เปิดไฟให้ผิวใสด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ ทำได้ง่ายๆ ใน 2 ขั้นตอนนี้ที่บ้าน!

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าแค่มีผิวสดใส เดินไปที่ไหนก็มีออร่าจนคนต้องหันมอง เป็นจุดเริ่มต้นของความมั่นใจในการเริ่มต้นใหม่ทุกๆ วัน ไม่ว่าจะทำงานหรือออกเที่ยวก็เลือกโชว์ผิวได้ทุกส่วน สาวๆ ส่วนใหญ่ตอนนี้เลือกทางลัดดูแลผิวกายด้วยการเข้าสปาบ้าง หรือเข้าคลินิกพบคุณหมอ เลือกนวัตกรรมฮิตๆ อย่าง Exosome ดูแลผิวหน้า แต่วิธีที่สะดวกที่สุดในการดูแลผิวทั้งตัวคือการกลับมาดูแลบำรุงผิวที่บ้านเป็นประจำ ตอนนี้ขั้นตอนอาบน้ำจึงไม่ใช่แค่ทำความสะอาดผิว หรือการทาครีมก็ไม่ใช่แค่บำรุงให้ผิวชุ่มชื้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผิวดูไบร์ท กระจ่างใสไปพร้อมกันได้เหมือนทำ Treatment ให้ผิวกับสุดยอดโปรดักท์แห่งปีของคลีโอ

“ขาหนีบดำ ก้นลาย” ปัญหาโลกแตกของคนไม่กล้าใส่บิกินี่หรือกางเกงเว้าสั้น มาโพสโชว์ผิวกระจ่างใสทุกมุมกัน!

เห็นบิกินี่สวยๆ แล้วอดใจช้อปไม่ได้ อยากพกไปทริปใส่เก๋ๆ ถ่ายรูปริมสระริมทะเล แต่ปัญหาที่เจอคือซื้อบิกินี่เว้าสูงมาแล้วลองใส่หน้ากระจก รู้สึกความเซลฟ์ความมั่นยังไม่มา เพราะขาหนีบและก้นดำขโมยซีนหนักมาก ตอนนี้มีไอเท็มสกินแคร์ที่แก้ไขเฉพาะจุดนี้แบบเข้าใจผู้หญิงจริงๆ คลีโอขอบอกเลยว่าจึ้งที่สุดของจริง!

ไอเท็มขาดไม่ได้ของสาวเป็นสิวแบบฉบับการดูแลของคนญี่ปุ่น! อ่อนโยนสดใส 24 ชั่วโมง

ปัญหาสิวถึงจะเป็นกันทั่วโลก แต่ผิวที่ใกล้เคียงกับคนไทยก็ต้องเป็นการดูแลในแบบเอเชียด้วยกันก็เลยรู้ใจกันมากที่สุด และขั้นตอนการดูแลผิวเป็นสิวของคนญี่ปุ่นเขาก็ลงลึก ศึกษาถึงปัญหาและส่วนผสมอย่างเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะสิวผู้ใหญ่ที่บางครั้งก็หาสาเหตุไม่ได้จึงต้องดูแลผิวให้ครอบคลุม 24 ชั่วโมง และเราต้องพาผิวที่มีปัญหาสิวออกไปทำงานทุกวัน ดังนั้นการปกปิดที่เรียบเนียนและไม่รบกวนสิวให้เห่อกว่าเดิมก็เป็นอีกขั้นตอนที่ต้องมี! CLEO Beauty Hall of Fame 2025 ปีนี้ขอสรุปรวมบิวตี้โปรดักท์สำหรับสาวเป็นสิวที่อยากบอกต่อ

ไปสิงคโปร์เดือนธันวาคมนี้ อย่าพลาดละครเวทีสุดพิเศษ “Beauty and the Beast”

ละครเวที Beauty and the Beast ของดิสนีย์เปิดตัวในเอเชียครั้งแรก!
เตรียมพบกับความมหัศจรรย์แห่งนิทานคลาสสิก เมื่อดิสนีย์นำละครเวที Beauty and the Beast กลับมาในเวอร์ชันใหม่ล่าสุด จัดแสดงที่: Sands Theatre, Marina Bay Sands สิงคโปร์ ธันวาคม 2025 นี้




Self Love

‘Can – do Attitude’ แอตติจูดที่สำคัญในการใช้ชีวิตและการทำงาน

ทัศนคติการทำงาน

Can-do attitude คือทัศนคติที่เชื่อว่า ฉันทำได้ กล้าลอง กล้าเผชิญความท้าทาย และมองทุกอย่างเป็นการเรียนรู้ ซึ่งแอตติจูดนี้เป็นสิ่งที่ทรงพลัง ช่วยให้คุณสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ทำให้คุณเติบโตยิ่งขึ้น และ ได้มอง ‘ปัญหา’ ให้เป็น ‘โอกาส’ อยู่เสมอ เชื่อในศักยภาพของตนเอง ดังนั้นจึงมีหลายๆ องค์กรใช้ทัศนคตินี้มาเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกพนักงานอีกด้วย

“เราสามารถเป็นเราใน Version ที่ดีกว่านี้ได้ ถ้าเราคิดว่าเราทำไม่ได้ มันไม่สำเร็จตั้งแต่ตอนนั้นที่คิดแล้ว”

คุณชาดา เพี้ยนภักตร์ อดีตมนุษย์เงินเดือนที่ทำมาหลากหลายอาชีพ และประสบความสำเร็จในแทบทุกสายงาน จนก้าวมาเป็นเจ้าของคลินิก Anti-Aging

ถึงอย่างนั้นการคิดว่าตัวเองทำได้เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ต้องลงมือทำด้วย จึงจะมีโอกาสทำได้สำเร็จจริง คนที่มี Can-do attitude มักจะมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิต กล้าที่จะรู้ กล้าเสี่ยง และชอบคิดหาคำตอบว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะทำให้สำเร็จ ซึ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับคนที่มีทัศนคติ ทำไม่ได้ หรือ Can’t-do Attitude ที่มักจะมองข้ามโอกาสที่เข้ามาในชีวิตเพราะไม่กล้าลอง หรือกล้าเสี่ยง มองเห็นแต่อุปสรรคและมัวแต่กังวลกับปัญหาที่คิดว่าจะเกิดขึ้นมาในอนาคต นั่นทำให้วิธีคิดและการดำเนินชีวิตของคนที่มีทัศนคติทั้งสองแบบแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว


ทำได้ VS ได้ทำ แตกต่างกันหรือไม่อย่างไร?

แตกต่างกัน คนที่มีทัศนคติ “ทำได้” จะชอบคิดนอกกรอบ กล้าทำงานที่ท้าทาย ไม่ปฏิเสธงานที่ได้รับมอบหมาย แต่จะรับไปคิดพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบก่อนที่จะตอบว่าสามารถทำได้หรือทำไม่ได้ และมักจะทำงานได้สำเร็จบรรลุตามแผนงานที่วางไว้ แต่คนส่วนใหญ่ที่พบมักจะเป็นคนที่มีทัศนคติ “ ได้ทำ” คือ มักจะรับปากง่ายๆ แต่สุดท้ายก็ทำไม่เสร็จ หรือเรียกว่าเสร็จแบบขอไปที เอาแค่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ แต่ไม่ใส่ใจเรื่องคุณภาพงาน

ทำไมองค์กรจึงต้องการคนที่มี Can-do Attitude

ในการสัมภาษณ์งานกับโรงแรมหรือบริษัทบางที่ คุณอาจจะเจอคำถามว่า รู้จัก Can-do Attitude ไหม? แล้วคิดว่าตนเองมี Can-do Attitude รึเปล่า? แล้วคนที่มีทัศนคตินี้เป็นอย่างไร

  • มุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตนเอง คนที่มีทัศนคติที่สามารถทำได้นั้นเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตนเองและความเชื่อมั่นว่าเขาสามารถบรรลุสิ่งที่ได้รับมอบหมาย เพียงแค่ตั้งใจทำ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่แค่ความมั่นใจมากเกินไปหรือการมองโลกในแง่ดี แต่เป็นการเปิดกว้างโดยกำเนิดและความเต็มใจที่จะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วง
  • ควบคุมสถานการณ์ได้ดีและพร้อมรับมือ พนักงานที่มี Can – do attitude มักจะกระตือรือร้นและอยากรู้อยากเห็น เขาจะค้นพบสิ่งต่างๆ ใช้ความคิดริเริ่ม วางแผนล่วงหน้า และจะไม่รอจนกว่าปัญหาจะเกิดขึ้นก่อนที่จะคิดหาทางแก้ไข ดังนั้นไม่ว่าเขาจะต้องเผชิญกับลูกค้าที่มีความต้องการสูงมาก หรือโจทย์งานยากๆ ก็จะพร้อมที่จะรับมือ

วิธีการพัฒนา Can – do attitude เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

  1. ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำงานหรืออะไรก็ตามสำเร็จลุล่วงด้วยดี แรงจูงใจเป็นกุญแจสำคัญในแอตติจูดนี้ อาจจะให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ กับตัวเอง
  2. ใช้คำพูดในเชิงบวก ภาษาเชิงบวก วิธีที่คุณใช้ภาษาตลอดทั้งวันอาจส่งผลต่ออารมณ์ของคุณได้ หลีกเลี่ยงวลีเชิงลบ เมื่อคุณรู้ตัวว่าตัวเองพูดว่า “ฉันทำไม่ได้” หรือ “เป็นไปไม่ได้” ให้พยายามใช้ถ้อยคำใหม่ ให้ฟังดูเหมือนเป็นการท้าทายแทน และ ยิ้มให้บ่อยขึ้น การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่อาจมีผลกระทบมากต่ออารมณ์ของคุณเพราะการยิ้มมีผลต่อกล้ามเนื้อในสมอง ซึ่งจะทำให้รู้สึกมีความสุข ลองฝึกยิ้มเป็นระยะ คุณจะรู้สึกมีแรงบันดาลใจและมีความสุขมากขึ้นด้วย
  3. บอกขอบคุณตัวเอง ไม่ว่าจะเจอเรื่องใดในชีวิต เช่น คุณอาจจะบอกเลิกกับคนรัก อาจจะมีความรู้สึกแย่ๆแต่ก็รู้สึกขอบคุณที่ได้ออกจากความสัมพันธ์นั้นมาได้
  4. อย่าปล่อยให้ความคิดว่า “ฉันทำไม่ได้” เป็นตัวกีดกันศักยภาพของคุณ ให้ลองมองว่าเป็นการท้าทายความสามารถของตัวคุณเอง ยกตัวอย่างเช่น ไม่เก่งงานที่ต้องตัดต่อเลยแต่ได้รับมอบหมายมาให้ทำ ให้คุณคิดว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งที่ฉันจะหาวิธีการทำมันให้ได้
  5. คว้าทุกโอกาสที่เป็นไปได้ ในชีวิตของคนเราย่อมมีโอกาสใหม่ๆเข้ามา ดังนั้นควรรับไว้ อย่าให้ความคิดในแง่ลบว่าทำไม่ได้มาตีกรอบเราจนเราต้องสูญเสียโอกาสดีๆ
  6. อย่ากลัวที่จะล้มเหลว เราสามารถที่จะแก้ไขได้ เริ่มต้นใหม่ได้ ความล้มเหลวในวันนี้ไม่ได้หมายความว่าจะล้มเหลวไปตลอดชีวิต

นอกจากนี้ จากบทความ หากรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่ดีพอ คุณอาจเสี่ยงเป็น Imposter Syndrome ! ทัศนคติฉันทำได้ก็มีส่วนช่วยบรรเทาจากการเป็น imposter syndrome เช่นกัน


อ่านบทความอื่นๆของ CLEO ได้ที่:

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']