อย่ารีบตัดสินใจแต่งงาน ถ้ายังไม่ได้ทำเรื่องพวกนี้ – ประสบการณ์การจริงจากสาววัย 22 ที่เลิกกับคู่หมั้น ก่อนจะจัดงานแต่ง
คนในฝัน กลายเป็นฝันร้ายในชีวิตได้เลยนะ ถ้าไม่เปิดใจคุยกันให้เคลียร์ก่อนแต่งงาน Saag Jaan สาวน้อยวัย 22 ปี จากแคลิฟอร์เนีย เคยหมั้นหมายกับอดีตคนรักตั้งแต่อายุ 19 แต่ความสัมพันธ์ก็จบลงโดยไม่มีการแต่งงาน
เธอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวเรื่องความสัมพันธ์กับสาวๆ ทั่วโลกผ่าน Twitter ใน topic ‘อย่าแต่งงาน ก่อนที่จะ…’ 20 ข้อ เตือนใจของเธอกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก คลีโอหยิบมาฝาก พร้อมเสริมคำอธิบายเพิ่มเติมให้เห็นภาพมากขึ้น ช่วยให้คนที่กำลังมีโลกเป็นสีชมพู ลองคิดดูซิว่า เรากับแฟนคุยกันกว้างและลึกแค่ไหน โดยเฉพาะคนที่กำลังจะแต่งงาน คุยกันให้ชัดๆ ไปเลย เพราะชีวิตคู่ไม่จุดจบของความสัมพันธ์ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตจริงนะทุกคน
นี่คือ 20 ข้อเตือนใจ อย่าแต่งงาน ก่อนที่จะ..
1. คุยกันเรื่องหนี้สิน ใครต้องรับผิดชอบอะไร จ่ายอะไรไปอีกกี่เดือน กี่ปี มีภาระผูกพันกับหนี้สินที่บ้านอะไร ยังไง แจกแจงให้ละเอียด
2. ยินยอมพร้อมใจแบบสุดหัวใจที่จะภักดีแก่กันและกัน อย่ามามีคำว่า ‘ไม่แน่ใจ’ ‘ถ้าเกิดว่า’ ‘ยังไม่ใช่ตอนนี้’ เกิดขึ้นในใจ เพราะการแต่งงานคือต้องมาทั้งตัวและหัวใจ ไม่งั้นคือไม่ต้องแต่ง
3. ตกลงกันเรื่องลูก อยากมีไหม มีกี่คน แล้วมีเมื่อไร ถ้ามีลูกไม่ได้โอเคกับการรับอุปการะเด็กไหม ฯลฯ
4. คุยกันเรื่องโรคติดต่อต่างๆ พบแพทย์ เช็คร่างกาย คุยกันเรื่องผลตรวจ และยังคงต้องตรวจเช็กร่างกายอยู่เสมอแม้จะแต่งงานแล้วก็ตาม
5. คุยกันเรื่องแผนชีวิต อีก 5 ปี 10 ปี จะเป็นยังไง มองอาชีพการงานไว้แบบไหน อยากเรียนต่อไหม ย้ายที่อยู่ได้หรือเปล่า
6. ความเชื่อทางศาสนา เปิดใจเรื่องการเติบโตทางจิตวิญญาณมากแค่ไหน มีแก่นความเชื่อเรื่องชีวิตไปในทิศทางเดียวกันหรือเปล่า เรื่องนี้เหมือนไม่สำคัญ แต่จริงๆ มันสำคัญมากนะ
7. คุยกันเรื่องการจัดการอารมณ์ ทั้งคู่มีปัญหาเรื่องโมโหเกรี้ยวกราดไหม มีวิธีการบำบัด หรือแก้ไขตัวเองยังไง เรื่องการจัดการอารมณ์สำคัญมาก เพราะจะบั่นทอนความสัมพันธ์ในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อมีลูก
8. สังเกตว่าพลังงานของเราและแฟนไปด้วยกันได้ไหม ต้องเพิ่ม ต้องลดยังไง สามารถปรับให้ไปด้วยกันได้ไหม ยอมรับความต่างได้แค่ไหน
9. ตกลงกันเรื่องสไตล์การแต่งตัว งงมะ แค่การแต่งตัวเนี่ยนะ เรื่องเล็กน้อยนี่แหละ จู่ๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่เกินแก้ไปเลย คุยกันหน่อยว่า รับสไตล์ของกันและกันได้แค่ไหน อะไรที่แต่งแล้วทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจ แล้วยอมให้กัน หรือปรับเข้าหากันได้ไหม
