เราถูกสอนกันมาตั้งแต่เด็กว่าให้รู้จักพูด “ขอโทษ” ทั้งที่บางทีเราอาจไม่ใช่คนเริ่มทำผิดก่อนก็ได้ แค่ขอโทษเพื่อให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี ทุกวันนี้ในชีวิตการทำงานหรือสังคมที่อยู่ ความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นบางครั้งก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายเซนซิทีฟมากไปมั้ย หรือเราทำอะไรให้เขาไม่พอใจเหรอ ลึกๆ รู้สึกว่าที่เราพูดและแสดงออกไปสมเหตุสมผลแล้วนะ แต่จะปล่อยให้อีกคนโกรธ เราเองกลับรู้สึกไม่สบายใจ เพราะเป็นคนที่เราแคร์มากจริงๆ การขอโทษแบบที่ไม่ได้รู้สึกผิดกลายเป็นสิ่งที่ต้องยอมทำ สงครามทางอารมณ์ก็ไม่เกิดต่อ
เพราะอีกฝั่งของคำขอโทษคืออีโก้และศักดิ์ศรีที่เรายึดไว้ว่าอะไรไม่ถูกก็ไม่ควรก้มหัวให้ใคร แต่ความเป็นจริงยากนะที่เราจะไม่ยอมขอโทษพ่อแม่ก่อน ขอโทษแฟน ขอโทษเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงาน นั่นแปลว่าความไม่สบายใจจะกัดกินเราจนทำอย่างอื่นต่อไม่ได้ เหมือนมีอะไรมาฉุดให้ทำงานไม่ได้ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ดังนั้นการขอโทษเนี่ยวัดได้เลยว่าเราให้คุณค่ากับความสัมพันธ์กับคนนั้นแค่ไหน เราจะใช้การขอโทษเป็นสะพานไปสู่การคลี่คลายปัญหา และให้โอกาสกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง เป็นการฝึกสร้างความสงบ อย่าเหนื่อยฝืนอะไรไปมากกว่านี้เลย และการขอโทษก็ไม่ใช่เกม ถ้าพูดคือแพ้ขนาดนั้นหรอก ยกเว้นว่าเราต้องพูดกับคนไม่คู่ควรเท่านั้นเอง
มีเพื่อนเออีคนหนึ่งโทรมาปรึกษาบอกว่าน้องที่ทำงานด้วยต่อว่าเรื่องที่เธอลืมบอกข้อความสำคัญของลูกค้า ซึ่งตอนนั้นเธอเองเจองานรุมเร้ามาก คิดว่าไม่เป็นไรหรอกจนงานนั้นมีความผิดพลาดเกิดขึ้น เพื่อนอ่านบทสนทนาให้ฟังว่าเธอพยายามอธิบายว่าตัวเองมีงานเยอะมาก แต่น้องก็ย้ำต่อว่าครั้งหน้าอย่าให้เกิดแบบนี้อีกนะคะ เพื่อนคนนี้รู้สึกไม่พอใจที่โดนน้องต่อว่ากลับมาแบบนี้ เราเลยบอกสั้นๆ ไปว่าที่ฟังมาทั้งหมด เธอลืมขอโทษน้องไปหรือเปล่า เรื่องที่เธองานเยอะไม่ใช่ปัญหาของน้องสักหน่อย แต่เธอก็ยังคิดว่าเธอไม่ผิด น้องควรจะเข้าใจสถานการณ์ของเธอบ้าง เธอไม่จำเป็นต้องขอโทษ ตั้งแต่นั้นเธอเลิกสนิทกับน้องคนนี้ไปเลย
สิ่งที่เราเรียนรู้คือบางเรื่องไม่จำเป็นต้องแก้ตัว เพราะยิ่งพูด ยิ่งดูไม่จริงใจ ดูเป็นคนไม่ยอมรับความจริง จักรวาลไม่ได้หมุนรอบตัวเราตลอดเวลา แค่ขอโทษคำเดียวอาจจะจบแบบไม่ต้องติดใจอะไรอีก แล้วยังตอกย้ำว่าถ้าไม่อยากต้องขอโทษใครแบบนี้ วันหลังเราก็ไม่ควรผิดพลาดซ้ำสองอีกนะ
การขอโทษอาจไม่ใช่เพื่อสำนึกไปถึงต้นตอความผิดว่าใครทำกันแน่ แต่เราอาจขอโทษเพื่อไม่อยากทำร้ายจิตใจของคนที่เราแคร์ ความสัมพันธ์ที่ยังเหลืออยู่มีค่ามากกว่าความถูกผิด แต่ก็ไม่ต้องขอโทษไปเรื่อย มากเกินไปจนรู้สึกตัวเองไม่มีคุณค่า หาบาลานซ์ของการคบกันให้เจอและรักษาไว้ดีกว่า