ในภาวะโรคระบาดครั้งใหญ่ ชีวิตเราทุกคนก็ยังต้องดำเนินต่อไป อย่างปลอดภัยให้ได้ดีที่สุด คู่รักหลายคู่ต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ว่าจะแยกกันอยู่ไปสักพัก หรือ ย้ายมาอยู่ด้วยกัน ซะเลย แม้อย่างแรกจะไม่ง่าย เพราะต้องอดทนต่อสู้กับความคิดถึง ทุ่มความไว้ใจลงไปครั้งใหญ่ ส่วนอย่างหลังก็ไม่ใช่ทุกคนที่ทำแล้วรอด อาจไม่ถึงกับเลิกรา แต่ขอบอกเลยว่าแทบคลั่ง!
คุยให้เคลียร์ก่อนย้ายเข้าบ้าน
ต้องแน่ใจว่าเราสองคนต้องการสิ่งเดียวกันเพื่อจะย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกัน เพราะ ‘อยู่ด้วยกัน’ คือการ ‘อยู่ด้วยกัน’ เพื่อ ‘อยู่ด้วยกัน’ ต่อไป ไม่ใช่แค่แชร์พื้นที่ประหยัดค่าห้อง หรือจะได้ไม่ต้องโทรเรียกมาตอนดึกๆ
ต้องทั้งแชร์พื้นที่ แชร์ชีวิต แชร์เงิน แชร์เรื่องราว แชร์ข้าวของ แชร์เวลา ทุกอย่างคือการแชร์ และบางครั้งการแชร์ไม่ใช่การหารครึ่ง เพราะฉะนั้นคนทั้งคู่ก็ต้องพร้อมจะสละความเป็นเราบางอย่าง เจอกันคนละครึ่งทางที่ไม่ใช่ครึ่งเป๊ะ
รู้จักยอมกันบ้าง
ไปถามคู่รักคู่ไหนที่เขาอยู่ด้วยกันมานานๆ ก็ได้ อย่างแรกเลยต้องประณีประนอม ยอมกันบ้าง เพราะอีกฝ่ายจะไม่มีทางทำอะไรถูกใจเราได้ 100% จะต้องมีการไร้ระเบียบ ทำของพังเสียหาย เลือกอะไรไม่ถูกใจ ในตอนนั้นเราอาจจะปรี๊ดขึ้นมา แต่ถ้าสงบสติอารมณ์ลงได้ ถ้าไม่ใช่เรื่องจะเป็นจะตาย อย่าเสียเวลาเอามาเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางแฮปปี้
มันไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาอดทน แต่เป็นการยอมรับว่าทั้งเขาและเรามีส่วนที่ไม่เพอร์เฟ็ค อย่านับคะแนนเหมือนเล่นกีฬา เธอทำพลาดกี่ครั้ง ฉันพลาดกี่ครั้ง ใครมากกว่าต้องชดใช้ อย่าเอาชนะกันเขาคือคู่รัก ไม่ใช่คู่แข่งของเรา
คุยกันเยอะๆ
ลองนึกภาพคู่รักที่นั่งกินข้าวกันแล้วทั้งสองฝ่ายเอาแต่ใช้โทรศัพท์ ไม่ว่าจะทำอะไร ต่างกันเอาแต่ใช้เวลากับโลกอีกใบในอินเตอร์เนต อย่าว่าแต่เป็นคู่รักเลย เป็นรูมเมทกันคิดแล้วยังเศร้า มนุษย์ที่ใช้ชีวิตจริงอยู่ด้วยกัน ควรสื่อสารกันเยอะๆ เธอคิดอะไร เธอเป็นอะไร ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี แลกเปลี่ยน บอกเล่า ทำความเข้าใจ เพื่อทำให้โลกความเป็นจริงมันน่าอยู่
ไม่อย่างนั้นเราจะคบหาคนๆ นี้ไปทำไม ถ้าไม่ได้อยากจะแชร์ชีวิตกับเขา อยู่คนเดียวยังจะดีกว่า อยู่ด้วยกันแต่ไม่คุยกัน มันจะต้องมีวันกระทบกระทั่งกันอยู่ดี ถ้าไม่เคยคุยหรือทำความเข้าใจกันว่าอีกฝ่ายเป็นยังไงเลย ก็จะไม่พร้อมทำความเข้าใจอะไรทั้งนั้นเวลาที่รู้สึกว่าเขากำลังทำไม่ถูกใจ
อย่าปล่อยเบลอเรื่องเงิน
รองจากนอกใจ คนเลิกกันเพราะเรื่องเงินนี่แหละ เรามีเพื่อนบางคนที่ตอนคบกันมีอะไรก็จ่ายให้ พอถึงเวลามีปัญหากันก็ยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นใหญ่ ต่อว่าอีกฝ่ายว่าไม่เคยควักเงินออกมาจ่ายอะไรเลย ส่วนอีกฝ่ายก็เข้าใจว่าตอนนั้นเธอเต็มใจ เธอไม่เคยพูดอะไรเลย …ถ้าสิ่งนี้ยังไม่เกิดขึ้น ก็อย่าปล่อยให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด
ตกลงกันตั้งแต่แรก.. ว่าเราจะหารกันทุกอย่าง หรือเธอเต็มใจจะจ่ายอะไรบ้าง ฉันจ่ายอะไรไหวบ้าง หรือเราจะแบ่งเงินกองกลางกันทุกเดือน ถ้าขาดเหลือจริงๆ ก็ค่อยเติมเท่าๆ กัน หรือแบ่งกันเติม 60-40 เปอร์เซ็นต์ก็ว่าไป ไม่มีกฎตายตัวเลยทุกคู่มีรูปแบบของเรื่องเงินไม่เหมือนกัน แต่ขอให้ตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่แรก จะได้ไม่มานั่งเถียงกันทีหลัง
ให้เวลาส่วนตัวกับอีกฝ่าย และมีเวลาอยู่ด้วยกัน
แบ่งเวลาสำคัญมาก ในชีวิตของคนที่ทำงาน ไม่ว่าประจำหรือฟรีแลนซ์ก็จะมีช่วงเวลาที่แบ่งไปทำงาน และคนที่อยู่ด้วยกันก็จำเป็นจะต้องมีเวลาที่แชร์ให้กันบ้าง ที่สำคัญสุดๆ คือเวลาส่วนตัวที่ต่างฝ่ายจะไปทำอะไรที่ตัวเองอยากทำ อาจจะเป็นการนอนเล่นมือถือโง่ๆ อ่านหนังสือ ฝึกฝนอะไรต่างๆ นานา เป็นอีกอย่างที่ต้องตกลงกัน จะได้ไม่มาน้อยใจกันทีหลังว่าเธอไม่มีเวลาให้ฉันเลย หรือเธอไม่ให้เวลาฉันอยู่กับตัวเองบ้างเลย
สำหรับหลายคน การตัดสินใจจะย้ายมาอยู่กับคนรักมันมักจะหมายถึงว่าพวกเขาเริ่มคิดถึงอนาคตที่มีคนๆ นี้อยู่ด้วยแล้ว เป็นการทดลองเพื่อเอาไปประกอบการพิจารณาว่าไปต่อกันได้ไหม ไปต่อกันเลยดีไหม คนสองคนที่พร้อมจะแชร์ชีวิตไปด้วยกัน
สิ่งที่ต้องทำหนักๆ ก่อนคิดจะ ย้ายมาอยู่ด้วยกัน เลยคือต้องปรับตัว ไม่ใช่เปลี่ยนตัวเองเพื่อทำให้อีกฝ่ายพอใจ แค่อะไรที่จะทำให้อีกฝ่ายต้องลำบากใจอาจต้องลด ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไร เพราะไม่ว่าเราจะใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับใครก็ตาม การปรับตัวเป็นเรื่องแสนจะธรรมชาติ ชีวิตคู่มีอะไรให้เราต้องเรียนรู้ไปไม่มีวันจบสิ้น อย่าลืมว่าการย้ายมาอยู่ด้วยกันนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นแรกๆ ของความสัมพันธ์เท่านั้นเอง