ฉันไม่โชคดีพอที่จะมีผู้ชายสักคน “มองเห็นฉันในแบบที่ฉันเป็น”

ฉันไม่ได้โชคดีแบบนั้น ฉันไม่ได้โชคดีพอที่จะมีผู้ชายสักคนมองเห็นฉันในแบบที่ฉันเป็น มองเห็นความเจ็บปวดของฉัน และอยากฉุดฉันขึ้นไป ไม่มีวิธีไหนอีกแล้วที่ฉันจะบอกตัวเองได้ดีไปกว่า “ยอมรับความจริงเถอะ” ทุกครั้งเวลาที่ฉันเห็นใครๆ เขารักกัน ความหวังในใจ ความเพ้อทุกครั้งที่กดแอปสีดำแดงเพื่อเลือกซีรีย์เกาหลีเรื่องใหม่ โจทย์ของฉันไม่มีอะไรมาก ต้องเป็นเรื่องที่ฉันสามารถสมมุติตัวเองเป็นนางเอกในเรื่องได้ แล้วจินตนาการต่อว่า บางทีฉันอาจจะเจอผู้ชายในชีวิตจริง ที่เป็นเหมือนพระเอกในเรื่อง หนังสือฮาวทูบอกว่า ให้คิดว่าอยากได้ผู้ชายแบบไหน ลิสต์ออกมาให้เยอะที่สุด แล้วตัดออกให้เหลือสัก 10 ข้อว่านั่นคือคุณสมบัติผู้ชายที่อยากได้ ฉันลองทำและกุมลิสท์นั้นไว้แน่นในกระเป๋าสตางค์ เอามาเปิดอ่านบ่อยๆ ด้วย บางทีที่เขาบอกว่าคืนพระจันทร์เต็มดวง พระจันทร์จะมอบพลังงานของความรักดูดใครให้เข้ามาในชีวิต ฉันจะเอาลิสท์นั้น ออกไปหาแสงจันทร์ ตั้งจิตอธิษฐาน แล้วนึกถึงเขา แน่นอนว่าฉันมีความเชื่อ ยังคงเชื่อ และก็จะเชื่อต่อไป เรื่องราวในโทรศัพท์กับเพื่อนสาว เราจะวนเวียนกันที่ซีรีย์ที่เพิ่งดู กรี๊ดพระเอก อยากบินไปเกาหลี แล้วเราก็จะกลับมาที่เรื่องของเรากัน ทำไมเพื่อนคนนั้นได้แฟนดีจัง แฟนเขาพาไปเมืองนอกบ่อยมากเลย เขาไปทริปกันอีกแล้ว ฉันกับเพื่อนก็ได้แต่พยายามหาเรื่องเน่าๆ ในเรื่องรักของคนอื่น “แต่พวกเขาอาจมีอะไรไม่แฮปปี้ก็ได้นะ พวกเราไม่มีทางรู้หรอก” มันคงเป็นคำปลอบใจที่เราบ่นให้กันฟัง แต่ฉันก็ยังไม่มีใครเข้ามาในชีวิตอยู่ดี “ที่เธอเหนื่อยเพราะไม่มีคนรักหรือเปล่า?” ประโยคจากเรื่อง My Liberation Notes หัวหน้าของพี่สาวนางเอกถามขึ้นมา หลังจากที่เธอมาทำงานแล้วบ่นว่าเหนื่อยๆๆๆๆ ทำไมชีวิตฉันถึงเหนื่อยขนาดนี้ […]

คุณหมอสา-Guardian Diamond พี่สาวที่เปิดประตูลับ ช่วยเคลียร์พลังงานลบให้คุณพบความสำเร็จ

ตั้งแต่เข้าปี 2024 ที่ผ่านมา คลีโอขอบอกว่านี่เป็นการสัมภาษณ์ที่เบิกเนตรให้เรารู้สึกมีความหวังและกำลังใจ รู้สึกว่าจักรวาลมอบของล้ำค่าเอาไว้ให้เราเสมอ เป็นเรื่องไม่บังเอิญที่ทำให้เราได้เจอกับคุณหมอสา หรือหลายคนรู้จักเธอในชื่อ Doctor Diamond กับฉายาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องเพชรที่ไม่ได้จบแพทยศาสตร์ แต่เป็นผู้ที่ช่วยเยียวยาให้ความรู้กับคนที่สนใจเรื่องเพชร รวมทั้งก้าวเข้ามาแก้ปัญหาชีวิตด้วยพลังของ “เพชรดิบ” ที่ค้นพบพลังงานอันยิ่งใหญ่นี้จนกลายมาเป็นแบรนด์ Guardian Diamond ที่สายมูบอกว่ามาลองแล้วขนลุกซู่ทุกคน ลูกสาวครอบครัวคนจีนที่ฝึกค้าขายตั้งแต่เด็ก “ตอนเด็กไม่รู้ว่าเราอยากเป็นอะไร พ่อแม่อยากให้เรียนที่เอแบค เพราะเห็นว่าเราภาษาดีมาตั้งแต่เด็ก เราไม่มีฝันเลย เป็นเจเนอเรชั่นที่ที่บ้านเป็นคนจีน ดังนั้นก็จะมีบอกแค่ว่าต้องมาช่วยพ่อแม่นะ เราก็รู้สึกว่าเราต้องทําไปจนตลอดชีวิต ไม่เคยมีความคิดอื่นเลย ที่บ้านทำธุรกิจขายเพขร เรียนจบมาให้ไปเรียนดูเพชรนะ เราก็ไป ซึ่งเรียนดูเพชรของสถาบัน GIA ซึ่งตอนนั้นมีสาขาในประเทศไทย เป็นโรงเรียนเล็กๆ ในยุค IMF ค่ะนานมากแล้ว” “คุณพ่อคุณแม่พยายามหนักมากในการส่งเราเรียนนะคะ จําได้เลยว่าแม่ให้เราเดินเข้าไปถามแล้วขอตีเช็ค 4 ใบจ่ายค่าเทอมได้ไหม ช่วงนั้นเราก็รู้เลยว่าชีวิตไม่ได้ง่าย ต้องเรียนให้จบกลับไปช่วยเขา เพราะแม่ก็จะพูดตลอด ตาแม่ก็เริ่มไปแล้วนะ เหมือนเขามาเปิดร้านตอนประมาณ 40 กว่าแล้ว ดังนั้นจะให้เค้าดูเพชรไปตลอดก็เป็นไปไม่ได้ เราเริ่มทําทุกอย่างตั้งแต่เสิร์ฟน้ํา เช็ดตู้ วิ่งงาน บางทีมีงานช่าง เราก็ขับรถออกไปเอง เดินส่งของส่งงาน แม่จะเหน็บเราไปด้วย […]

5 วัดปังในฮ่องกง ขออะไรเทพให้รัวๆ

“เก่งอย่างเดียวแต่ไม่เฮงก็ประสบความสำเร็จยาก” คำพูดนี้ดูจะไม่เกินความจริงไปสักเท่าไหร่นัก ในปัจจุบันเป็นยุคที่วัยรุ่นกำลังสร้างตัว หลายๆคนที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจบางคนบอกว่าเกิดจากความสามารถของตัวเอง แต่หลายๆคนเปิดเผยความลับว่าส่วนหนึ่งมาจากการมูในสถานที่ที่มีพลังงานประกอบกับพิธีกรรมที่ถูกต้องทำให้มีทั้งพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และกำลังใจในการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

“อกหัก” คือสิ่งยอดเยี่ยมที่เกิดกับฉัน ฉันเลิกโกหกตัวเองสักที

เราอย่าเพิ่งกลัวการอกหัก หรือการเลิกกับใครนะ เพราะเหตุการณ์จี๊ดในหัวใจนี้ จะนำพาคุณไปเจอตัวเอง เจอสิ่งใหม่ เจอโอกาสดีๆ ในชีวิตมากมาย เหมือนกับที่ เอมม่า กิบบ์ส นักเขียนและโปรดิวเซอร์รายการทีวีของออสเตรเลียเจอมา เธอเอาสิ่งนี้มาพูดในเท็ด ทอล์ค หมัดฮุคเลยคือเธอบอกว่า “อกหักไม่เพียงแต่จะทำให้เธอเห็นหัวใจตัวเอง ยังทำให้เธอเลิกโกหกตัวเอง และก็เลยเลิกโกหกทุกสิ่ง เรื่องดีๆ ในชีวิตเลยสาดเข้ามาเต็มๆ เลย” เอมม่าเล่าว่า…. ชีวิตฉันเหมือนจะดีนะ ฉันได้ทำงานที่ฝัน อยู่ในเมืองที่ดี “แต่ฉันกลับไม่มีความสุข ฉันโกหกตัวเองทุกวันว่า เดี๋ยวมันก็จะดีเองแหละ” ฉันใช้ชีวิตไป 3 ปีเต็มที่โกหกตัวเอง และบอกตัวเองว่าสิ่งนี้เป็นไปตามแพลนแล้วนะ ในขณะที่หัวใจฉันบอกว่า “เฮ้! เธอมีปัญหาแล้วล่ะ” ฉันใส่เสียงนี้เอาไว้ในตู้ และเอาความคิดควบคุมมันเอาไว้ ฉันคิดว่าถ้าฉันพยายามมากพอจะทำให้ทุกสิ่งเวิร์ค มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่สิ่งที่ฉันได้รับคือ ทั้งกาย อารมณ์ จิตวิญญาณของฉันมันเหือดแห้งมาก ฉันกลายมาเป็นคนที่ขึ้นอยู่กับแผนในชีวิต ฉันไม่ไปเจอเพื่อน ไม่ไปเที่ยวไหน ไม่เจอครอบครัว ไม่เจอใครใหม่ๆ และฉันไม่อยากทำงานกับแพชชั่นของตัวเอง ฉันมัวแต่หาทางซ่อมสิ่งที่ไม่ใช่ของชีวิตฉัน ความตลกก็คือในขณะที่คุณกำลังพยายามทำให้แผนชีวิตของคุณเวิร์ค แล้วคุณก็ต้องฝืดมากๆ นั่นน่ะ คุณเริ่มจะคิดแล้วว่า “แล้วทำไมฉันต้องมีแผนนั้นตั้งแต่แรกนะ” ฉันเริ่มลืมว่าทำไมฉันถึงอยากเป็นนักเขียน […]




Love, Relationship

ใครสักคนที่เป็นความสบายใจ และไม่ทำให้อึดอัด

ความสบายใจ

เมื่อเราโตขึ้น เราอาจจะไม่ได้อยากได้ความสัมพันธ์ที่หวือหวาหรือตื่นเต้น แต่เราอาจต้องการแค่ความสัมพันธ์ที่เรียบง่าย เงียบสงบ และ สบายใจเท่านั้นเอง

ความสัมพันธ์ที่มาพร้อมความสบายใจช่วยเติมเต็มความสุขเราได้จริงๆ นะ เคยได้ยินประโยคที่ว่า “ถึงเราจะมีสเปคสูงขนาดไหน แต่สุดท้ายเราก็คงเลือกคนที่ทำให้เราสบายใจ และ ปลอดภัยกับใจอยู่ดี” เพราะจริงๆ แล้วถ้าเราคบใครแล้วใจอึดอัด สักวันใจเราก็จะทนไม่ไหวแล้วความสัมพันธ์นั้นคงต้องจบลง

เชื่อว่ามีปัจจัยหลายปัจจัยที่สามารถทำให้เราอึดอัดกับความสัมพันธ์แล้วกลับมาตั้งคำถามว่า สรุปคนนี้ใช่สำหรับเราจริงๆ มั้ย? จากการสอบถามผู้หญิงในหลายๆ ช่วงวัย ปัจจัยหลักๆ คือ ความหึงหวง ไม่เคารพพื้นที่ส่วนตัว จ้องแต่จับผิด พยายามควบคุมชีวิตอีกฝ่าย ไม่ใส่ใจหรือให้ความสำคัญ  อยู่ด้วยกันแล้วมีแต่ความเหนื่อย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยยิบย่อยอีกมากมายซึ่งแต่ละคู่ก็มีไม่เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ คือความรักถ้ามีคำว่า ฝืน เข้ามาเกี่ยว มักจะไม่มีความสุข

อย่างเคสนี้เป็นเรื่องสาวคนหนึ่งที่เธอต้องเลิกกับแฟนเพราะความหึงหวง และมีอีกหลายอย่างที่ทำให้ใจเธออึดอัด … ย้อนกลับไปตอนเธอเป็นวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่หลายๆ คนก็อยากออกไปเที่ยวกับเพื่อน อยากสนุกออกไปใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่นซึ่งเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น  “ตัวเราได้แต่มองเพื่อนไปเที่ยวกัน แล้วต้องอยู่กับเขา เพราะเขาไม่ให้ไป” เธอกล่าว นอกจากจะไม่ให้ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วประเด็นที่เธอรู้สึกไม่เข้าใจเลยคือการหึงหวงเพื่อนสนิทของเธอด้วย ซึ่งเพื่อนของเธอเป็น LGBT “เขากังวลมาก ว่าเพื่อนเป็นกะเทยจริงหรอ แล้วเขาก็บอกว่าทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นเราไปเที่ยวกับเพื่อน เขาห้ามเรามีเพื่อนผู้ชายทั้งๆ ที่เราก็ไม่เคยห้ามเขามีเพื่อนผู้หญิงนะ เราว่ามันต่างกันระหว่างคำว่าเป็นห่วง กับ ไม่ไว้ใจ” เธอกล่าว  สิ่งเหล่านี้จึงเป็นบ่อเกิดความอึดอัดในใจแต่เธอบอกว่าตอนนั้นรักเขามากเลยคิดว่าเราสามารถทนต่อไปได้ อีกอย่างเพราะเขาเป็นแฟนคนแรกด้วยเลยไม่อยากเสียไป

นอกเหนือจากความอึดอัดใจข้างต้นแล้วเธอเล่าว่าเขาบังคับเธอเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตัวด้วย “เขาห้ามเราใส่เสื้อแขนกุด ถ้าใส่กางเกงต้องยาวถึงตาตุ่มเท่านั้น ตอนนั้นต้องแต่งตัวเรียบร้อยมากๆ ทั้งๆ ที่ความเป็นผู้หญิงเราก็อยากแต่งตัวสวยๆ บ้าง เอาตรงๆ เหมือนเขาไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเราสวย” เธอบอกว่าตอนนั้นก็ทำตามที่เขาบอกเพราะก็อยากอยู่กับเขาและไม่อยากมีปัญหาด้วย “เวลาเราจะไปไหน ใส่ชุดอะไรต้องถ่ายให้ดู ต้องรายงานตลอด ความจริงเราอึดอัดมากนะ แต่ก็ไม่อยากมีปัญหา” นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องเวลาที่เธอบอกว่าต้องแบ่งให้เขาเป็นส่วนใหญ่ แทบไม่มีเวลาให้ตัวเองหรือเพื่อนเลย แต่เธอก็ฝืนมาเรื่อยๆ จนคบกันได้ 3 ปี ความอึดอัดในใจเมื่อมันสะสมกันไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ทนไม่ไหว แล้วก็ต้องเลิกลากันไป  เธอบอกว่าพอตอนนี้มองย้อนกลับไปก็คิดถึงตัวเองในตอนนั้น “ทำไมตอนนั้นเราต้องสละตัวเองขนาดนั้น” 

 จนเวลาผ่านไป ในที่สุดเธอก็ได้เจอกับผู้ชายที่ให้ความสบายใจและได้คบกันมายาวๆ “มันไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวลเกี่ยวกับเขาเลย เขาเอาใจใส่เสมอต้นเสมอปลาย  เราคุยกันได้ทุกเรื่องแล้วเราก็เป็นได้ตัวของตัวเองด้วย เป็นความรักที่ไปแบบเรียบๆ เรื่อยๆ แต่เราไม่เคยเบื่อกัน อย่างเราเหนื่อยจากการทำงานกลับมาก็ระบายให้เขาฟัง กอดเขา ความเหนื่อยความเครียดมันลดลง เป็นพลังบวกให้กัน ทำให้เรารู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้เจอเขา” เธอบอกว่าแม้ผู้ชายคนนี้จะไม่ใช่สเปคของเธอในตอนแรก แต่เขาก็แสดงความจริงใจ และสามารถมอบความสบายใจให้เธอได้ สิ่งเหล่านี้มันก็เพียงพอแล้วจริงๆ 

ถ้าคุณได้เจอกับคนที่ทำให้คุณสบายใจ เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ก็อยากให้รักษาเขาไว้ หรือถ้ามีปัญหาอะไรก็อยากให้ลองพูด และปรับกันจนเจอตรงกลาง เพราะถ้าเก็บเอาไว้ฝ่ายเดียวหรือเลือกที่จะเงียบ มันก็จะทำให้ความอึดอัดนั้นเก็บไว้ไม่ไหวและระเบิดออกมาในที่สุด และแนะนำให้อ่าน 32 คำแนะนำเด็ดๆ ให้คุณมีความสัมพันธ์เฮลธ์ตี้ที่สุด! เพื่อนำมาปรับใช้ เราเชื่อว่าหากมีความรักความเข้าใจและความสบายใจก็จะทำให้ความสัมพันธ์นั้นยืนยาวนานแน่นอน


อ่านบทความอื่นๆ ที่:

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']