อย่างแรกเลยคือเซ็ตความตั้งใจให้ตัวเอง “ฉันจะต้องขึ้นมาจากหลุมให้ได้” แรงใจที่เราอยากเห็นตัวเองมีความสุข จะพาเรามูฟออนได้เกลี้ยง 100% แน่นอน เริ่มขยับตัวออกจากหลุมกันเลยนะ… เพราะเราจะไม่ยอมจมปลัก ไม่ยอมแพ้ใจตัวเอง เรามองเห็นตัวเองนี่นา ว่าเราจะมีความสุขใสๆ ได้กว่านี้ เราเลยต้องให้กำลังใจตัวเอง ตั้งกฏเหล็กให้ตัวเอง คนอย่างฉัน ไม่มีเธอ ฉันก็มูฟออนสวยๆ ได้ ว่าแล้วลุยกันเลย!! อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่ ฮาวทูรักตัวเอง เมื่อต้องมูฟออนจริงๆ
ฉันไม่ได้โชคดีแบบนั้น ฉันไม่ได้โชคดีพอที่จะมีผู้ชายสักคนมองเห็นฉันในแบบที่ฉันเป็น มองเห็นความเจ็บปวดของฉัน และอยากฉุดฉันขึ้นไป ไม่มีวิธีไหนอีกแล้วที่ฉันจะบอกตัวเองได้ดีไปกว่า “ยอมรับความจริงเถอะ” ทุกครั้งเวลาที่ฉันเห็นใครๆ เขารักกัน ความหวังในใจ ความเพ้อทุกครั้งที่กดแอปสีดำแดงเพื่อเลือกซีรีย์เกาหลีเรื่องใหม่ โจทย์ของฉันไม่มีอะไรมาก ต้องเป็นเรื่องที่ฉันสามารถสมมุติตัวเองเป็นนางเอกในเรื่องได้ แล้วจินตนาการต่อว่า บางทีฉันอาจจะเจอผู้ชายในชีวิตจริง ที่เป็นเหมือนพระเอกในเรื่อง หนังสือฮาวทูบอกว่า ให้คิดว่าอยากได้ผู้ชายแบบไหน ลิสต์ออกมาให้เยอะที่สุด แล้วตัดออกให้เหลือสัก 10 ข้อว่านั่นคือคุณสมบัติผู้ชายที่อยากได้ ฉันลองทำและกุมลิสท์นั้นไว้แน่นในกระเป๋าสตางค์ เอามาเปิดอ่านบ่อยๆ ด้วย บางทีที่เขาบอกว่าคืนพระจันทร์เต็มดวง พระจันทร์จะมอบพลังงานของความรักดูดใครให้เข้ามาในชีวิต ฉันจะเอาลิสท์นั้น ออกไปหาแสงจันทร์ ตั้งจิตอธิษฐาน แล้วนึกถึงเขา แน่นอนว่าฉันมีความเชื่อ ยังคงเชื่อ และก็จะเชื่อต่อไป เรื่องราวในโทรศัพท์กับเพื่อนสาว เราจะวนเวียนกันที่ซีรีย์ที่เพิ่งดู กรี๊ดพระเอก อยากบินไปเกาหลี แล้วเราก็จะกลับมาที่เรื่องของเรากัน ทำไมเพื่อนคนนั้นได้แฟนดีจัง แฟนเขาพาไปเมืองนอกบ่อยมากเลย เขาไปทริปกันอีกแล้ว ฉันกับเพื่อนก็ได้แต่พยายามหาเรื่องเน่าๆ ในเรื่องรักของคนอื่น “แต่พวกเขาอาจมีอะไรไม่แฮปปี้ก็ได้นะ พวกเราไม่มีทางรู้หรอก” มันคงเป็นคำปลอบใจที่เราบ่นให้กันฟัง แต่ฉันก็ยังไม่มีใครเข้ามาในชีวิตอยู่ดี “ที่เธอเหนื่อยเพราะไม่มีคนรักหรือเปล่า?” ประโยคจากเรื่อง My Liberation Notes หัวหน้าของพี่สาวนางเอกถามขึ้นมา หลังจากที่เธอมาทำงานแล้วบ่นว่าเหนื่อยๆๆๆๆ ทำไมชีวิตฉันถึงเหนื่อยขนาดนี้ […]
ตั้งแต่เข้าปี 2024 ที่ผ่านมา คลีโอขอบอกว่านี่เป็นการสัมภาษณ์ที่เบิกเนตรให้เรารู้สึกมีความหวังและกำลังใจ รู้สึกว่าจักรวาลมอบของล้ำค่าเอาไว้ให้เราเสมอ เป็นเรื่องไม่บังเอิญที่ทำให้เราได้เจอกับคุณหมอสา หรือหลายคนรู้จักเธอในชื่อ Doctor Diamond กับฉายาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องเพชรที่ไม่ได้จบแพทยศาสตร์ แต่เป็นผู้ที่ช่วยเยียวยาให้ความรู้กับคนที่สนใจเรื่องเพชร รวมทั้งก้าวเข้ามาแก้ปัญหาชีวิตด้วยพลังของ “เพชรดิบ” ที่ค้นพบพลังงานอันยิ่งใหญ่นี้จนกลายมาเป็นแบรนด์ Guardian Diamond ที่สายมูบอกว่ามาลองแล้วขนลุกซู่ทุกคน ลูกสาวครอบครัวคนจีนที่ฝึกค้าขายตั้งแต่เด็ก “ตอนเด็กไม่รู้ว่าเราอยากเป็นอะไร พ่อแม่อยากให้เรียนที่เอแบค เพราะเห็นว่าเราภาษาดีมาตั้งแต่เด็ก เราไม่มีฝันเลย เป็นเจเนอเรชั่นที่ที่บ้านเป็นคนจีน ดังนั้นก็จะมีบอกแค่ว่าต้องมาช่วยพ่อแม่นะ เราก็รู้สึกว่าเราต้องทําไปจนตลอดชีวิต ไม่เคยมีความคิดอื่นเลย ที่บ้านทำธุรกิจขายเพขร เรียนจบมาให้ไปเรียนดูเพชรนะ เราก็ไป ซึ่งเรียนดูเพชรของสถาบัน GIA ซึ่งตอนนั้นมีสาขาในประเทศไทย เป็นโรงเรียนเล็กๆ ในยุค IMF ค่ะนานมากแล้ว” “คุณพ่อคุณแม่พยายามหนักมากในการส่งเราเรียนนะคะ จําได้เลยว่าแม่ให้เราเดินเข้าไปถามแล้วขอตีเช็ค 4 ใบจ่ายค่าเทอมได้ไหม ช่วงนั้นเราก็รู้เลยว่าชีวิตไม่ได้ง่าย ต้องเรียนให้จบกลับไปช่วยเขา เพราะแม่ก็จะพูดตลอด ตาแม่ก็เริ่มไปแล้วนะ เหมือนเขามาเปิดร้านตอนประมาณ 40 กว่าแล้ว ดังนั้นจะให้เค้าดูเพชรไปตลอดก็เป็นไปไม่ได้ เราเริ่มทําทุกอย่างตั้งแต่เสิร์ฟน้ํา เช็ดตู้ วิ่งงาน บางทีมีงานช่าง เราก็ขับรถออกไปเอง เดินส่งของส่งงาน แม่จะเหน็บเราไปด้วย […]
“เก่งอย่างเดียวแต่ไม่เฮงก็ประสบความสำเร็จยาก” คำพูดนี้ดูจะไม่เกินความจริงไปสักเท่าไหร่นัก ในปัจจุบันเป็นยุคที่วัยรุ่นกำลังสร้างตัว หลายๆคนที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจบางคนบอกว่าเกิดจากความสามารถของตัวเอง แต่หลายๆคนเปิดเผยความลับว่าส่วนหนึ่งมาจากการมูในสถานที่ที่มีพลังงานประกอบกับพิธีกรรมที่ถูกต้องทำให้มีทั้งพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และกำลังใจในการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
อย่างแรกเลยคือเซ็ตความตั้งใจให้ตัวเอง “ฉันจะต้องขึ้นมาจากหลุมให้ได้” แรงใจที่เราอยากเห็นตัวเองมีความสุข จะพาเรามูฟออนได้เกลี้ยง 100% แน่นอน เริ่มขยับตัวออกจากหลุมกันเลยนะ…
เพราะเราจะไม่ยอมจมปลัก ไม่ยอมแพ้ใจตัวเอง เรามองเห็นตัวเองนี่นา ว่าเราจะมีความสุขใสๆ ได้กว่านี้ เราเลยต้องให้กำลังใจตัวเอง ตั้งกฏเหล็กให้ตัวเอง คนอย่างฉัน ไม่มีเธอ ฉันก็มูฟออนสวยๆ ได้ ว่าแล้วลุยกันเลย!!
- ตั้งใจแน่วแน่ว่า “ฉันต้องมูฟออน ต้องล้างใจให้เกลี้ยง!!” ตายเป็นตาย แต่ฉันจะไม่จมแล้วเอาดินกลบตัวเองซ้ำแน่นอน!!
- เชื่อมั่นกับตัวเอง ว่าคนอย่างฉันต้องมีวันฟ้าใสสิ และคนอย่างฉันนี่ล่ะจะยิ้มให้กว้างแบบหมดจด ไม่เหลืออะไรท็อกซิกต่อใจอีกเลยให้ได้
- “เราไม่มูฟออน เพราะลึกๆ เราไม่อยากมูฟออน” ต้องชัดเจนกับตัวเองก่อนเลยนะ ถ้าเราหลอกตัวเองแม้แต่นิดเดียว ถ้าเรายังเสียดายอดีต เสียดายเขา เสียดายความทรงจำ เราก็ไปต่อไม่ได้ ต้องเข้าใจความจริงข้อนี้ก่อนเลย
- “เราไม่มูฟออน เพราะเรายังแอบรอ” เพราะเรามีความหวังว่าทุกสิ่งจะดีขึ้น เขาจะกลับมา เรากับเขาอาจจะเข้าใจกันอีกครั้ง ใจที่แอบหวัง แอบรอน่ะ ยังไงเราก็ก้าวต่อไปไม่ได้ มันจะเหมือนมีลูกตุ้มลูกหนึ่ง ที่ถ่วงใจเราเอาไว้
- ถ้าไม่ไหว ก็ต้องบล็อกทุกช่องทาง เพราะแค่เห็นเขาโพสต์อะไรนิดเดียว ใจก็สั่นแล้ว เวลาเขาทักมา ก็แทบจะถลาอยากพุ่งไปหาเขา ไม่เฮลธ์ตี้ต่อใจ บล็อกให้ราบคาบไปเลยดีกว่า
- “ตัดความคิดออก กลับมาที่ลมหายใจ” เป็นวิธีที่ล้ำเลิศที่สุดในการมูฟออน ที่เราก้าวออกไปไม่ได้ ก็เพราะความคิดชอบต่อเรื่องให้ไปซะไกล แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คิด เราไม่คิดต่อ แล้วกลับมาที่ลมหายใจเลย หายใจเข้าไปที่ท้องน้อยเบาๆ ที่ตรงนั้นเซฟมาก เขาจะค่อยๆ รักษาใจเราเอง ทำไปเรื่อยๆ วันหนึ่งเราจะลืมเขาไปเลย
- บอกเพื่อนว่ากรุณาอย่าเล่า อย่าถามถึงใดๆ ยิ่งถ้าเพื่อนหวังดีไปเจอเขาโน่นนี่แล้วเอามาเล่า มันจะดึงเราให้หวนกลับไปคิด เพื่อนรักอย่าทำร้ายนะจ๊ะ
- อะไรที่อยู่รอบๆ ตัวแล้วทำให้นึกถึงเขา ก็จัดการเอาออกจากชีวิตไปซะ ให้ถามตัวเองว่า ระหว่างเสียดายกับเสียใจไม่จบน่ะ เราจะเลือกอะไร?
- แทนที่จะถามว่าเขาเป็นยังไง ถามตัวเองดีกว่าว่าเราเป็นยังไงบ้าง? ถ้าไม่โอเคก็ยอมรับ แล้วแผ่วเบากับตัวเอง ดูแลหัวใจตัวเอง หาอะไรที่ดีๆ เฮลธ์ตี้ให้ตัวเอง พาตัวเองไปที่ดีๆ เจอคนดีๆ ไม่ต้องไปเสียพลังงานถามตัวเองว่าเขาเป็นยังไงหรอก
- “เลือกพลังงานดีๆ รอบตัวเอาไว้” สำคัญเลยว่าเราจะอยู่กับคนใสๆ สบายๆ เพราะใจเราจะได้สบายตาม พอใจสบายมันจะเหมือนมีพลังงานใสๆ มาล้างทุกสิ่งในใจออกไป แล้วเราจะมูฟออนขึ้นได้เรื่อยๆ
- “ให้อะไรตัวเองบ้าง” อย่าตึงกับตัวเองนัก กัดฟันแล้วมอบอะไรให้ตัวเองบ้าง ไม่ไหวก็ให้ทีละนิด อะไรที่เราชอบๆ สิ่งที่เราอยากทำมาตลอด เรียนคลาสวาดรูป ทริปเล็กๆ กับเพื่อน อาหารไฮๆ แล้วเราจะรู้เลยว่า ไม่ต้องรอใครมาให้เรา เราให้ตัวเองได้จริงๆ
- “ขอบคุณทุกสิ่งที่เข้ามาสอนเรา” เปลี่ยนจากการรอคอย มาเป็นคำขอบคุณในใจ “ขอบคุณนะที่เข้ามา ทำให้ฉันได้เข้าใจตัวเอง และได้ฝึกตัวเองให้เติบโตขึ้น” คำขอบคุณเช่นนี้จะผันกลายเป็นรักและเมตตา ให้หัวใจเราพองโต แล้วกลายเป็นความรักตัวเองให้เราได้ในที่สุด
- “ไม่แค้นเท่ากับให้” มันมีอะไรไม่แฟร์เกิดขึ้นอยู่แล้วล่ะ เราถึงมูฟออนยาก มีความไม่เข้าใจ มีคำพูดที่ไม่เคยได้รับคำตอบ มีคำหลอกลวง และอะไรอีกมากมายที่ทำให้เราแค้นได้ แต่ถ้าแค้นนั่นคือเราเอาจิตเราลอยออกไปเกี่ยวความคิดลบให้พุ่งกลับเข้ามาหาเราทันทีเลย ไม่แค้นเท่ากับเรากำลังให้ตัวเองอยู่นะ เรากำลังปกป้องใจใสๆ ของเราอยู่ ทำยากแต่มาเหนือแน่นอน
- “ไม่ได้เท่ากับได้ทุกอย่าง” เชื่อเถอะว่าการที่เราอยู่กับความไม่มีได้ เราจะทั้งสวยขึ้น สตรองแบบบาลานซ์ เฮลธ์ตี้ รักตัวเอง ทุกสิ่งข้างในเราที่ถูกกดไว้ จะผุดออกมาหมด เราจะทรานส์ฟอร์มหนักๆ เลย ที่สำคัญใจเราจะไม่ต้องไปยึดติดกับใครอีก นั่นคือการที่เราได้ทุกอย่างเลยไม่ใช่หรือ?
- “เห็นภาพตัวเองที่มีความสุขไว้” จินตนาการเลยนะ วันที่เรามูฟออนได้เกลี้ยง แววตา รอยยิ้ม ชีวิตรอบตัวเราจะเป็นยังไง เห็นความสดใสในใบหน้านั้นมั้ย ระลึกถึงภาพนี้บ่อยๆ หันมาอีกที โหว!! ลืมเกลี้ยง ไปต่อไกลๆ แล้วนี่นา
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่ ฮาวทูรักตัวเอง เมื่อต้องมูฟออนจริงๆ
More
[ajax_load_more posts_per_page='6']