เชื่อว่าหลายคนเคยดูการ์ตูนเรื่องเซเลอร์มูน ( Sailor Moon ) หรือบางคนอาจจะคุ้นตากันบ้างเพราะเรื่องนี้ถือเป็นการ์ตูนระดับตำนานที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่เด็กผู้หญิง และถูกนำเสนอในสื่อหลายประเภท เช่น อนิเมะ ละครเวที เกมและละครโทรทัศน์ ที่สำคัญ Sailor Moon ยังปลุกพลัง เฟมินิสต์ ทั้งในญี่ปุ่นและในอเมริกา เรียกว่าสร้างปรากฏการณ์แห่งเฟมินิสต์เลยทีเดียว เพราะแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้มาจากความยากลำบากหลายอย่างของการใช้ชีวิตเป็นเพศหญิงในประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งคลีโอจะพาทุกคนมารู้จักกับนักวาดการ์ตูนเรื่องนี้ เธอมีชื่อว่า นาโอโกะ ทาเคอุจิ หญิงเก่งที่ประสบความสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับ ซึ่งบอกเลยว่าเรื่องราวของเธอนั้นเป็นแรงบันดาลใจอย่างดี
ประวัติโดยย่อ
Naoko Takeuchi เกิดที่เมือง Kofu จังหวัด Yamanashi ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2510 ตอนเธอเรียนได้เข้าร่วมชมรมดาราศาสตร์และการ์ตูน อีกทั้งพ่อแม่ของเธอมักจะซื้อหนังสือการ์ตูนให้อ่าน จนเธอมีความหลงใหลในการ์ตูน ในสมัยเรียน ม.ปลาย นาโอโกะยังได้นำต้นฉบับมังงะไปส่งให้กับนิตยสารการ์ตูนผู้หญิงนากาโยชิ จนในที่สุดได้ตีพิมพ์การ์ตูนสั้นของตนเอง
หลังจากเรียนจบ ม.ปลาย เธอก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยเภสัชศาสตร์เคียวริตสึ ระหว่างนั้นเธอก็ได้ทำงานเป็นนักวาดการ์ตูนและเธอได้วาดเรื่อง Love Call และยังสามารถคว้ารางวัลนักเขียนหน้าใหม่ได้อีกด้วย ในช่วงนั้นเอง นาโอโกะสร้างผลงานการ์ตูนเรื่องสั้นหลายเรื่อง และหลังเรียนจบเธอก็ได้เข้าทำงานที่กรมตรวจสอบกลาง โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเคโอ แต่เพราะความชื่นชอบและหลงใหลในมังงะมาก หลังจากที่ทำงานครึ่งปีก็ทำให้นาโอโกะลาออกจากงาน เพื่อมาทำสิ่งที่ชอบนั่นก็คือการวาดการ์ตูน ซึ่งผลงานที่ผลิตออกมาเช่น ‘รหัสลับเซเลอร์วี’ และ ‘The Cherry Project’
จุดเริ่มต้นของ Sailor Moon
จากการที่เธอเขียนเรื่อง รหัสลับเซเลอร์วี จากคำแนะนำของ บก. นิตยสารนากาโยชิ ที่ต้องการให้เธอวาดฮีโรในชุดนักเรียนกะลาสีเรือ เพื่อลองดูว่าจะได้รับความนิยมมากขนาดไหน ซึ่งผลตอบรับที่ได้คือได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นให้นาโอโกะแต่งเรื่องใหม่เพิ่มนั่นก็คือเรื่อง เซเลอร์มูน นั่นเอง
เรื่องเซเลอร์มูนได้สะท้อนข้อคิดหลายมุมเกี่ยวกับผู้หญิงเลย เช่น โลกของผู้หญิงเป็นโลกแม้จะดูสวยงามแต่จริงๆ ไม่ได้สวยงามโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะในเซเลอร์มูนเราจะเห็นภาพของผู้หญิงที่มีบาดแผล เห็นเด็กผู้หญิงที่เป็นเด็กกำพร้า เห็นเด็กสาวที่อาจจะไม่ได้ปรารถนาความรักแต่มองเห็นตัวเองในเส้นทางอาชีพ มีการนำเสนอภาพของผู้หญิงในฐานะวีรสตรีลุกขึ้นมาปกป้องบ้านเมือง นอกจากนี้ยังสะท้อนญี่ปุ่นยุคเก่า ผู้หญิงจะไม่มีสิทธิ์แต่งงานโดยความรักได้เนื่องจากเป็นวัฒนธรรมคลุมถุงชน แต่ Sailor Moon ก็ท้าทายความเชื่อนี้เพราะมีการแสดงออกอย่างชัดเจนว่าผู้หญิงควรได้ใช้ชีวิตกับคนที่ตัวเองรัก
ผู้ปฎิวัติมังงะผู้หญิง
เธอคือผู้ก่อตั้งแฟชั่นคอมิกส์ จะเห็นได้จากชุดของแต่ละตัวการ์ตูนในเรื่อง จะมีการใส่รองเท้าส้นสูง ชุดเดรส ซึ่งความจริงแล้วมาจากรสนิยมแฟชั่นของนาโอโกะ พวกเสื้อผ้าสวย ๆ ของทั้งฝั่งเซเลอร์และฝั่งตัวร้ายนั้นก็มาจากเสื้อผ้าแฟชั่นจากแบรนด์ดัง ในสมัยนั้น
นอกจากนี้การแต่งกายของเซเลอร์มูนยังทำให้บล็อกเกอร์ด้านแฟชั่นคนหนึ่งเขามีชื่อว่า อเล็กซ์ ซึ่งครั้งหนึ่งเขานำการแต่งกายของเซเลอร์มูนมาเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งตัวด้วย ซึ่งออกมาวินเทจดูดี สดใสมากๆ
ด้วยรสนิยมทางศิลปะของนาโอโกะ ก็ทำให้รูปภาพชื่อดังต่างๆกลายเป็นแรงบันดาลใจของเธอด้วย เช่น ภาพความทรงจำอันตราตรึง ที่วาดโดยซัลบาโด ดาลี และ ภาพ The Starry Night ของ วินเซนต์ แวนโก๊ะ
นาโอโกะที่มีวิสัยทัศน์ที่เปิดกว้างยังได้สอดแทรกแนวความคิดเกี่ยวกับ LGBT เข้าไปในเซเลอร์มูนอีกด้วย เห็นได้ชัดว่านาโอโกะเธอเป็นคนที่มีแนวความคิดที่ล้ำสมัยคนหนึ่งเลย หากมองย้อนไปในสมัยก่อน
ความสำเร็จ
ปัจจุบันนาโอโกะได้เปิดบริษัท PNP ( Princess Naoko Planning ) เพื่อจัดการ ดูแลด้านลิขสิทธิ์ของเซเลอร์มูนทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ มีสินค้ามากมายที่ถูกผลิตภายใต้ชื่อเซเลอร์มูน ตั้งแต่ รองเท้า เครื่องสำอาง ชุดนอน เครื่องเขียน เครื่องครัว แม้กระทั่ง Collection ชุดและแหวนแต่งงานออกมาด้วย
แม้เวลาจะล่วงเลยไปถึง 30 ปี เรื่อง Sailor Moon ก็ยังตราตรึงในใจผู้คนมาจนถึงตอนนี้ และถูกจดจำต่อคนทั้งโลกในฐานะที่เป็นอนิเมะที่ empower พลังหญิงอีกด้วย
อ่านบทความอื่นๆ ของ CLEO ที่: