บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน
เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้
ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา
และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ
เพราะถ้าเราเจอคนที่เห็นคุณค่าของเราจริงๆ เขาจะดักความรู้สึกเราทัน ใจเขาจะมาเหนือใจเรา เขาเป็นธรรมชาติกับเราแบบที่เราไม่ต้องคิดมากเลย เราจะไม่ต้องท็อกซิกถามตัวเองอยู่ได้ทุกวันๆ เรียกว่าไม่มีอะไรต้องลุ้น แล้วเราก็จะมีแรงใจใช้ชีวิตให้เต็มในความเป็นเรา เราจะโพสิทีฟได้สม่ำเสมอเลย
เราเลยกลับมาที่ “คุณค่าของเรา” กันดีกว่า ในแต่ละวันปรับใจให้ใสเบา ให้ความโพสิทีฟไหลรินเข้ามาในชีวิต ความโพสิทีฟคือพลังงานที่จะพัดคุณค่าของเราเข้ามา เรียกว่าตื่นเช้ามาอาจตาสว่างเลยก็ได้ ถ้าเราฝึกให้ใจโพสิทีฟได้เสมอๆ เราจะเห็นคุณค่าของเราชัดมาก แล้วทีนี้ล่ะ การกระทำอะไรของเขา เราจะเห็นเลยว่าเขาก็ไม่ได้ให้คุณค่าเรานี่นา เราจะเลิกหาข้ออ้างให้เขา แล้วมองไปที่ความจริงที่เขาเป็น
แล้วอยู่ดีๆ เราก็จะเดินออกมาจากความสัมพันธ์นั้น อาจจะช็อคนะที่เดินแบบไม่อยากพูดอะไรกับเขามากด้วย มันเหมือน “พอเถอะ” “ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว” “ฉันไม่ยอมให้เธอทำกับฉันแบบนี้อีกแล้ว” “ฉันเบื่อที่จะต้องมาเข้าใจเธอ และเบื่อที่จะต้องบอกตัวเองว่าเธอดีโน่นนี่ เพื่อหาเหตุผลให้อยู่กับเธอต่อไป”
และถ้าคุณค่าในตัวเรายิ่งงอกเงยขึ้นเรื่อยๆ เรามีไฟสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ มีความรู้สึกดีให้คนรอบๆ ตัว เราชอบตัวเองมากขึ้น เราเอนจอยที่จะคอยปรับพลังโพสิทีฟให้ตัวเอง อะไรแบบนี้จะยิ่งทำให้เราตาสว่างหนักๆ เลย แล้วจะเป็นเหมือนเกราะแก้วที่กันพลังงานที่ไม่ใช่ให้เข้ามาไม่ได้ เราจะจอยกับตัวเองมากแบบว่าต้องบอกกับตัวเองว่า “โหวว ความสุขมันเป็นแบบนี้นี่เอง”
อย่าคิดว่าเราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีใครนะ อย่าคิดว่าใครเริ่ดกว่าเราด้วย เราสร้างทุกสิ่งเองได้ อยู่ด้วยตัวเองเองได้ ใครรักเราไม่พอกับหัวใจรักของเรา ไม่ต้องเอา เดินออกมารักตัวเองนี่ล่ะ แล้วภายในชั่วข้ามคืน พลังงานดีๆ จากทุกทิศทุกทาง จะพัดมาหาเราทันทีเลย
บอกเขาว่า “พอเถอะ” ไปเถอะนะ
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่ สาวแกร่งไม่ใช่แค่ต้องเข้มแข็ง แต่ต้องมี่จุดยืนที่แข็งแกร่ง