ยากนะที่จะไม่ให้ตัวเองคิดเรื่องไม่ดี ตื่นขึ้นมาอาบน้ำก็แว่บเข้ามารบกวนจิตใจ นั่งรถลงเรือไปถึงที่ทำงานหงุดหงิดไปหมด ความคิดแรกยังไม่หาย ความหมั่นไส้คนอื่นยังตามมาอีก ในทางจิตวิทยาจะเรียกคนที่คิดลบบ่อยๆ ว่าคุณ “หมีขาว” และคนที่มี EQ สูงๆ หรือจัดการอารมณ์ตัวเองเก่งๆ เขามีกฎอันหนึ่งชื่อว่า “โลมาสีฟ้า” หรือ Blue Dolphin มาใช้แก้ปัญหานี้ให้เบาลง
ทฤษฎีที่เป็นที่มาของการเรียกการคิดซ้ำไปซ้ำไปนี้ว่าปัญหา “หมีขาว” ก็เพราะว่าเวลาเราโดนบอกว่าห้ามนึกถึงหมีขาวนะ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเราจะยิ่งคิดถึงหมีขาวๆๆ แบบฝังหัว เวลาที่ความคิดพังๆ เข้ามาในใจและเราพยายามจะไม่คิด นักจิตวิทยาจากฮาร์วาร์ด เดเนียล เวกเนอร์ บอกว่าเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเวลาที่เราพยายามกดทับความคิดบางอย่างเอาไว้ ยิ่งไปเพิ่มความถี่ให้คิดถึงบ่อยหนักเข้าไปอีกแบบไม่ตั้งใจ
ทำไมความคิดถึงวนเวียนไม่รู้จบ?
เป็นไปได้ว่ามนุษย์มีอคติเป็นทุนเดิม เราใช้เอาไว้ปกป้องตัวเองให้ระวังต่อสิ่งที่ไม่ดี พอรู้แบบนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะสู้กลับหรือวิ่งหนี เลยไม่แปลกที่พอเราจะพยายามเก็บเรื่องไหนใส่ลิ้นชัก ก็จะมีอีกด้านที่คอยเปิดออกมาให้เราจำนานมากกว่าเดิม ยิ่งเรามีความทรงจำที่เลวร้าย ความเจ็บปวด ความผิดพลาด สมองจะฝังว่าเป็นความคิดเชิงลบและหยิบกลับมาหลอกหลอนเราอยู่เรื่อยๆ
แทนที่หมีขาวด้วย “โลมาสีฟ้า” สิ!
โลมาสีฟ้าเลยเป็นวิธีที่สอนให้เรานึกถึงความคิดใหม่ๆ มาแทนที่และช่วยให้เราดึงความสนใจออกจากเรื่องแย่ๆ เป็นสิ่งแรกที่จะนึกถึงเพื่อเปลี่ยนจุดโฟกัส จำไว้ว่าสิ่งนั้นต้องเป็นสิ่งที่คิดแล้วดี เราอินไปกับเรื่องนั้นและดีต่อใจ เช่น คิดไม่ดีเรื่องเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเมื่อไหร่ ให้เราหยุดแล้วกลับมานึกว่างานที่ดีที่สุดของเราคืออะไร จะได้ไม่ต้องไปสนใจคนอื่น เน้นให้เกิดพลังบวกมากกว่าลบ
ต่อมาคืออย่าดำดิ่ง เราอาจควบคุมความคิดไม่ให้ผุดขึ้นมาได้ แต่เราควบคุมไม่ให้มันเกิดแล้วอยู่นานได้นี่ คิดลบเมื่อไหร่ก็เชิญออกไปจากหัวเราด่วนค่ะ และถ้าเรื่องนั้นทำให้เรากังวล ลองบอกตัวเองว่าเดี๋ยวค่อยเอากลับมาคิดพรุ่งนี้แล้วกัน สัปดาห์หน้าเลยดีกว่า การฝึกพวกนี้ไม่ได้ทำง่ายนะ ต้องมีสติอยู่กับตัวเองเสมอ เพราะการรู้ตัวเป็นพลังที่แข็งแรงมากที่จะทำให้ใจและกายมีสุขภาพดี ไม่เป็นคนเครียดง่าย คุณภาพชีวิตก็ดีขึ้นตามไปด้วย