เปิดตัว 3 ไอเท็มเมคอัพสุดเริ่ดจาก IN2IT  ที่คลีโอรักมาก

ถ้าให้พูดถึงไอเท็มเมคอัพที่ใช้ยังไงก็ไม่เบื่อ หยิบมาใช้ตอนออกงานก็สวยแพง ใช้ในวันรีบ ๆ ก็สวยเป๊ะ ใช้ตอนไหนก็ได้ลุคสวยทุกครั้ง คลีโอขอยกให้แบรนด์ IN2IT เป็นแบรนด์ขึ้นหิ้งของเมคอัพราคาน่ารักแต่คุณภาพเกินต้าน ยิ่งตอนนี้เดินทางมาถึงเทศกาล CLEO Beauty Hall of Fame 2024 คลีโอก็ไม่พลาดมอบรางวัลให้ IN2IT ไปอีกปี รอบนี้คว้ามงไปจุก ๆ 3 ชิ้น บอกเลยว่าทุกชิ้นที่ให้รางวัล คลีโอรักมากกก และอยากแชร์ต่อจริง ๆ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย 

สนุกให้สุด ไม่หยุดเป็นตัวเอง เพิ่มความมั่นใจใต้วงแขนด้วยไอเท็มสุดเริ่ดจาก Ri en 

มีใครเป็นสายฟรีสปิริตแบบเราบ้าง จะทำอะไรก็ต้องทำให้สุด ไม่หยุดเป็นตัวเอง ลุย ๆ พร้อมทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะปาร์ตี้ ทำกิจกรรม หรือเที่ยวในแบบที่ต้องการ แต่มีอยู่หนึ่งสิ่งสำคัญที่สาว ๆ อย่างเราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ นั่นก็คือเรื่องผิวใต้วงแขนนั่นเอง เพราะถ้าหากผิวบริเวณนั้นดำคล้ำ หรือมีกลิ่น ไม่เนียนสวย ก็อาจทำให้ความมั่นใจหรืออินเนอร์ความกล้าของเรานั้นหายไปด้วยได้เช่นกัน แต่วันนี้ คลีโอมีไอเท็มดูแลผิวใต้วงแขนจากแบรนด์ลูกรักอย่าง Ri en มาฝาก แอบกระซิบว่าเป็นไอเท็มที่เราใช้มาตลอด และก็มอบรางวัล CLEO Beauty Hall of Fame 2024 ให้ด้วยนะ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังว่ามันเริ่ดยังไง




Women's Stories

Dorothy Stratten นางแบบ Playboy อนาคตไกล กลับถูกสามีจอมบงการฆาตกรรม

Dorothy Stratten

ชีวิตของหญิงสาวคนหนึ่งที่เธอกำลังไปได้ดีในหน้าที่การงาน แต่ทุกอย่างกลับต้องพังทลายลงเพราะชายที่เธอ ‘เคย’ รัก จุดเริ่มต้นของเรื่องราวคือเธอคนนี้ Dorothy Stratten นางแบบและนักแสดงชาวแคนาดา ที่เธอนั้นได้เป็นนางแบบนิตยสารชื่อดังอย่าง Playboy และกำลังมีอนาคตไกลในวงการบันเทิง แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นกับเธอ


ประวัติโดยย่อของ Dorothy

Dorothy Stratten เกิดที่โรงพยาบาล Grace Maternity Hospital ในเมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 ตอนเธออายุได้ 3 ขวบ พ่อกับแม่ก็ได้แยกทางกันซึ่งเธอได้อยู่กับแม่เป็นหลัก แต่พอแม่แต่งงานกับสามีใหม่ ตัว Dorothy ก็ถูกทำร้ายร่างกาย จนทำให้แม่ของเธอตัดสินใจเลิกราอีกครั้งและกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งต้องบอกเลยว่า Dorothy เติบโตมาในย่านที่ไม่ค่อยดีนัก เป็นย่านที่มีปัญหาคนติดยาเสพติด คนไร้บ้าน แต่ตัวของ Dorothy ก็ไม่ได้ทำตัวเสื่อมเสียแต่อย่างใด เธอเป็นคนขี้อาย ไร้เดียงสา และในวัยเรียนเธอก็ทำงานพาร์ทไทม์ที่ Dairy Queen ไปด้วย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของแม่

จุดเปลี่ยนของชีวิต

ต่อมาขณะที่เธอทำงานใน Dairy Queen เธอได้เจอกับชายที่ชื่อ Paul Snider ขณะนั้นเขาเป็นโปรโมเตอร์จัดงานโชว์รถยนตร์ นอกจากนี้เขายังทำงานเป็นแมงดา คอยจัดหาผู้หญิงมาขายบริการ ในวันที่ Paul เจอกับ Dorothy เขาก็สะดุดตาและสนใจเธอมาก เขามองว่าเธอสามารถเป็น ช่องทางการหาเงินก้อนโต ให้กับเขา Paul จึงไม่รีรอที่จะเข้าไปจีบ Dorothy และด้วยความที่ตอนนั้น Dorothy เธอเป็นคนใสซื่อ เธอจึงไปออกเดทกับเขา และ Paul ก็ทำดีกับเธอ พาเธอไปกินข้าว พาไป Shopping นอกจากนั้นยังชมเธอทุกวันทำให้เธอรู้สึกพิเศษ เนื่องจากช่วงชีวิตที่ผ่านมา Dorothy ไม่เคยได้รับอะไรพิเศษแบบนี้ เธอจึงตกหลุมรัก Paul เพราะเขาเหมือนมาเติมเต็มเธอ

Dorothy และ Paul

ต่อมาในช่วงนั้นนิตยสาร Playboy ที่ก่อตั้งโดย“ฮิวจ์ เฮฟเนอร์” กำลังตามหา Playmate ( นางแบบที่ลงหน้าปกของนิตยสาร ) โดยผู้ที่ถูกคัดเลือกจะได้รับเงินรางวัลก้อนโต ซึ่งสิ่งนี้เองทำให้ Paul อยากดัน Dorothy ไปเป็น Playmate โดยเขาโน้มน้าวเธอทุกวิถีทาง จนสุดท้ายเธอก็ใจอ่อน และเขาไปจ้างตากล้องมาถ่ายภาพนู้ดเพื่อส่ง Profile ของเธอไปให้ Playboy อีกด้วย สุดท้ายแม้ว่า Dorothy จะไม่ได้ตำแหน่งผู้ชนะ แต่เธอก็กลับเป็นที่ถูกใจเจ้าของ Playboy อย่าง ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ นอกจากนี้เขายังมองเห็นศักยภาพของเธอ และเขาให้เธอเซ็นสัญญาเป็นนางแบบ Playboy อีกด้วย

Hugh Hefner ( เจ้าของ Playboy ) และ Dorothy

หลังจากนั้นเมื่อ Dorothy เริ่มทำงานถ่ายแบบ ตัว Paul Snider ก็เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการของเธอ เขาควบคุมเรื่องเงินของที่เธอได้รับ และเขาก็ไม่ทำงานอีกต่อไปแถมยังใช้เงินฟุ่มเฟือย เขายังบังคับเธอหลายๆเรื่อง เช่น เรื่องการกิน โดย Dorothy เธอก็ยอมทำตามที่ Paul บอกทุกอย่าง

ในเดือน มิถุนายน ปี 1979 ตัวของ Paul ได้ขอ Dorothy แต่งงาน ซึ่งตอนนั้น Dorothy ก็ดีใจมาก แต่ในอีกมุมหนึ่งของ Paul การที่เขาอยากแต่งงานกับเธอเพียงเพราะอยากผูกมัดให้เธอทำงานให้เขาเพื่อที่เขาจะได้มีเงินใช้ ซึ่งตัวของ ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ เขาก็ไม่ชอบ Paul เพราะเขาดูออกว่า Paul มาเพื่อหวังผลประโยชน์ในตัว Dorothy เท่านั้น ซึ่งฮิวจ์เองเคยเตือน Dorothy เรื่องนี้ด้วย แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้เชื่อฮิวจ์

ในเดือนสิงหาคม ปี 1979 Dorothy ได้รับเลือกเป็น Playboy Playmate และเธอก็ได้รับเงินก้อนหนึ่ง และ ฮิวจ์ยังได้ผลักดัน Dorothy ให้เป็นนักแสดงอีกด้วย ผลงานของเธอเช่น เรื่อง Galaxina

ในช่วงนั้นเหมือนเป็นยุคที่เธอกำลังรุ่งโรจน์ มีงานเข้ามาเรื่อยๆ แต่เงินที่ได้กลับเป็นของ Paul ซึ่งฮิวจ์ เฮฟเนอร์เองก็ยังรู้สึกไม่ชอบเลยตัดสิทธิ์การเป็นผู้จัดการของ Paul ซึ่งสิ่งนี้เองก็ทำให้ Paul โกรธมากๆ ช่วงนั้นเขาวิจารณ์ Dorothy แย่ๆ ทำให้ช่วงหลังนี้ ทั้ง Paul และ Dorothy ทะเลาะกันเกือบทุกวัน ความสัมพันธ์ก็แย่ลงเรื่อยๆ

รักครั้งใหม่

ในเดือน ตุลาคม ปี 1980 ตัวของ Dorothy ได้พบกับผู้กำกับที่เขามีชื่อว่า Peter bogdanovich ซึ่งเขาเป็นคนที่อบอุ่น เป็นผู้ใหญ่ ให้คำปรึกษาเธอได้ทุกเรื่อง ซึ่งแตกต่างกับ Paul อย่างสิ้นเชิง ต่อมาทั้งสองก็ได้ตกหลุมรักและได้พัฒนาความสัมพันธ์กัน จนมาถึงจุดที่ Dorothy อยากจะเลิกกับ Paul โดยเธอได้บอกว่าเธอรู้สึกไม่เป็นตัวเองและรู้สึกไม่ชอบที่โดนเขาบังคับ ซึ่ง Paul ก็โกรธเธอมาก ด่าเธอสารพัด และต่อมา Dorothy ก็ตัดสินใจขอหย่ากับ Paul ซึ่งแน่นอนว่าเขาโกรธเธอจนถึงขีดสุดแถมเขายังสงสัยว่าเธอจะมีความสัมพันธ์กับ Peter bogdanovich จนถึงขั้นจ้างนักสืบมาตามสืบอีกด้วย

จุดจบอันแสนเศร้า

อยู่มาวันหนึ่ง Dorothy ก็อยากเคลียร์กับ Paul เพราะเธออยากให้ความสัมพันธ์จบลงด้วยดี เธอจึงโทรหา Paul ซึ่งเขาก็ได้นัดเธอมาพูดคุยกัน และเขาได้นัดเจอเธอที่บ้านเช่าของเขา และคาดว่าทั้งคู่อาจทะเลาะกันโดย Paul ได้ยิงไปที่ Dorothy จนเสียชีวิตและเขาได้ยิงตัวตายตาม ซึ่งผู้ที่พบศพก็คือเพื่อนของ Paul ที่เข้ามาเจอนั่นเอง

หลังจากนั้นเรื่องราวของ Dorothy ได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Star 80 อีกด้วย


อ่านบทความอื่นๆ ของ CLEO ที่:

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']