10. เปิดใจเรื่องรสนิยมทางเพศ เซ็กส์แบบไหนที่ทั้งคู่สบายใจ พอใจ และมีความสุข
11. แจกแจงเรื่องค่าใช้จ่าย ใครต้องรับผิดชอบเรื่องอะไร ใครจ่ายตรงไหน ต้องดูแลพ่อแม่ไหม แบ่งเงินออมยังไง
12. ทำความเข้าใจเรื่องความต่างของช่วงวัย ถ้าอีกคนหนึ่งอายุน้อยกว่าอีกฝ่ายพอสมควร ฝ่ายที่อายุมากกว่ายอมรับได้ไหม ถ้าจะปล่อยให้คู่เติบโตโดยไม่ใช้ความเป็นผู้ใหญ่กว่ากดดันหรือบังคับเรื่องการใช้ชีวิต
13. ตกลงเรื่องการรักษาระยะห่างของเพื่อนเพศตรงข้าม เราและคู่ยอมให้มิตรภาพของอีกฝ่ายกับเพื่อนเพศตรงข้ามไปได้ไกลแค่ไหน ออกไปทำกิจกรรมด้วยกันสองคนได้ไหม แตะเนื้อต้องตัวกันได้แค่ไหน มันไม่ใช่การไม่ไว้ใจกัน แต่เป็นการตั้งข้อตกลงร่วมกันเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย เชื่อเถอะว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีเซอร์ไพรส์ดีที่สุด
14. คุยกันเรื่องการใช้โชเชียลมีเดีย เชื่อไหมว่าหลายคู่ไปกันไม่รอดเพราะความเห็นไม่ตรงกันเรื่องนี้ บางคนชอบเป็นส่วนตัว แต่บางคนชอบโพสต์ทุกเรื่อง ตกลงกันให้ดี ไม่อย่างนั้นจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัด
15. แชร์กันเรื่องเงินออม ทั้งคู่มีรายรับเท่าไร เก็บเงินร่วมกันไหม เก็บเดือนละเท่าไร รายรับมั่นคงแค่ไหน มีแผนการซื้อบ้าน ซื้อคอนโดไหม ถ้ายังซื้อตอนนี้ไม่ได้
16. คุยกันเรื่องการนอกใจ ปัญหา สิ่งที่จะทำให้เกิดการเลิกรา
17. ทำความเข้าใจเรื่องวิธีการพูดคุยกัน คำพูดแบบไหนถือว่าเป็นการทำร้ายจิตใจของอีกฝ่าย หรือจะมีแนวโน้มการทำร้ายร่างกายไหม ถ้าจำเป็น ต้องขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพก็ต้องทำ
18. คุยกันเรื่องเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น เกิดอุบัติเหตุ พิการ เจ็บป่วย หรืออีกคนต้องจากไปเร็วกว่าที่คิด อีกคนควรมีแผนรับมือยังไง
19. ทำความเข้าใจว่า ความรัก ไม่ใช่สิ่งที่รักษาความสัมพันธ์ไว้ แต่ความทุ่มเทเพื่อความรัก แม้จะมีช่วงขาลง จะช่วยรักษาความสัมพันธ์ไว้
20. สุดท้าย Saag Jaan บอกว่า เธออยากให้ทุกคนเห็นว่า เธอไม่ได้พูดถึงเรื่องการศึกษา ครอบครัว เชื้อชาติ หรืออาชีพการงาน เพราะเธอเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญในระยะยาว เพราะไม่ว่าจะมีภูมิหลังแบบไหน ถ้าเป็นคนโอเคก็คือเป็นคนโอเค โดยไม่เกี่ยวกับปัจจัยที่กล่าวมา แต่ถ้าคู่ไหนรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้สำคัญต่อชีวิตคู่ ก็ต้องเปิดใจกันให้เคลียร์ด้วยนะ
Credit: MetroUK