ครอบครัวของเขา กำลังทำร้ายความรู้สึกเราอยู่ จะบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาก็พูดได้ไม่เต็มปาก แต่คนในครอบครัวที่ toxic นั้นมีอยู่จริงและมันมักจะส่งผลต่อมายังเขยหรือสะใภ้ที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ด้วย บางทีคนที่เติบโตมาในครอบครัวของตัวเองจะไม่ค่อยรู้หรอกว่าบางการกระทำทำให้คนอื่นรับไม่ไหว เพราะเคยชินกับการปฏิบัติแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก แล้วจะมาอ้างว่าก็เข้ามาครอบครัวนี้แล้วก็ต้องรับให้ได้น่ะมันไม่ได้ ความไม่สบายใจแก้ได้ก็ควรแก้ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องอดทน ความรักน่ะหรอ? ขอรักตัวเองก่อนแล้วกันนะ
เดี๋ยว! เรายังไม่ได้บอกนะว่าถ้าเข้ากันไม่ได้ ก็เลิกเถอะ เลิกเลย ลองปรับดูก่อนถ้ารู้สึกรักกันจริง อันดับแรกวิเคราะห์ตัวเองหัวจรดเท้าอย่างไม่เข้าข้าง เรื่องไหนถูกยืนหยัด เรื่องไหนผิดรับผิดชอบ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นลองหันไปมองดูว่าคนรักของเรายืนข้างเรารึเปล่า ‘ยืนข้าง’ ไม่ใช่ ‘เข้าข้าง’ เขามองเห็นทุกสิ่งตามที่มันเป็นจริงไหม คนแบบเขาหรือเธอคุ้มที่จะเสี่ยงเสียสุขภาพจิตรึเปล่า
เราไม่ได้ต้องเปิดศึกกับครอบครัวเขาหรอกนะ(ถ้าไม่จำเป็น) แต่ถ้าจะไปด้วยกันต่อเราต้องรู้จักรับมือกับความ toxic ในรูปแบบต่างๆ ที่จิตใจเรายังไปไหว การเอาคืนไม่ช่วยอะไร มีแต่จะทำให้สามีหรือภรรยาลำบากใจเพราะต้องอยู่ตรงกลาง ถ้าต้องสู้เอาตัวเองไปวางในพื้นที่ปลอดภัยด่วนๆ หลีกเลี่ยงการปะทะ ไม่ทำเพื่อการเอาชนะ ทำทุกอย่างเพื่อรักษาหัวใจ และถ้ารักษาความสัมพันธ์ไปด้วยได้ก็เป็นเรื่องที่ดี
ทุกคนผิดยกเว้นตัวเอง
ถ้ามีคนนิสัยอย่างนี้อย่าว่าแต่ในครอบครัวสามีหรือภรรยาเลย อยู่ในครอบครัวเราก็ไม่ไหวเหมือนกัน แต่มันจะมีคนแบบนี้อยู่ทุกที่ อย่างน้อยในชีวตต้องเคยเจอ ถ้ามาในรูปแบบความสัมพันธ์ฉันท์ครอบครัวก็ลำบากหน่อย คนแบบนี้จะทำอะไรตามใจตัวเองไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองผิด อาการหนักๆ ก็คือด่ากราดคนไปทั่ว หาข้ออ้างให้ตัวเอง พลิกลิ้นรัวๆ โกหกเพื่อให้ตัวเองรู้สึกสบายใจ ปัดความรับผิดชอบให้คนอื่นซะจบ!
ดีลยังไงถ้าเราเป็นผู้ได้รับมง ปัดมงออกสิ จะย่อรับหรอ? ครอบตัวเองด้วยลำแสงพิเศษ เมินเฉยไปซะ เลี่ยงได้เลี่ยงให้ไกล เราคงไปสอนคนที่เติบโตมาในแบบของเขาไม่ได้แล้ว เราเปลี่ยนใครไม่ได้ แต่อย่ารับโทษที่ตัวองไม่ได้ก่อ พิสูจน์ให้กับคนที่สำคัญเข้าใจว่าสิ่งที่เขาพูดมันไม่จริง
ดราม่าเก่ง
ราวกับว่าพี่เลี้ยงซินเดอเรลล่ามาเอง แต่ไม่ใช่นี่พี่สะใภ้ หรือน้องสะใภ้ต่างหาก เธอมักจะพร้อมรับบทเหยื่อ สร้างซีนได้จากอากาศ ไม่ว่าจะเรื่องไหนอะไรก็เอามาเป็นพิษเป็นภัยต่อใจเธอได้ทั้งนั้น คิดว่าทุกคนรอบตัวไม่ชอบตัวเองและทุกอย่างที่ negative มันมุ่งเข้าสู่ตัวเอง และคนทำคือใคร คือเรา!
ที่บอกว่าพี่หรือน้องสะใภ้น่ะแค่ยกตัวอย่าง อาการนี้สิงอยู่ในร่างได้แทบทุกคน ส่วนเราผู้กลายเป็นคนกระทำเฉย ก็ควรจะเฉยนั่นแหละ ไม่ต้องไปจอยละครเวทีกับเขา ทำใจให้สบายอย่าโมโหไปกับคาแรคเตอร์รางวัลออสการ์ ถ้ากลับบ้านได้ชวนคนรักกลับ แยกบ้านได้แยก ตัวเราติดต่อให้น้อยลง เซฟตัวเอง
ล้ำเส้นไปนิสสส
แหมนึกว่าดูฟุตบอล เป็นคนในครอบครัวก็ไม่ได้หมายความว่าจะสั่ง วิจารณ์ หรือว่าถามได้ทุกเรื่อง ทั้งครอบครัวเราและครอบครัวเขาด้วยนะ โดยเฉพาะเรื่องลูก เรื่องอะไรที่ล้ำเส้นในบ้านของเรา หรือแม้แต่บทบาทของตัวเราในฐานะของสามีหรือภรรยา เดินไปหยิบชอล์คแล้วขีดเส้นให้ชัดกว่าเดิม เผื่อจะไม่รู้ว่าเส้นอยู่ตรงไหน
แต่ก่อนจะขีดเส้น หันไปตกลงกันกับคนรักเราก่อน ว่าเออนี่ไม่โอเค เราเข้าใจตรงกันใช่ไหม ถ้าใช้ หยิบไม้บรรทัดโลด! ในกรณีที่อยู่บ้านเดียวกันกับครอบครัวอีกฝ่าย ต้องถามก่อนว่านี่บ้านใคร ถ้าบ้านเขาเราก็ต้องเคารพในกฎบางอย่าง แต่เขาก็ต้องเคารพเราในสิทธิส่วนบุคคลต่างๆ ความเป็นสามีภรรยา ความเป็นพ่อแม่ของหลานเขาด้วย ถ้าไม่ไหว ย้าย
จองแผงควบคุม
กรณีที่อยู่บ้านของอีกฝ่ายแล้วเจอว่า ต้องตื่นเวลานั้น ทำงานบ้าน ออกไปทำงาน ระหว่างทางรับคนทั้งบ้านด้วย คือบางอย่างถ้าสะดวกเป็นน้ำใจทำได้นะ ถ้าโอเคที่จะแบ่งเบาและไม่หนักหนาจนเกินไป ดูกำลังตัวเองด้วย แต่ถ้ากลายเป็นว่าตัวเรากำลังรู้สึกว่าอิหยัง เป็นโรบอต ทำตามคำสั่งของคนอื่นไปเรื่อยๆ หยุดแปป เราเป็นคนนะ
Say no! If you don’t feel so ปฏิเสธอย่างมีเหตุผล ไม่ว่าเหตุผลนั้นจะเป็นอะไร ทำให้รู้สึกว่าตัวเองได้รับความเคารพในฐานะของคนๆ หนึ่งหน่อย เรากำลังพูดถึงครอบครัวของอีกฝ่าย ดังนั้นเราไม่ใช่ลูกเขา เป็นแค่ลูกเขยหรือลูกสะใภ้ รับเท่าที่ไหว อะไรที่เกินไป บอกเขาดีๆ เลยว่าไม่สะดวกค่ะ แล้วหาทางแก้ปัญหาด้านอื่นๆ กันไป ถ้าเรามีจิตใจอยากช่วยเหลือ
จับผิดเก่ง
เห็นในละครเยอะ คนที่ว่างสุดๆ คือเหล่าพ่อแม่ของภรรยาและสามีนี่แหละ จับผิดเก่ง! อะไรไม่ผิดก็ผิด ทำให้เรารู้สึกด้อยค่า อันนั้นก็ไม่ดี อันนี้ก็ไม่โดนอีกแล้ว อะไรกันนะ งงนะ หรือเขาเป็นโค้ชเดอะสตาร์แฝงตัวมา เพราะก็วิจารณ์เก่งเหลือเกิน ไม่ว่าจะตัวเรา ที่บ้านเรา และบ้านเรา ไม่ไหว! พูดไม่คิด แล้วอ้างหวังดี
มองแรงสักที หงุดหงิด! แต่เราเปลี่ยนนิสัยเขาไม่ได้ ถ้าแค่รำคาญไม่อยากฟังก็ลดการพบเจอกัน เปลี่ยนเรื่องไป หรือโฟกัสอย่างอื่นซะ คนเราถ้าพูดไปได้เรื่อยๆ ก็แหมนับถืออยู่นะในความอึด แต่ให้กันไปทำความเข้าใจกับคนข้างๆ ให้ดี ยังอยู่ข้างกันใช่ไหม คำพูดอะไรก็ตามที่แค่มาทำร้าย ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ให้อย่าทะลุเข้าหูมา ท่องไว้ว่าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่คนพูดนี่ไม่แน่ใจ
เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
บางทีไม่ใช่แค่ครอบครัวนะ เจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานก็เป็น แต่ครอบครัวน่ะดันใกล้ชิดกว่าและมีผลต่อความรู้สึกไ้ด้มากกว่า ลาออกไม่ได้ง่ายๆ บางทีจะดีก็ดีใจหายเหมือนอยากได้อะไรจากเรา แต่พอเราเป็นฝ่ายขอความช่วยเหลือบ้าง โอ้โหหห ราวกับว่าเราไปขอแลกชีวิต
อย่าได้คาดหวัง ตั้งสติให้มั่น และถ้าต้องพึ่งพาใครสักคนจัดคนเหล่านี้เอาไว้ในอันดับหลังๆ ถ้าใจดีมีอะไรอยากช่วยเหลืออย่างไม่รอว่าจะขอให้ช่วยกลับก็ได้นะ แต่ถ้าเดือดร้อนให้นึกถึงเพื่อนหรือครอบครัวตัวเองแทน จะได้ไม่รู้สึกแย่
ยิ่งกว่าเลือกเกิดเป็นลูกพ่อแม่คู่ไหนไม่ได้ พอต้องไปเลือกสามีหรือภรรยา เราเลือกครอบครัวเขาไม่ได้ยิ่งกว่า ไม่ว่าจะมาในแพ็คเกจไหน ต้องลองดีลสักตั้ง เพราะไม่มีครอบครัวที่เพอร์เฟ็คหรอก ยิ่งไม่ได้โตมาด้วยกันแล้ว ยิ่งหนัก อย่างน้อยลองสแกนหาสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ในตัวพวกเขาเอาไว้ ในกรณีที่หากยากให้ไปสแกนสามีเราแทน และย้ำเลยว่าจะยืนข้างกันใช่ไหม ถ้าไม่ พูดตรงๆ จากใจนะ จะอยู่รออะไร วิ่งค่ะ!
เงินๆ ทองๆ
ฮือๆๆๆ ศึกโค่นบัลลังก์ยังไงก็ไม่รู้ ถ้าเกิดได้เข้าไปอยู่ในครอบครัวที่เรื่องเงินมาเป็นอันดับท้อปๆ มีการแบ่งฝ่ายในครอบครัว และพยายามขโมยซีนกับผู้ทรงอิทธิพลในครอบครัว เรื่องเงินที่ฟาดกันแม้แต่แค่ 300 บาท ลามไปจนถึงที่ดินเรือนหลายสิบล้าน ทำได้เพียงแค่นิ่งจริงๆ เรื่องนี้ถ้าไม่ถนัด ต้องเลี้ยงกลับไปหาครอบครัวเรา อย่าไปอยากได้อะไรเลย
อ่านเรื่องราวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand