อยากรู้มากว่าทำไม EMI JAY ถึงได้ฮิตเปรี้ยงปร้างได้ขนาดนี้ พอเปิดเข้าไปใน Pinterest ก็เจอวัยรุ่นฝรั่งใช้เต็มไปหมด ไม่ใช่แค่เมืองนอกนะ แต่เดี๋ยวนี้ตามไอจีก็เริ่มเห็นคนไทยซื้อมาใช้บ้างเหมือนกัน หนีบผมบ้าง หรือเอามาติดที่กระเป๋าบ้าง พอเข้าไปส่องในเว็บแบรนด์เขาก็ออกมาไม่ได้อีกเลย เข้าใจแล้วว่าทำไมคนถึงอยากได้ เพราะมันน่ารักจริง ๆ
ยิ่งช่วงนี้เทรนด์แฟชั่น 90s กำลังมา บอกเลยว่าแบรนด์นี้คือแบรนด์ที่ตอบโจทย์คนที่เลิฟแฟชั่นยุค 90 สีชมพูฮอตพิงค์ ไวบ์แบบวับรุ่นอเมริกันนิด ๆ กระโปรงเทนนิส เสื้อครอป ติดกิ๊บเก๋ ๆ บนหัว ถ้าใครชอบแนวนี้ เรามั่นใจว่าแบรนด์นี้ตอบโจทย์ที่สุด แบรนด์นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2009 จากวัยรุ่นวัย 14 สองคน Emily Matson และ Julianne Goldmark ซึ่งพวกเธอได้อินสไปร์มาจากความชอบของพวกเธอเองตอนเป็นวัยรุ่นนั่นแหละ
ด้วยความที่ Emily และ Julianne หลงใหลและชื่นชอบเครื่องประดับผมและแฟชั่นเป็นทุนเดิม พวกเธอเลยสร้าง EMI JAY ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์แฟชั่นยุค 90 ที่มีทั้งความเก๋ ความเรียบง่าย และใช้งานง่ายในเวลาเดียวกัน และภายในเวลาไม่กี่ปี พวกเธอก็ได้จับมือกับ Nordstrom, Bloomingdales, Whole Foods, The Honest Company, Stila Cosmetics, SJP Collection, ALO Yoga, Kate Somerville & Amazon ทำให้แบรนด์ของพวกเธอขยายตัวอย่างรวดเร็ว
และอีกหนึ่งจุดขายที่สำคัญคือ เซเลบและอินฟลูเอนเซอร์ระดับโลกที่ให้ความสนใจกับ EMI JAY ไม่ว่าจะเป็น Kim Kardashian, Jennifer Aniston, Gigi Hadid, Jessica Alba และคนดังอื่น ๆ อีกมากมายจนแบรนด์ได้กลายเป็น Favourite Item ของใครหลาย ๆ คนไปได้อย่างง่ายดาย ร่วมถึงเราด้วยเช่นกัน
20% ของกำไรที่บริษัทของพวกเธอรับจะถูกบริจาคเพื่อการกุศลทั้งหมด นับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์เมื่อปี 2009 โดยมุ่งไปที่โรงพยาบาลเด็กที่แอลเออย่าง Children’s Hospital Los Angeles (CHLA) เพื่อหวังว่าการบริจาคของแบรนด์จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างอนาคตที่ดีในด้านสุขภาพให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล
What to Shop
สินค้าหลัก ๆ ในแบรนด์จะแบ่งสินค้าออกเป็น 3 หมวดใหญ่ ก็คือ
Hair Accessories
ก็จะเป็นทุกอย่างที่ประดับผม กิ๊บติดผม ที่หนีบผม ผ้าคาดผม ที่คาดผม มีทั้งแบบใหญ่แบบเล็ก และที่สำคัญคือเราสามารถสั่งทำเองแบบ Customize ได้ด้วย! สามารถเลือกแบบ สี คำที่เราอยากติดลงไป รวมไปถึงสีเพชรที่เอามาทำตัวอักษร ซึ่งอันนี้ก็เป็นจุดขายของ EMI JAY เหมือนกัน
Hair Scrunchies
ใครที่อยากได้ความเรียบง่าย เขาก็มีสครันชี่ด้วยเหมือนกัน หรือที่รัดผมนั่นแหละ แต่ความเก๋ของสครันชี่คือความฟูฟ่อง ไม่ใช่ยางเส้น ๆ ที่เอาไว้รัดผมทั่วไป ซึ่งเขาก็จะแบ่งย้อยไปอีกตามวัสดุที่ใช้และก็สไตล์ที่ชอบ ทั้ง Faux Fur, Silk, Satin, Cotton, Velvet, Vegan และ Vintage เรียกได้ว่าครอบคลุมที่แบบที่ยางรัดผมจะมีเลยก็ว่าได้
Hair Ties
ส่วนใครที่ชอบความมินิมอลต้องลอง Hair Ties ได้เลย เป็นสายยางรัดผมสีสันสดใส แต่ก็ยังลงดีเทลไปอีกนะ เช่นสีพื้น พิมพ์ลาย หรือมีลูกเล่นหน่อย แต่ที่แน่ ๆ คือสวยทุกแบบ
ลองเข้าไปส่องกันได้ที่ https://www.emijay.com/? หรือจะลอง Custom กิ๊บเองก็น่าสนุกนะ