นคนที่จะโทรหาเวลาที่มีเรื่องอะไร โทรหาทุกวันก็ไม่เบื่อเป็นคนที่เราต้องรักษาไว้ยิ่งชีพเลยนะ เพราะความสนิทในระดับนี้เหมือนมีคนที่รักเราในความเป็นเรา แบบไม่ต้องพรีเซนต์ตัวเองให้เวิ่นเว้ออะไรมากมาย
ความเศร้าลึกๆ คือโลกโซเชียลทุกวันนี้ทำให้เราเห็นความเคลื่อนไหวของเพื่อน แต่บางครั้งก็ทำให้เราไม่ค่อยติดต่อกัน เพราะเห็นเขาโพสต์อะไรตลอดเลยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนห่างกันไม่รู้ตัว และพวกเราก็ชอบเข้าใจผิด คิดว่านั่นคือการเห็นเพื่อนในสายตา แต่การได้คุยกันชัดๆ มันไม่มีอยู่จริงเลย บางครั้งมีคนมาแปะแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้บนหน้าฟีดเป็นร้อยคน ก็ยังไม่เท่าเพื่อนหนึ่งคนที่โทรมาหาแล้วพูดว่าเห็นแกไม่ค่อยสบายใจ เป็นยังไงบ้าง เล่าให้ฟังได้นะ ดังนั้นถ้าเรามีเพื่อนสนิทแล้ว อย่ามองข้ามและลืมเพื่อนไปนะ มหาวิทยาลัยแคนซัสถึงขั้นศึกษาเลยว่าถ้าเราอยากเป็นเพื่อนที่อยู่ในวงที่ใกล้ชิดกัน ต้องลงทุนกับการให้เวลาและใช้พลังในการออกไปเจอกันด้วย
ในเวลาที่เหงา คิดเอาไว้ว่าไม่ใช่แค่รอเพื่อนติดต่อมาก่อน เราต้องคอยซัพพอร์ตกันและกันทุกช่วงเวลา ค่อยๆ ให้ความสัมพันธ์แก่ไปด้วยกัน หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ เก็บเอาไว้จนวันที่ฉันเคียงคู่เธอ พี่เบิร์ด ธงไชยได้เคยกล่าวไว้ตามนี้