มีหลายครั้งที่ใจมันหล่น เพราะความคิดฟุ้งซ่านของเราเองล้วนๆ ทั้งที่เอาเข้าใจจริงๆ เรื่องมันอาจไม่มีอะไรเลยก็ได้ หลังจากผ่านประสบการณ์ไม่ค่อยดีในช่วงปีที่ผ่านมา เราเลยลองฝึกพูดกับตัวเองแบบใหม่แล้วรู้สึกว่าดีขึ้นเยอะเลย สาวคลีโออยากให้ใจใสๆ ลอง 7 คำพูดดึงสติ นี้ดูนะ
7 คำพูดดึงสติ ที่คลีโออยากให้ลองพูดกับตัวเอง
- “เราคิดไปเองว่าเขาไม่ชอบเราหรือเปล่า?”
เวลาที่ไปเริ่มทำงานใหม่ หรือเข้าสังคมใหม่ๆ ก็เป็นไปได้ว่าเซนส์ที่เห็นจะบอกว่าคนนั้นนิสัยดี คนนี้หยิ่ง คนนู้นดูไม่ชอบเราจัง ทั้งหมดนี้ทางวิทยาศาสตร์เขาเรียกว่าการอ่านใจคนอื่นซึ่งเป็นหน้าที่หนึ่งในการรับรู้พฤติกรรมของมนุษย์ในสมอง เช่น เวลาเป็นเด็กใหม่ในออฟฟิศ เราจะคิดเองว่าพี่คนนั้นเขาไม่พูดกับเราเลย แถมเหล่ตามองด้วย เกลียดเราแน่ๆ แต่เราไม่มีทางรู้ว่าก่อนหน้านี้พี่เขาอาจเจอด่ามา มีเรื่องไม่สบายใจ หรือเขาแค่ไม่ทันมองเราอยู่แค่นั้นเลย ดังนั้นไม่ต้องคิดแทนคนอื่น กลับมาที่โฟกัสของเราดีกว่า
- “อะไรที่เวิร์คกับคนอื่น อาจไม่เวิร์คกับเรา”
บางทีเราอยากเป็นแบบคนที่ประสบความสำเร็จ ลองทำแบบเขาบ้าง ทำไมเราถึงไปไม่ได้อย่างเขา อย่าเพิ่งโทษตัวเองว่าเห่ยจัง ไม่ได้เรื่อง ไม่เก่ง เพราะบางอย่างเกิดขึ้นมาเพื่อคนบางคน ถูกจริตของเขา เวลาที่ใช่ของเขา แต่ไม่ฟิตกับเรา ไม่ควรตัดสินตัวเองในทางที่ไม่ดีไปก่อน
- “ไม่มีสูตรความสำเร็จทางลัดที่ใช้ได้กับทุกอย่าง”
มีกูรูแนะนำมาก็เยอะ ไปเรียนกับโค้ชมาก็มาก แต่ทำไมเราถึงยังรู้สึกว่าไม่เจอทางที่เป็นของตัวเอง เพราะว่าไม่มีใครบอกวิธีความสำเร็จได้ ถ้าเราไม่ลองทำดูก่อน หลายครั้งที่เราเครียดแล้วมีคนบอกฝึกสมาธิสิ แต่ลองเท่าไหร่ก็ไม่เห็นทางสว่าง เลยต้องนั่งๆๆ หาวิธีของตัวเองไปเรื่อยๆ แล้วกลับมายอมรับว่าบางเรื่องใจร้อนไม่ได้เลย
- “ถ้าไม่ไหว หาผู้เชี่ยวชาญเถอะ”
บางครั้งที่ใจดิ่งมาก มีปัญหาที่ซ่อนอยู่ในเงามานานหลายปี บอกกับเพื่อนหรือคนใกล้ตัว เขาก็มองว่าเรื่องแค่นี้เอง ทำไมถึงจะป่วยล่ะ เห็นร่าเริงดีแต่ทำไมถึงคิดว่าตัวเองเป็นซึมเศร้า คิดไปเองหรือเปล่า ถ้าคิดว่าในใจหนักมืดมนไม่เห็นทางออก อย่ารอให้เกินแก้ การไปหาหมอหรือกินยาก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกแล้วในยุคนี้
- “หาอะไรกินกันเถอะ”
นึกถึงเวลาดูซีรีส์ เวลาที่เจอเรื่องเครียดเมื่อไหร่ ตัวละครก็จะไปหาอะไรกินฉ่ำๆ ชนแก้วกันหน่อย หรือวันที่เจอศึกหนักในที่ทำงาน น้องที่นั่งข้างๆ หันมาบอกว่าพี่อย่าลืมหาขนมหวานๆ กินหน่อยนะ ลองไปทำดูแล้วรู้สึกเลยว่าพอมีอาหารเข้าร่างบ้าง เหมือนเราทนลงโทษตัวเองให้อยู่กับความเครียดและกินอะไรไม่ลงทั้งวันมาได้ยังไง
- “ขอเดินไปเรื่อยๆ ให้ลมตีหน้าเล่น”
ช่วงที่เจองานที่เครียดหนักมาก ไม่รู้จะหาทางออกทางไหน กลับมาถึงบ้าน วางกระเป๋าแล้วออกไปเดินๆๆ รับลม หรือเสาร์อาทิตย์จุดหมายที่คิดถึงคือสวนโล่งๆ ขอไปเดินมองฟ้า มองต้นไม้ เดินโง่ๆ ไม่คิดอะไรเลย ไม่ได้อยากได้คำตอบให้ชีวิต แต่อยากอยู่กับลมหายใจตัวเองและก้าวเท้าไปทีละก้าวแค่นั้นเอง
- “ถ้าจะไม่โอเคบ้างก็เป็นแค่อีกวันหนึ่ง”
ชีวิตบางครั้งก็ไม่ได้มีแต่ขึ้นและลง บางวันลงแล้วยังเจอเรื่องอื่นมาทับ จำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าลิฟท์ กดอ่านข้อความด่าจากหัวหน้าที่ไม่เคยชมเราเลย หลังจากนั่งทำงานหนักมาทั้งวัน วันนั้นเราถามตัวเองว่าจะรู้สึกแย่ตามที่เขาว่าหรือเราจะปล่อยวาง แล้วเดินหน้าต่อดี โชคดีว่าวันนั้นเราแบกมามากพอ จนรู้ว่าก็แค่เป็นอีกวันที่ไม่ใช่ของเรา แต่โลกก็ยังไม่แตกสักหน่อย ช่างมันเถอะ!
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO