ประโยคของ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ที่เราเองก็รู้สึกแบบเธอเป๊ะๆๆๆ อยากมีใครที่ใช่ คุยกันรู้เรื่องและเล่าเรื่องของวันนี้ที่เจอให้เขาฟัง
สำหรับผู้หญิงที่ต้องออกไปสู้โลกทุกวัน สู้คนเดียว ต้องเข้มแข็งให้ได้ อ่อนแอยังไงก็ต้องเก็บเอาไว้ ความรู้สึกอยากมีใครสักคน อาจไม่ใช่ว่าเขาต้องมาดูแล มาหาเงิน หาบ้านอะไรให้ แต่คือความรู้สึกที่ละทุกอย่างของวันออกไป แล้วเข้าไปซุกในแขนของเขาหันไปบอกกับเขาว่า “วันนี้แย่จัง เหนื่อยจัง” เขาอาจจะดึงเราเข้าไปกอดให้แน่นขึ้น เอามือลูบหัวเรา แล้วบอกเราว่า “ผมรู้ว่าคุณเหนื่อย แต่เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นนะ”
ข้อดีของการมีคนรักที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน คือเขาจะรู้ทุกโมเมนท์ของชีวิตเรา ว่าช่วงไหนเราเป็นยังไง เขาจะซัพพอร์ตจิตใจเราได้ทัน และคอยเป็นทั้งเพื่อน ทั้งคู่คิด เป็นคนรักที่จูงมือเราไปสูดอากาศดีๆ แล้วเพียงไม่กี่นาที โลกทั้งโลกก็หายไป เรารู้สึกสบายใจและช่างผ่อนคลายเหลือเกิน เหมือนที่เจนนิเฟอร์ อนิสตันเคยบอกหลังจากเลิกกับจัสติน เธอโรซ์สามีของเธอเมื่อปี 2018 ว่า “ไม่มีใครที่เรดาร์ฉันกระดิกได้ แต่ฉันว่าถึงเวลาแล้ว ถึงเวลาที่ฉันพร้อมจะแชร์ชีวิตของฉันกับใครอีกคนแล้ว”
เจนนิเฟอร์ อนิสตัน บอกว่า “ในความสัมพันธ์ เรื่องโรแมนซ์ไม่ใช่สิ่งสำคัญ” สำหรับเธอเลย เธอรักในการเป็นผู้หญิงที่ไม่ต้องพึ่งพิงผู้ชาย เธอคือผู้หญิงที่สร้างตัวเองมาด้วยตัวเอง เจนบอกว่าความสัมพันธ์ของเธอจะเริ่มขึ้นได้เพียงมี “บทสนทนาที่ลื่นไหลตั้งแต่ได้คุยกันครั้งแรก” นั่นเป็นสัญญาณที่ดี “เขาต้องมั่นใจในตัวเอง แต่ไม่เยอะไป มีอารมณ์ขัน แล้วก็ขอร้อง ขอร้องเลยนะว่า เขาต้องใจดีกับผู้คนด้วย” แล้วก็ “ออกกำลังสำคัญเลย แต่ไม่ใช่เป็นเพราะทำให้คุณดูดี ฉันแค่ไม่อยากนั่งวีลแชร์ตอนอายุ 80 เท่านั้นล่ะ”
กว่าจะถึงโมเมนท์ที่เราได้เจอใครที่เราอยากใช้ชีวิตด้วย บางครั้งเราเลยต้องรอให้เจอคนที่ใช่จริงๆ เช็คลิสท์ที่สังคมบอกว่าควรจะมี เราอาจต้องฆ่าทิ้ง แล้วเขียนเช็คลิสท์ของตัวเราเองขึ้นมา เป็นเช็คลิสท์ที่เราค้นพบตัวเราเองอย่างแท้จริงก่อน เราถึงจะมั่นใจได้ว่าคนที่เราบอกว่าใช่ เขาใช่จริงๆ
เจนนิเฟอร์ อนิสตันแค่รู้จักหัวใจตัวเอง เข้าใจชีวิตตัวเอง ตอนที่เธอทำงาน เจนบอกว่า “ฉันไม่สามารถเอาสมาธิไปโฟกัสเรื่องอื่นๆ ได้เลย จะให้ต้องคิดเรื่องความสัมพันธ์ตอนทำโปรเจ็คท์สำคัญๆ ฉันคงไม่ไหว” เจนคือผู้หญิงยุครอมคอมที่ในวันนี้ เธอก็ยังคงเป็นตัวแม่ฮอลลีวู้ดได้อยู่ ซีรีย์ The Morning Show พิสูจน์แล้วว่าเจนคือตัวจริง เธอเลยยืนหยัดว่า “ฉันไม่ได้ต้องการพึ่งพิงใคร เพื่อให้ฉันก้าวไปถึงฝัน” แต่เธอแค่ต้องการ “ไหล่ที่พิงเวลาฉันอยากทิ้งโลกทั้งใบไป”
ผู้หญิงแบบนี้จะต้องการบทสนทนาดีๆ ผู้ชายที่มองโลกด้วยเซนส์เดียวกันไปกับเธอ คนใจดีที่มองอะไรเป็นเรื่องขำได้ ไม่ดำดิ่ง ไม่มืดมน เจนเคยบอกว่าหลังจากที่เธอเลิกกับจัสติน บ้านที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน เธอเปลี่ยนใหม่หมด “คุณนึกออกมั้ยว่าคุณกลับบ้านมา แล้วเห็นแต่ความทึมๆ ไปทั้งบ้าน มันเหมือนฉันอยู่ในถ้ำ” เจนเอาแสงสว่างเข้ามาในบ้าน เธอรู้อารมณ์ตัวเองดีพอ ว่าเธอต้องสร้างบรรยากาศรอบตัวแบบไหนให้รู้สึกอินสไปร์!
บางครั้งที่เราหาทางออกในเรื่องความรักไม่ได้ สับสนกับตัวเองว่าฉันต้องการอะไร รอว่าเมื่อไหร่ฉันจะเจอคนๆ นั้น ถ้าเราลองกลับมาเคลียร์เรื่องของเราเองก่อน อะไรที่คาใจรั้งไม่ให้เรามีความสุข จัดสิ่งแวดล้อมของเราให้ดี ให้พร้อมกับหัวใจอันอิสระของเรา รู้จักตัวเองให้ดีพอแบบตรงชัดที่สุด
เมื่อนั้นภาพของคนๆ นั้นจะผุดขึ้นมา แล้วจักรวาลจะเปิดพลังงานของความรักเดินทางมาหา ถ้าเราต้องการอ้อมแขนที่ช่วยให้โลกของเรานุ่มนวลขึ้น ต้องการความคิด ความรู้สึกของใครที่หลอมรวมไปด้วยกัน ต้องการเสียงหัวเราะเอนจอยสิ่งสวยงามในโลกนี้ ถ้าเราอยากมีคนบอกว่า “วันนี้ฟ้าสวยจัง” ด้วยกัน ใจที่อิสระพอจะส่งสัญญาณบอกฟ้า แล้วเขาจะเดินเข้ามา
เริ่มจากตัวเราเองก่อน ให้ความรัก ความสุข ความอิสระมาเหนือทุกสิ่ง เราคงต้องกล้าทิ้งบางอย่าง และให้แพชชั่นนำทางสร้างบางอย่างขึ้นมา เมื่อหัวใจพร้อมแล้ว จะมีสัญญาณมาบอกเราเอง ภาพเราที่นั่งขดตัวในวงแขนของใครบนโซฟาในวันที่เราไม่ต้องร้องไห้คนเดียว ใครจะรู้ว่าเงยหน้าขึ้นมาอีกที เราบอกตัวเองได้เลยว่า “ฉันมีวันนี้แล้วนี่นา”
แล้วเราจะได้รักให้เต็มหัวใจ
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO