เราไม่รู้ความหมายของการใช้ชีวิตจนเรากำลังจะเสียชีวิตนี้ไป และนี่เป็นสิ่งที่คุณหมอผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยในระยะสุดท้ายมาเล่าสู่กันฟัง คลีโอได้เจอเรื่องราวนี้มาจาก HealthDigest ที่ได้ตั้งคำถามว่าอะไรสำคัญกับชีวิตของเราจริงๆ คุณหมอซิมราน มัลโฮทรา แพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยในระยะประคับประคอง ที่เห็นช่วงเวลาท้ายๆ แล้วนำมาอินสไปร์การใช้ชีวิตบอกว่า “ความตายคือครูที่สอนเราได้ยิ่งใหญ่ที่สุด เราจะมองภาพกว้างๆ และตั้งคำถามถึงสิ่งที่สำคัญในชีวิต การทำงานกับผู้ป่วยระยะสุดท้ายเป็นเครื่องเตือนใจให้เห็นว่าพวกเขามีเรื่องที่เสียใจที่สุด ซึ่งเป็นบทเรียนไม่ให้เราเสียใจแบบนั้นบ้าง”
ดร.ซิมรานเล่าว่าเวลาที่ถามผู้ป่วยว่าอะไรที่ทำให้เขามีความสุข เรื่องราวของทุกคนมีความหลากหลาย แต่เวลาที่ถามว่าเสียใจเรื่องอะไรมากที่สุด สิ่งที่พวกเขาพูดเหมือนกันอยู่ 3 อย่างคือ
1.การไม่ได้ใช้เวลากับคนที่รักมากพอและเสียเวลาไปกับการไม่พอใจ ขัดแย้ง ไม่ลงรอยหรือไม่พูดกันกับคนที่รัก
2.เอาเวลาไปทุ่มกับการทำงานมากเกินไป ไม่ได้แบ่งเวลาให้กับตัวเองและกับครอบครัว ไม่ได้ใช้ชีวิตดีๆ ของตัวเองเลย
3.ไม่มีความกล้าพอที่จะใช้ชีวิตแบบตัวเองต้องการ ไม่ได้ทำตามแพชชั่น ตามความปรารถนา แต่ใช้ชีวิตตามความคาดหวังของคนอื่น ซึ่งข้อนี้เป็นข้อที่ผู้ป่วยตอบตรงกันมากที่สุด
ทุกคนตายเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ได้ “ใช้ชีวิต”
ชีวิตสั้นกว่าที่เราคิด ไม่มีใครรู้ว่าวันไหนจะเป็นวันสุดท้ายของชะตาเรา เพราะฉะนั้นหาเวลาให้กับคนที่เราแคร์ การทำงานและตื่นมามีชีวิตอาจทำให้เราอยู่ไปแบบไม่มีจุดหมาย เราทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีวิต แต่อย่าใช้ชีวิตเพียงเพื่อทำงาน ดร.ซิมรานบอกว่า “คุณจะไม่มีวันที่เสียใจกับการพักเบรคทำงานแล้วใช้เวลากับครอบครัวบ้างหรือทำอะไรที่รู้สึกเอนจอยกับตัวเอง แต่คุณอาจเสียใจถ้าทำงานมากเกินไปและพลาดช่วงเวลาสำคัญต่างๆ ในชีวิต ลองจริงใจกับตัวเอง ให้หัวใจนำทางไปทำตามแพชชั่น อย่าให้ใครมาสั่งว่าคุณควรใช้ชีวิตยังไง คุณจะมีความสุขมากกว่า เวลาที่มองกลับมาแล้วได้ใช้ชีวิตแบบคุ้มค่าที่ตัวเองเลือก แม้ว่าเส้นทางนั้นอาจไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด”
ดังนั้นในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต แพทเทิร์นที่คล้ายๆ กันของทุกคนคือการอยากอยู่ล้อมรอบด้วยคนที่รัก การอภัยเรื่องต่างๆ เพื่อที่จะรวบรวมความกล้าในการจากไป ไม่ว่าจะอายุมากหรือน้อย สิ่งที่คนจะพูดคือพวกเขายังไม่ได้ทำอีกหลายอย่างในชีวิต พอเห็นสิ่งเหล่านี้ สอนให้ ดร.ซิมรานบอกกับตัวเองและอยากบอกคนอื่นต่อว่าให้ลองเผชิญหน้ากับความกลัวและปลอบโยนความปราะบางของตัวเอง นั่นทำให้เราได้เข้าใจความเป็นคน รู้จักเชื่อมโยงกับคนอื่นๆ เป็นความสวยงามและเป็นความจริงของชีวิต เราควรโฟกัสไปถึงสิ่งที่ควบคุมได้ วันนี้เรายังทำได้อยู่ ทำให้ทุกวันของเรารู้ถึงถึงการมีอยู่ของชีวิต เพราะการเป็นมนุษย์ไม่มีอะไรมากหรอก แค่หาสิ่งที่เราเชื่อมโยงถึงจิตวิญญาณข้างใน สัมผัสถึงความรัก รู้ว่าเรามีชีวิตเพื่ออะไร คนเราแค่ต้องการได้รับการมองเห็น มีคนรับฟังและเข้าใจ แล้วเราจะทำสิ่งดีๆ ให้ตัวเองและกับคนอื่นได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม