โอปราห์ วินฟรีย์ และ 9 วิสดอมสุดอินสไปร์ของเธอ

Carnivore diet…ได้หรอ??? กินแต่เนื้อสัตว์ ไม่กินผักเลย ??

เมื่อพูดถึงการคุมไดเอท ลดความอ้วนหรือดูแลหุ่นด้วยการเลือกกิน ก็ต้องนึกถึงอาหารเบาๆอย่างสลัดใช่มั้ยล่ะ จริงๆมันก็อร่อยดีนะผักสดให้ฟีลเฟรชๆเบาๆแต่อยู่ท้อง ของหวานก็อาจจะเป็นพวกผลไม้ โยเกิร์ตอะไรประมาณนี้ เป็นสาวเฮลตี้สุดๆ แล้วถ้าคนที่ไม่ชอบกินผักล่ะ น่าจะยากเลย…แต่คลีโอได้ไปเจอช่องยูทูปของผู้หญิงคนนึง Steak and Butter Gal เธอกินแต่เนื้อสัตว์กับเนยเป็นก้อนๆเลย แต่ก็ยังมีหุ่นที่สวยมากผิวก็ดี๊ดี เธอบอกว่าสิ่งนี้เรียกว่า “Carnivore Diet” คือการกินของจากเนื้อสัตว์อย่างเดียว โดยที่ไม่ต้องกินผักเลย Steak and Butter Gal หรือ เบลล่า เธอเป็นนักเปียโนและนักไวโอลินฝึกหัด ผู้หลงใหลในการกินแบบ Carnivore สมัยก่อนเธอกินมังสวิรัติ และมักจะแชร์เรื่องราวการไดเอทของเธอทางช่องทางต่างๆ จนตอนหลังเธอได้มารู้จักกับวิธีการกินเนื้อสัตว์ล้วน ที่มันเปลี่ยนชีวิตเธอไปเลยจริงๆ ทั้งเรื่องผิวและหุ่นที่ดีขึ้น หายจากภูมิแพ้ และสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้นไปอีกด้วย Carnivore Diet คืออะไร และกินอะไรได้บ้าง? การกินแบบสัตว์กินเนื้อนั่นเอง เป็นแนวทางในการกินอาหารที่เน้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์กับผลิตภัณฑ์นม และหยุดอาหารจากพืชทั้งหมด สิ่งที่กินได้ก็จะมี Carnivore Diet ห้ามกินอะไร? Carnivore Diet ดียังไง? หลายคนที่ใช้วิธีนี้ดูแลรูปร่าง ยืนยันว่าสิ่งนี้ช่วยในเรื่องของการปรับปรุงสุขภาพ ได้จริง แถมยังเป็นอาหารที่เตรียมง่ายไม่ยุ่งยากอีกด้วย งานวิจัยบางชิ้นก็ยังพบว่า […]

ทุกครั้งที่อยากอัพพลังใจ อยากได้อินสไปร์ใหม่ๆ ให้ชีวิตได้มูฟไปข้างหน้าอีกหนึ่งสเต็ป ผู้หญิงที่เรานึกถึงคือเธอคนนี้ โอปราห์ วินฟรีย์ เพราะทุกครั้งที่ได้อ่านสปีชของเธอ มันกระตุกใจเราได้ทุกครั้ง วันนี้เราเลยอยากแชร์วิสดอมดีๆ จากโอปราห์ให้ได้อัพพลังใจกัน ขอขอบคุณสปีชเธอและประสบการณ์ของเธอที่แชร์ส่งต่อมาถึงเราได้อย่างทัชใจ และจริงใจที่สุด ขอให้ทุกคนเต็มไปด้วยพลังใจและแพชชั่นนะ

ยิ่งคุณยกย่องและชื่นชมชีวิตคุณมากเท่าไหร่ ชีวิตของคุณก็จะมีอะไรให้ชื่นชมมาขึ้นเท่านั้น

โอปราห์บอกและทำให้เราเชื่อใน “คุณค่าของชีวิต” เราเองอยู่เสมอ ไม่มีชีวิตไหนบนโลกที่ไม่มีคุณค่า ตราบใดที่เรายังยกย่องและชื่นชมชีวิตของเราเอง เราก็จะมองเห็นโลกใบนี้ได้กว้างและสวยงามมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ ชีวิตของคุณก็จะมีสิ่งต่างๆ รอให้ได้ชื่นชมเสมอ เหมือนกับสปีชนี้ที่เธอบอกไว้ “ยิ่งคุณยกย่องและชื่นชมชีวิตคุณมากเท่าไหร่ ชีวิตของคุณก็จะมีอะไรให้ชื่นชมมาขึ้นเท่านั้น”

คุณจะได้เป็นในสิ่งที่คุณเชื่อ ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการหรือคิดไปวันๆ

“ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความเชื่อของเราเอง” นี่คือสิ่งที่เราได้จากโอปราห์ เธอจะบอกเสมอว่า “ความเชื่อ” คือพลังที่ทรงคุณค่ามากที่สุด การที่เราจะเป็นในสิ่งที่ใฝฝ่ฝันตั้งใจไว้ มันไม่ใช่แค่การอธิษฐานฟ้าดินไปวันๆ หรือพร่ำบอกคนนั้นคนนี้ว่าฉันอยากเป็นโดยที่ตัวเองก็ไม่ได้เริ่มลงมือทำอะไร สิ่งที่จะทำให้เราเป็นในแบบที่ต้องการได้ คือเราต้องมีความเชื่อก่อน เชื่อว่าเราทำได้ เชื่อว่าเราเป็นได้ และเราต้องเชื่อมันจริงๆ เชื่อจากใจ โอปราห์บอกไว้ว่า “ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ลองกลับไปที่ความเชื่อที่คุณมี ความเชื่อเหล่านั่นนี่ล่ะ ที่จะพาเราไปให้ถึงตรงนั้นได้”

ฉันไม่เคยเชื่อเรื่องความล้มเหลวเลยสักครั้ง มันจะเรียกว่าล้มเหลวได้ยังไง ในเมื่อเราเอนจอยกับมัน

“อะไรที่เราทำแล้วเอนจอย เราแฮปปี้กับระหว่างทางที่เราตั้งใจทำมันมา ถึงมันจะไม่สำเร็จหรือไม่ได้อย่างที่หวัง แต่มันไม่ใช่ความล้มเหลวอย่างแน่นอน” โอปราห์ไม่เชื่อเรื่องความล้มเหลว เพราะถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เรามีความสุขกับระหว่างทางที่ทำมา ยังไงมันก็ไม่ใช่ความล้มเหลว อย่าเอาผลลัพธ์สุดท้ายมาตัดสินระหว่างทางที่ทำมาทั้งหมด ปลายทางที่เราเห็นมันเทียบอะไรไม่ได้เลยกับระหว่างทางที่เราทุ่มเท เอนจอย และตั้งใจ

อยู่กับคนที่ทำให้คุณไปได้ไกลขึ้นก็พอ

เราเชื่อในคำนี้ของโอปราห์มาก คำว่า “คนที่ทำให้คุณไปได้ไกลขึ้น” คนๆ นั้นไม่จำเป็นต้องมีเงินทองมากมายอะไร แต่มีเพียงแค่พลังใจที่สนับสนุนและผลักดันกันก็เพียงพอแล้ว ให้ชีวิตได้รายล้อมไปด้วยคนเหล่านี้ ชีวิตเราจะดีขึ้นเองแบบไม่รู้ตัว วิธีการใช้ชีวิต ความคิดที่มีแต่พลังบวก ยังไงก็มีแต่พากันไปข้างหน้า จริงๆ มันไม่ใช่แค่การรายล้อมด้วยคนที่พาเราดีขึ้น ไปได้ไกลขึ้นนะ แต่คนเหล่านั้นต้องไม่พ่นความท็อกซิกมาให้เราด้วย ไม่แทงข้างหลังกันเอง อันนี้คือคีย์สำคัญในการเลือกคบคนเลย

ที่ไหนไม่มีความพยายาม ที่นั่นไม่มีความเข้มแข็ง

ความพยายามมาพร้อมความเข้มแข็งเสมอ โอปราห์บอกว่า ทุกครั้งที่เรากล้าเผชิญหน้ากับความยากลำบาก กล้าที่จะเอาชนะความพยายามและเหนื่อยยาก มันจะตามมาด้วยความเข้มแข้งที่มากขึ้นเสมอ ซึ่งเราเชื่อคำนี้มากจริงๆ เวลาที่เราเข้มแข็งขึ้น เรามักไม่รู้ตัวหรอก เพราะมันจะมีพร้อมกับตอนที่เราพยายามหนักๆ นี่ล่ะ และความเข้มแข็งที่เราได้มาทุกครั้งหลังจากที่เราพยายาม มันจะแข็งแกร่งจนใครก็ทำอะไรคุณไม่ได้

วิสดอมที่อยู่ในใจเรานั้นล้ำค่ากว่าเงินทองเสียอีก ยิ่งคุณใช้มันเยอะเท่าไหร่ คุณยิ่งได้มันกลับมามากขึ้นเท่านั้น

สิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินทอง คือความฉลาดและวิสดอมของเรา มันไม่เหมือนเงินที่ใช้แล้วหมดไป แต่วิสดอมที่เรามี ยิ่งเรามีเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งดี และมันจะดีขึ้นอีกหากเราใช้วิสดอมที่เรามีอย่างชาญฉลาด ยิ่งใช้เยอะมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งได้กลับมาเท่านั้น ทุกครั้งที่พูดถึงวิสดอม หน้าของโอปราห์จะลอยขึ้นมาทุกครั้ง คนที่มีวิสดอมในใจ มันเท่มากกว่าการที่คุณรวยล้นฟ้าแต่ไม่ฉลาดใช้ชีวิตเสียอีก

ถ้าคุณอยากไปถึงเป้าหมายในชีวิตคุณ คุณต้องเริ่มต้นด้วยความเชื่อที่อยู่ข้างใน

“ความเชื่อ” คือคีย์ของทุกอย่างจริงๆ โอปราห์บอกไว้ว่า ขอให้เชื่อไว้เถอะ เก็บความเชื่อนั้นให้แข็งแกร่งอยู่ในใจ แล้วมันจะผลักดันให้เราไปถึงเป้าหมายได้เอง ซึ่งจริงมากนะ ไม่ว่าจะทำอะไร หากเรามีความเชื่อในสิ่งนั้น มันจะออกมาดีเสมอ แต่ความเชื่อนั้นต้องมาจากใจและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจริงๆ เชื่อเถอะ ถ้าเรามีความเชื่อ ยังไงก็ไปได้ถึงเป้าหมาย ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว มันจะไปถึงในสักวัน

ทำตามเซนส์ที่คุณมีนั่นแหละ เดี๋ยวมันจะส่งพลังกลับมาให้คุณเอง

ถ้าใจบอกให้ไปทางไหน ก็ไปทางนั้นเลย เชื่อเถอะว่าเซนส์ของเราแม่นที่สุดแล้ว ไม่ว่าใครจะบอกเราให้ทำอะไร แต่ถ้าข้างในเราไม่อยาก หรือไปฝืนทั้งที่ไม่ได้คิดแบบนั้น สุดท้ายแล้วมันก็จะไม่ได้ดั่งใจหรอก เชื่อเถอะว่าสัญชาติญาณที่คนเรามีอยู่ในตัว มันมีพลังวิเศษมากๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราตัดสินใจจากเซนส์ของเราเอง มันจะตามมาด้วยความมั่นใจเสมอ แล้วพลังจะมาเอง

ความล้มเหลวคืออีกก้าวหนึ่งที่พาเราไปสู่ความยิ่งใหญ่

ไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ผ่านความล้มเหลวมาก่อน ไม่ว่าใครก็ตามบนโลกก็ล้วนผ่านความล้มเหลว หรือจุดที่ผิดพลาดมาแล้วทั้งนั้น สำหรับเรา ความล้มเหลวคืออะไรที่มากกว่านั้น มันทำให้เราได้เรียนรู้ เรียนรู้ข้อเสียของเราเอง ได้กลับมาที่ตัวเราว่าต่อไปควรจะพัฒนาตรงไหน เป็นการเรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาดของตัวเองให้ดีขึ้นไปอีก และความล้มเหลวนี้จะเป็นอีกก้าวที่พาเราไปสู่ความยิ่งใหญ่และความสำเร็จเหมือนที่โอปราห์บอกไว้ได้จริงๆ