ที่สุดของกันแดดลูกรักแห่งปี ต้อง Vie Cosmetics  Perfect Touch Hydrating Sun Cream SPF50+ PA++++  คุมมัน กันน้ำ ผิวเป๊ะ

ครีมกันแดด Perfect Touch Hydrating Sun Cream SPF50+ PA++++ จาก Vie Cosmetics ได้รับรางวัล Best Sunscreen for Hydrating Skin จาก CLEO Beauty Hall of Fame 2024 ด้วยคุณสมบัติที่ปกป้องผิวจากแสงแดดและบำรุงอย่างมีประสิทธิภาพ น้ำหนักเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทำลายเมคอัพและช่วยควบคุมความมัน พร้อมสารสกัดจากพฤกษชาติเพื่อให้ผิวชุ่มชื่นและกระจ่างใส

ปลุกผิวเนียนใส เปล่งประกายจนออร่าจับ ด้วย  Aqua+ Series Bright-Up Daily Moisturizer

Aqua+ Series Bright-Up Daily Moisturizer คว้ารางวัล Best Everyday Brightening Moisturizer จาก CLEO Beauty Hall of Fame 2024 ด้วยคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น บางเบา และช่วยผิวกระจ่างใสใน 7 วัน เนื้อครีมยังปราศจากแอลกอฮอล์และพาราเบน เหมาะสำหรับผิวมันและแพ้ง่าย

เติมแพชชั่นให้เป็นสาวทำงานเรียบหรูดูดี เอาชนะทุกสิ่งตั้งแต่ออกจากบ้าน!

คลีโอขอเติมพลังใจให้กับสาวทำงานทุกคนที่ต้องออกไปลุยงานด้วยแอตติจูดดีๆ ตั้งแต่ตื่นนอน รีบแค่ไหน ก็จะไม่มองข้ามความสำคัญว่าบุคลิกที่ดีคือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ ไม่ใช่แค่วันสำคัญ แต่ทุกๆ วันของคุณต้องดูดีทุกครั้งที่ส่องกระจก มอบความมั่นใจแรกให้ตัวเองและออกไปบอกคนทั้งโลกว่าฉันพร้อมที่จะมาโชว์ความเก่งให้ทุกคนได้เห็น มาครีเอทลุคเป็นสาวทำงานเรียบหรู แค่หาไอเท็มที่ใช่ของตัวเองให้เจอไปด้วยกัน

3 บิวตี้ไอเท็มสำหรับสาวทำงานที่ ใช้ง่าย ชุ่มชื้น และเฮลธ์ตี้ โกลว์!

เป็นผู้หญิงทำงานที่ต้องสู้กับโลกที่หมุนเร็ว ความฝันคืออยากมีบิวตี้ ไอเท็มที่ช่วยเรากู้ผิว คุณสมบัติที่เหมาะกับเราที่สุดคือต้องใช้ง่าย ใช้แล้วผิวชุ่มชื้นและให้ผิวเฮลธ์ตี้ โกลว์ๆ ดูสุขภาพดี




Money

เก็บเงินไว้ไม่ใช่รอเกษียณ รอเผื่อมีใช้เดือนหน้าก็หรูแล้ว



ตึงมาก ไม่ได้หมายถึงสภาพผิวหน้านะ สภาวะการเงินตอนนี้ของฉันเองน่ะ ผ่านมรสุมก้อนใหญ่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านที่บอกเลยว่ารอดมาได้ถือว่าเริ่ดมากแล้วนะ บางคนโดนลดเงินเดือน บางคนขายของแทบไม่ได้ มันคือความน่ากลัวที่ต้องกอดเงินเก็บเอาไว้ให้มั่น บริหารเงินที่มีไปกับค่าใช้จ่ายที่เรียกว่ามาแบบไม่แผ่วเลย เราเลยเห็นความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินให้เป็น มีเงินเก็บให้ได้ และนี่คือเทคนิคที่เราลองเองแล้วเวิร์ค รวมทั้งไปถามกูรูผู้มีเงินเก็บหลักล้านมา เขาแนะนำให้ลองตามนี้

1. เก็บก่อนใช้ตามหลัก 50/30/20 >> เวลาได้เงินเดือนมาหรือก่อนจะใช้เงินในแต่ละเดือน ลองแบ่งเงินออกเป็น 50% เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบัตรเครดิต ค่าให้พ่อแม่ ฯลฯ ต้องพยายามคุมให้ค่าใช้จ่ายหลักๆ ไม่เกินครึ่งหนึ่งของเงินเดือน จากนั้นที่เหลือ 30% เอาไว้ใช้จ่ายส่วนตัว ไปเที่ยว ไปกินข้าวนอกบ้าน และอีก 20% เป็นเงินในอนาคตของเรา เผื่อเป็นเงินฉุกเฉิน ซึ่งสำหรับบางคนอาจจะทำยาก เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง สามารถปรับสัดส่วนให้เข้ากับชีวิตของแต่ละคนได้เลย อย่างน้อยมีเงินเก็บ 5% ก็ยังดี ถ้ามีโอกาสขยับเงินเดือนหรือมีรายรับเพิ่มก็พยายามเพิ่มสัดส่วนเก็บเงินให้ได้เพิ่ม

2. ใครที่ชอบช้อปเพลิน ใช้เป็นจ่ายแบบโอนจากบัญชีอาจพอดึงสติได้ >> เรื่องนี้เป็นวินัยการใช้เงินแต่ละคนเลย เพราะเคยผูกบัตรเครดิตกับช้อปออนไลน์ โอ้โห! ปลายเดือนมา นึกว่าบัตรโดนแฮค ดิฉันช้อปไปขนาดนี้เลยเหรอ เลยลองใช้เป็นการโอนเงินจากบัญชีแล้วเห็นยอดเงินออกจากกระเป๋าตังค์เรา พอยอดน้อยลง เริ่มจะรู้สึกแล้วว่าอีกหลายวันกว่าจะเงินออกนี่ จากนั้นก็ไม่กดไปช้อปอีกเลย แต่ถ้าคนที่จดไว้ว่าใช้ไปเท่าไหร่แล้ว การใช้บัตรเครดิตก็มีประโยชน์มากมาย ได้สะสมคะแนนสวยๆ รับสิทธิประโยชน์อีก

3. ช้อปวัน Double Day คุ้ม แต่ต้องอยากได้จริงๆ >> เชื่อมาเสมอว่าการรู้จักใช้เงินไม่ใช่ไม่ซื้อเลย เพราะโปรโมชั่นของที่เราอยากได้ในแอปช้อปออนไลน์แต่ละร้านดีมากกกกก ลด แจก แถมอย่างปัง แต่มันจะมีหลุมพรางให้เราเห็นสินค้าอื่นๆ แล้วบางอย่างไม่อยากได้ก็จะกดซื้อ ใจแข็งๆ หน่อย ดังนั้นเล็งของที่อยากได้เอาไว้ มาดูโปรฯ ถ้ารู้สึกว่าได้ ก็จัดเลย! (แต่บางเดือนพอนะ ไม่ใช่ช้อปแหลกทุกเดือน)

4. สะสมเงินในกองทุนแบบ DCA >> ข้อนี้เป็นคำแนะนำที่พี่ๆ ผู้ที่มีเงินล้านจากการสะสมในกองทุนบอกมาว่าให้เราเริ่มลงทุนแบบ DCA หรือย่อมาจาก Dollar-Cost Averaging เป็นอีกสเต็ปจากสะสมแบบหยอดกระปุกด้วยการตัดเงินทุกเดือนเข้าไปในกองทุน แต่จะมาพร้อมความเสี่ยงที่เงินต้นของเราจะหายไปได้ตามความผันผวนของตลาด ดังนั้นแนะนำต้องเป็นเงินเย็น (ที่ไม่ใช่หน่วยเงินของญี่ปุ่น 555 หมายถึงเงินที่เราไม่ใช้แน่ๆ) แล้วถัวเฉลี่ยต้นทุนไป บางเดือนกองทุนขึ้นก็ดี บางทีลงก็ใจหาย แต่พอถัวสะสมในระยะยาวแล้ว ผลตอบแทนก็คุ้มค่าอยู่

5. หารายได้เพิ่ม >> ตรงๆ กันไปเลย ว่าถ้ารู้สึกเงินไม่พอ ไม่ตัดค่าใช้จ่ายก็ต้องหาให้งอกเงย สำหรับคนที่ลงทุนเก่งๆ ไปคนไปลงหุ้นเพิ่ม ใครที่หัวการค้าหน่อยอาจจะเจียดเงินไปขายของออนไลน์ ทำอาหารส่งเดลิเวอรี่เปิดเฉพาะวันหยุด แต่ไม่ควรเอาเงินลงซะหมดตัวนะ เพราะเรายังไม่มีเชี่ยวไม่มีประสบการณ์ ค่อยๆ ทำดีกว่า ส่วนคนที่มีความสามารถแบบไม่ต้องลงเงินเลย ยิ่งดีใหญ่ เช่น ทำกราฟฟิกดีไซน์ได้ รับงานเขียน อะไรก็ได้ที่ใช้ความเก่งในตัวเองไปต่อยอดเสริมนอกเวลาเอา

6. อยู่คนเดียว บางทีซื้อกินก็ถูกกว่า >> คิดมาตลอดว่าทำอาหารกินเองจะประหยัด ก็เลยได้ลองและพบว่าต้องใช้งบประมาณไม่ใช่น้อยเลยนะ แถมเมนูทำออกมาไม่ค่อยหลากหลาย บางครั้งทำออกมาแล้วต้องกินเมนูนั้นอยู่หลายวันซึ่งก็ไม่ต้องซื้อใหม่ แต่มันเบื่อ อาจไม่เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียว เพราะปริมาณผักหรือเนื้อที่แบ่งขายก็เยอะมากจนกว่าเป็นเราสร้าง food waste แต่เรื่องความสะอาดไม่เถียงว่าคุมคุณภาพได้เอง ผงชูรสไม่อยากใส่ ปรุงตามชอบ เอาเป็นว่าบางคนชอบซื้ออาหารจานเดียวมื้อหนึ่งราคาอาจจะถูกกว่า

7. เช็คสวัสดิการในองค์กรที่ทำงาน >> หลายออฟฟิศจะมีสวัสดิการที่บางครั้งเราไม่เคยรู้มาก่อน บางอย่างมารู้ก็ผ่านไปหลายเดือนแล้ว เช่น สามารถเบิกค่าน้ำมันได้ ค่าโทรศัพท์ มีเงินกู้ยืมเพื่อต่อเติมบ้านดอกเบี้ย 0% แล้วค่อยมาหักจากเงินเดือน เป็นอะไรที่ดีงามมาก ประหยัดค่าดอกเบี้ยกู้ยืมไปได้อีกเยอะ

8. รวมค่าใช้จ่ายปลายเดือน >> ตอนนี้แอปธนาคารหลายอันจะมีฟีเจอร์รวมค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนและมีเปรียบเทียบให้เห็นว่าเดือนล่าสุดใช้มากหรือน้อย คล้ายๆ ทำบัญชีให้เราเห็นรายรับรายจ่าย

9. สีธนาคารมงคลกับเรา >> ตอนแรกไม่รู้ศาสตร์เรื่องสีมงคลกับสีแบงค์เลย จนสังเกตตัวเองว่าเมื่อไหร่ที่เราเอาเงินเข้าบัญชีนี้ เงินเข้ามาแล้วไหลออกตลอด อีกแบงค์เริ่มพอเก็บได้แต่ไม่มาก กับอีกสีที่เก็บแล้วงอกเงย ความมูก็เข้ามาทันที แอบมีความเชื่อในเรื่องนี้เพราะรู้สึกเองกับตัว

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']