เป็นสาวฟรี สปิริตให้ได้แล้วจะมีความสุขมาก จะโบยบิน อะไรเข้ามาก็ไม่เครียดเท่าไหร่ ยอมรับและปล่อยวางได้ แล้วก็ลัลล้าจะตาย ลองอ่าน 18 แอตติจูดเป็นสาวฟรี สปิริตนี้ดูนะ
ปีที่ผ่านมาโลกส่งอะไรมาสอนเราเยอะเลย สอนเรื่องความสุข ความพอ และอารมณ์ที่สับสนในตัวเองของเรา เรากลัว ไขว่คว้า โหยหา เราอยากได้ทั้งความชิลล์และความสำเร็จ เรารู้ว่าต้องพักบ้าง แต่อีกใจก็รู้สึกอยากได้มือถือใหม่ อยากมีเงินเยอะๆ
ทั้งหมดนี้เลยมาทำให้สปิริตข้างในเราปั่นป่วน เหมือนที่มีคำสอนบอกว่า “ความสงบมาจากข้างใน อย่าไปหาอะไรจากข้างนอก” เราเลยต้องควรฝึกตัวเองให้สปิริตฟรีๆ เอาไว้ เพราะความสุขน่ะมาจากข้างใน ที่ไม่ใช่ข้างนอกแน่ๆ เมื่อเราฟรี เราจะมองทุกอย่างบวกได้ ไม่ว่ามันจะเป็นยังไงก็ตาม
แล้วความสุขก็ไม่ใช่การพยายามอยากได้อะไรมาครอบครอง ไม่ใช่เรื่องของข้าวของเงินทอง แต่เรานั่นล่ะกลับมาข้างในเป็นหรือเปล่า คลีโอขอเล่า 18 วิธีนี้ที่จะทำให้เรากลายเป็นสาวฟรี สปิริตเรียลๆ ได้อีกครั้งนะ
1. อยู่กับเวลาตอนนี้เถอะ
ถ้าโมเมนท์ไหนเรารู้สึกดีอยู่แล้ว ก็อยู่กับโมเมนท์นั้น อย่าพยายามคิดอะไรให้วนและเวียนหัวเลย เหมือนกับคำพูดจากเวย์น ไดเออร์ที่บอกว่า “ความสงบคือผลแห่งการที่เราฝึกใจเรา ให้อยู่กับชีวิตไปตามสิ่งที่เกิดขึ้น มากกว่าสิ่งที่เราคิดว่าเราควรจะทำ” ยอมรับสิ่งที่เข้ามาตามที่มันเป็น ให้มันเกิดขึ้นตามนั้น อยู่ แล้วข้างในเราจะสงบ ความสุขจะมาเอง
2. ปล่อยความหลังทิ้งไป
“สิ่งที่เกิดขึ้น ก็เหมือนกับละครฉากหนึ่ง” เชคสเปียร์เคยบอกเอาไว้ แล้วมันจริงมาก ประสบการณ์ในอดีตสอนเราว่าเราต้องทำยังไงกับปัจจุบัน แต่ไม่ได้ให้เราเอามาทุกข์นะ อดีตได้เกิดขึ้น เพื่อให้ปัจจุบันดีขึ้นต่างหาก
3. เราไม่ต้องถูกเสมอไปหรอก
ชีวิตไม่ใช่เรื่องต้องถูกหรือผิด บอกตัวเองเสมอว่าอย่าเป็นคนขาวกับดำ แต่ให้เป็นหลายๆ เฉดสีระหว่างกลางไว้ ฟังความเห็นของคนอื่น โดยที่ไม่ต้องคิดว่าถูกหรือผิด เพราะนี่ล่ะคือชีวิต
4. ความสัมพันธ์ที่ไม่ดี ก็ปล่อยไปซะ
เราแค่ปล่อยคนที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดีไป ถ้าเขาดีจริง ยังไงเขาก็จะกลับมา จะเพื่อน หรือคนรัก ถ้าเราปล่อยอะไรที่ไม่ใช่ไป คนที่ใช่ใหม่ๆ จะเดินเข้ามา เอาพลังงานลบๆ ออกไปเถอะ เพราะเราจะมีสปิริตที่ฟรีไม่ได้เลย ถ้ายังปล่อยให้ตัวเองต้องเจอความลบเช่นนั้น
5. ตัวตนของเราก็เอาออกไปด้วย
ถ้าเรามัวแต่ห่วงว่าตัวเราจะคิดยังไง จะเป็นยังไง เราจะไม่มีทางฟรี สปิริตได้ มองทุกอย่างให้ใจดีไว้ แล้วก็ช่างมันไปบ้างนะ
6. สถานะ ตำแหน่ง การยอมรับในสังคม ก็อย่าเก็บเอาไว้
สังคมบอกให้เราตัดสินกันด้วยสิ่งเหล่านี้ เราเชิดชูคนรวย คนมีอำนาจ คนมีสถานะบางอย่าง ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับหัวใจข้างในเลย ไม่ยึดติดกับอะไรแบบนี้ ความสุขจะต่างกันลิบเลย
7. ไม่ต้องหลอกตัวเองว่าทุกอย่างดีงาม
เป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะไม่เสียใจ ไม่รู้สึกโหวง ไม่สับสน เราก็ต้องมีพังๆ บ้างบางเวลา เพราะถ้าไม่พัง เราจะไม่ได้เรียนรู้ประสบการณ์แบบนั้นเลย แล้วเราจะก้าวต่อไปให้ดีขึ้นได้ยังไง เหมือนกับเรามัวแต่หลอกตัวเองนะ
8. ออกมาจากความสบายเดิมๆ
จำได้มั้ยตอนเรียนว่ายน้ำ แม่ของเราทำอะไรอย่างหนึ่งให้เรา แม่ปล่อยให้เราลองว่ายน้ำไปเองดู และตอนนั้นล่ะที่ทำให้เราได้สำรวจความเป็นไปได้ต่างๆ ที่เรามี ออกมาจากความสบายเดิมๆ เราจะค้นหาศักยภาพตัวเองได้เต็มขึ้น สปิริตจะโลดแล่นเลยทีนี้
9. เราจะเป็นคนฟรี สปิริตไม่ได้ ถ้าไม่เอาความกลัวออกไป
อย่ามัวแต่พูดกับตัวเองว่า “กลัวจัง” แล้วปล่อยให้ความกลัวครอบครองชีวิตเรา ลอง “รู้สึกกลัว แล้วก็ยังทำอยู่นั่นล่ะ” คราวนี้เราจะได้ปลดปล่อยตัวเองให้อิสระได้เลย
ปล่อยเถอะ
ปล่อยให้ชีวิตนำพาไป
เลิกควบคุม
โอบกอดพลังจากโลก
10. ให้ใจและกายผ่อนคลาย
ยิ่งเราเคร่งกับตัวเอง เราก็จะมูฟไปต่อได้ยาก เหมือนกับกล้ามเนื้อ ถ้ามันเกร็ง ร่างกายก็ไม่ยืดหยุ่นเลย ถ้าอยากมีสปิริตที่ฟรี ผ่อนคลาย สบายๆ แล้วยอมรับสิ่งตรงหน้านะ
11. ปล่อยอารมณ์ให้เกิดไปตามนั้น
แทนที่จะคิดวนว่าจะทำยังไงดี เวลาเราเกิดอารมณ์ต่างๆ สมองพาลจะคิดตาม หยุดคิด แล้วใช้ขาก้าวต่อไปเลย มีรายงานทางวิทยาศาสตร์บอกว่า อารมณ์น่ะจะไม่คงอยู่ตลอดไปหรอก ถ้าเกิดอารมณ์สับสน ขุ่นมัวอะไรก็ตาม มันเป็นแค่ความรู้สึก ที่ไม่สามารถทำอะไรกับเราได้ ก็ให้มันเกิดไป
12. เพื่อให้สปิริตเราฟรี ลองจินตนาการว่ามันฟรีอยู่แล้ว
จิตเราสั่งตัวเองได้ เพื่อเปลี่ยนอารมณ์ต่างๆ เราเลยต้องหาทางกันสิ่งที่จะเกิดไว้
ถ้าเศร้า..หาอะไรที่ชอบทำ
ถ้าเครียด..บอกตัวเองให้สบาย
ถ้าสับสนใจชีวิต..บอกตัวเองว่าฉันฟรี สปิริต
แล้วคนฟรี สปิริตเขาทำอะไรกันล่ะ? เขาจะ…
- ลุกไปวิ่ง
- ไปที่โล่งๆ ข้างนอก
- พูดว่า “ชิลล์เถอะ ช่างมันเถอะ”
- ภาวนา ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็ตาม
- ทำอะไรคลั่งๆ สนุกๆ
- ใช้เวลาบนบีช
- ทำอะไรก็ได้ที่จะทำ ถ้ารู้สึกว่าเราฟรีจังเลย
13. เข้าใจเรื่องพลังงานเคมีในสมอง
เพราะบางครั้งที่เรารู้สึกติดขัด อาจเป็นเพราะสารเคมีในสมองเรานี่ล่ะ เว็บ HowStuffWorks บอกไว้ว่า “สมองเป็นเน็ตเวิร์คที่ซับซ้อน มีปริมาณของข้อมูลที่ใส่ในสมองทุกวินาที และทุกอย่างต้องส่งสัญญาณผ่านไปที่สมอง สมองเลยต้องปล่อยสารเคมีออกมา เพื่อสื่อสารกับอวัยวะในร่างกาย สารเคมีที่สำคัญคือโดพามีน เซโรโทนิน และ norepinephrine
โดพามีนคือประสบการณ์ที่เรารู้สึกพอใจ เซโรโทนีนคือตัวช่วยให้ผ่อนคลาย ถ้าไม่บาลานซ์ก็จะโกรธง่าย ตื่นตระหนก หรือเป็นซึมเศร้าได้ ส่วน norepinephrine จะช่วยประคับประคองอารมณ์ ควบคุมความเครียดให้
สารเคมีเหล่านี้เลยมีผลต่ออารมณ์ แล้วอารมณ์จะไปส่งผลต่อกาย ต่อใจต่อไป เหมือนที่เรารู้กันว่าอารมณ์มีผลต่อทุกสิ่ง”
ถ้าเราเข้าใจว่าสมองทำอะไรกับอารมณ์ และร่างกายได้ เราก็จะรู้ต้นตอสิ่งต่างๆ และปล่อยวางได้ง่ายขึ้น
14. ปล่อยความเพอร์เฟ็คท์ออกไป
เมื่อเราโฟกัสที่ความเพอร์เฟ็คท์ไปซะหมด เราจะรู้สึกหนืดมาก แต่ถ้าลองปล่อยออกปั๊บ เราจะโล่งทันที แค่บอกตัวเองว่า ไม่ต้องท็อปฟอร์ม ไม่ต้องเป๊ะหรอก คนเราพลาดกันได้อยู่แล้ว ความเพอร์เฟ็คท์ที่เรามักเป็นๆ กันก็มีเรื่องของ
- รูปร่างหน้าตา
- ความเป๊ะในการทำงาน
- ไม่สามารถยอมรับความอ่อนแอได้
- เราต้องพยายามเป็นคนที่ไม่ใช่
- ไม่สามารถผ่อนคลายและสนุกได้
แค่ปล่อยความเพอร์เฟ็คท์ออกไป เราจะหลุดจากกับดักของชีวิตไปเลย
15. โฟกัสไปที่เป้าหมายที่ต่างออกไปบ้าง
ถ้าเราพุ่งแต่เป้าหมายเดียวในชีวิต มันเหมือนตัวเราได้แหย่ไปที่กรงอะไรบางอย่างแล้ว เหมือนกับว่าชีวิตเราต้องทุ่มให้กับสิ่งๆ นี้เท่านั้น แต่ถ้าลองเปลี่ยนเป้าหมาย เปลี่ยนมุมมอง เราก็จะไปเจออะไรใหม่ๆ แล้วจะฟรีขึ้นมาเลย
16. อยากเป็นสาวฟรี สปิริต วันนี้ปล่อยให้ตัวเรามีความสุขเลยนะ
คนหลายๆ คนมักบอกตัวเองว่า “ฉันจะมีความสุข เมื่อฉันสำเร็จ” “ถ้าฉันผอม ฉันจะมีความสุขกว่านี้” “ถ้าฉันมีแฟนเริ่ด ฉันคงมีความสุข” ไม่นะ เรามีความสุขได้ตอนนี้เลย ไม่ต้องรออะไรทั้งนั้น
17. อย่าตกเป็นทาสของสังคม
ท่องไว้แค่ว่า “เราไม่ต้องทำตามสิ่งที่สังคมบอกจริงๆ” เพราะเราคือเรา และใครจะไม่รับรู้ก็ไม่เห็นเป็นไร
18. ถ้าไม่ได้สิ่งที่หวัง ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
เพราะการไม่ได้ อาจนำไปสู่การได้อะไรที่ยิ่งใหญ่กว่า และเราคาดไม่ถึง นี่คือความลับของจักรวาล คนที่ฟรี สปิริตจริงเท่านั้น จะเข้าใจ
อ่านเรื่องราวต่อได้ที่ ผู้หญิงที่บอกให้เรารักตัวเอง