‘Soft Launching’ เทรนด์เดทที่หลายคนมีประสบการณ์กับมัน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรากำลังอินสิ่งนี้ ไม่ต้องตั้งใจกระโดดเข้ากระแสหรอก แต่สังคมน่ะหล่อหลอมให้เรารู้สึกได้ว่าแบบนี้ดีกว่า
จากที่เมื่อก่อนถ้าคบกับใคร เราจะต้องตั้งหน้าตั้งตาอัพสเตตัสด่วนๆ ว่า in a relationship เราอยากจะบอกทุกคนว่า คบคนนี้อยู่ค่า หรือแม้แต่ดูๆ กันอยู่ คุยๆ กันอยู่ก็ต้องมี hint แหละน่า แต่พอคลุกคลีกับโซเชียลมีเดียสักพักเราเริ่มอยากจะเก็บเรื่องส่วนตัวเป็นความลับ
ความรักที่ดูลับๆ มันจะดีได้ยังไง?
ความลึกลับ เก็บงำ ซ่อนเร้น มันไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไร เราไม่ได้จะคบใครซ้อนใคร แต่แค่ไม่ได้อยากให้ใครมารู้อะไรเยอะแยะ มันไม่ใช่เรื่อง! หลังจากที่เกือบจะถูกครอบงำโดยโซเชียลมีเดียและอยากจะโพสต์ อยากจะบอกเล่า ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิต คนส่วนหนึ่งกลับมองหาพื้นที่ที่จะช่วยเซฟชีวิตส่วนตัวของพวกเขา โดยเฉพาะเรื่องความรัก
ยังไงน่ะหรอ? ไม่ว่าเราจะเริ่มเดทกันเมื่อไหร่ แต่จะไม่เปิดตัวชัดๆ จนกว่าจะพอใจอยากจะเปิด เราอาจจะโพสต์รูปต่างๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจบอกใบ้ด้วยซ้ำว่าไปที่ไหนทำอะไรกับใคร แม้ว่าจะมีบางเสี้ยวบางส่วนของคนๆ นั้นโผลในสตอรี่บ้างล่ะ เงาในรูปบ้างล่ะ แต่ไม่ tag ไม่เปิดเผยว่าคนๆ นั้นเป็นใครกัน
เราเจอคนๆ นี้ที่ไหน? อาจจะในแอปฯ เดท และคุยกันผ่านวิดีโอคอล เจอกันตามคาเฟ่และร้านอาหาร แต่ไม่ปุบปับคบกันเร็วเกินไป ไม่มีอยู่ๆ โพล่งขึ้นมาว่า “ตกลงนี่เราเป็นแฟนกันหรือยัง” มันจะซับซ้อนกว่านั้นหน่อย นี่เลยอาจเป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมเรายังไม่อยากจะเผลอเปิดตัวทั้งๆ ที่ยังไม่แน่ใจ
Lockdown เปลี่ยนโลกหาคู่ไปแล้ว
“โลกโซเชียลอาจเคยเป็นที่ๆ เราเปิดเผยทุกอย่าง แต่มันเปลี่ยนไปแล้ว” Sally Baker นักบำบัดอาวุโสและผู้เชี่ยวชาญการเดทบอก มันเห็นได้ชัดขึ้นหลังจากที่เกิดการล็อคดาวน์ครั้งใหญ่ของโลกได้ทำการปิดกั้นการจะมีโอกาสโรแมนติกในโลกความจริง คนโสดเลย “หาคู่ด้วยความคิดที่ต่างออกไปจากเดิม”
ก่อนจะล็อคดาวน์ เราเจอคนมากมาย ไม่ใช่เปลี่ยนใหม่ จนผู้คนอาจรู้สึกเบื่อหน่ายมันแบบไม่รู้ตัว เรียกว่าเอือมก็คงไม่ผิดนัก คนโสดเลยทำมันอย่างช้าลง ทำความรู้จักกันทางออนไลน์ก่อน ยังไม่ต้องรีบเจอกันก็ได้ เพราะถ้าไม่คลิกจะได้ไม่ต้องเสียเวลาและเสี่ยงออกไปพบกันตัวเป็นๆ และทำความรู้จักกันด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งมากขึ้น
คนเราจะเลือกที่จะเก็บคนที่คิดว่าอาจจะใช่ไว้ในใจก่อน ยังไม่ได้เปิดตัวมาก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นมาสงสารถ้าไปกันไม่รอด ในยุคที่โลกโซเชียล ไม่ได้มีแค่เพื่อน แต่ยังมีคนในครอบครัว แล้วไหนจะเพื่อนร่วมงานที่โพสต์อะไรก็รู้เท่าๆ กันทั้งหมด คนเลยไม่อยากจะออกตัวแรง ข่าวก็จะไม่กระจายเป็นวงกว้าง ไม่ต้องมานั่งกดดันกับเรื่องส่วนตัว
คนโสดปี 2021 นี้ต้องเผชิฐกับความเหงาลำพังอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แซลลี่บอกเอาไว้ว่าพวกเขามองหาคนที่จะใช่จริงๆ ไม่ได้มาเล่นๆ คบแก้เหงาแล้วผ่านไป “พวกเขากลัวว่ามันจะหลุดมือไปแล้วสุดท้ายก็ถูกทิ้งไว้เพื่อทำคลิปเลิกกันในติ๊กตอก”
บางทีโลกกำลังเปลี่ยนให้เราเป็นคนมีความลับกว่าที่เราเคยเป็น หรือเราอาจจะเห็นค่าหรือกลัวที่จะกระโจนลงไปในความสัมพันธ์เราเกินไป จริงๆ แล้วโพสต์หรือบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ น้อยก็ไม่ใช่เรื่องแย่ คนเราจะทำอะไรก็ได้แหละที่ทำให้ตัวเองรู้สึกสบายใจที่จะทำ(และไม่เดือดร้อนคนอื่นด้วย)
Credit : Glamour
อ่านเรื่องราวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand