ต่อให้รักกันมากแค่ไหน แต่พอต้องมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทำไมมันไม่เหมือนในหนังในซีรีส์ที่เขานอนบนเตียงกอดกันอย่างมีความสุข ยิ่งคนที่แต่งงานหรืออยู่กับแฟนทุกวัน ตื่นกลางคืนแล้วรู้สึกหนาวๆ หลับๆ ตื่นๆ ตลอดเวลา ลืมตาขึ้นมาอ๋อ คุณชายเขาม้วนตัวเอาผ้าห่มไปหมดเลย ในใจเริ่มเคืองว่านี่เป็นคนเห็นแก่ตัวเหรอ เริ่มมีปมในใจ เกิดเป็นการทะเลาะ นอนไม่พอ สะสมไปเรื่องอื่นๆ เราได้ไปเจอเทคนิคการนอนที่ช่วยลดปัญหาความสัมพันธ์ได้ดีแบบคนสแกนดิเนเวียน นั่นก็คือไม่ต้องแย่งผ้าห่มกัน จบค่ะ!
ผ้าห่มผืนเดียวสำหรับสองคนเป็นเรื่องไม่จริง…
ภาพเตียงสวยๆ ผ้าห่มดึงตึงๆ อาจจะเหมาะกับคู่รักที่ค้างด้วยกันนานๆ ครั้ง หรือไปนอนโรงแรมผ้าห่มผืนเดียวสบายมาก แต่ในคืนที่เหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งคู่ แล้วต้องมาเจออีกคนดึงผ้าห่มไปบ้าง ถีบผ้าห่มขยับจนเราตื่นบ้าง ทำให้สุขภาพจิตและคุณภาพในการนอนค่อยๆ ดิ่งลงเป็นกราฟหุ้นจนเราสุดจะทน ขนาดคนอเมริกันเองยังยอมรับว่า 1 ใน 3 นอนไม่เพียงพอ 7 ชั่วโมงและการแย่งผ้าห่มกันเป็นสาเหตุแรกๆ ที่ทำให้คู่รักต้องตื่นมาระหว่างกลางคืน
แต่เรื่องนี้คนแถบสแกนดิเนเวียนอย่างชาวเดนมาร์คบอกว่าพวกเขาใช้วิธีมีผ้าห่มเป็นของตัวเองคนละผืนไปเลย เพราะความชอบของคนเราไม่เท่ากัน ฉันเป็นผู้หญิงขี้หนาว เขาเป็นผู้ชายขี้ร้อนซึ่งก่อนแต่งงาน เราจะมองข้ามความต่างเรื่องนี้ไป เพราะช่วงนั้นความรักบังตา พอต้องมาปรับตัวอยู่กับอีกคนที่ไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน ผ้าห่มเป็นทางแก้ปัญหาถ้าต้องเปิดแอร์เย็นๆ เราสามารถเลือกเนื้อผ้าอุ่นๆ หนาๆ ส่วนของเขาก็จะห่มผ้าที่เนื้อเย็นๆ หรือบางหน่อยก็พากันไปเลือกที่แผนกเครื่องนอนเอาตามชอบเลยจ้ะ
อุณหภูมิร่างกายก็มีส่วน ถ้ามีแฟนขี้ร้อน ตัวเขาจะส่งไอความร้อนออกมาเยอะ ทำให้เรานอนใต้ผ้าห่มเดียวกันแล้วไม่สบายตัว ห่มก็ร้อนเกินไป เปิดผ้าห่มก็หนาวไปอีก นอกจากนี้คนสแกนดิเนเวียนยังชอบอากาศธรรมชาติ อันนี้เข้าใจว่าภูมิประเทศเมืองหนาว เปิดหน้าต่างแล้วมีความสุข แต่เอาจริงๆ บ้านเราก็ทำได้นะ อาจจะก่อนนอนเปิดหน้าต่างๆ ทิ้งไว้ ถ้าร้อนอาจจะเปิดพัดลมช่วยหน่อย จากนั้นค่อยเปิดแอร์ให้อากาศในห้องถ่ายเท เพราะบางทีห้องปิดทั้งวันอาจทำให้รู้สึกอึดอัด นั่งพักคุยกันสักนิดกับอากาศธรรมชาติแล้วค่อยเปิดแอร์ปิดไฟเข้านอนก็เป็นการพักผ่อนที่ดีเหมือนกัน